Inside Dara
ยอมรับไม่มีสัมมาคารวะ!! ปันปัน สำนึกผิดขอลาออกนาดาว

ปันปัน สุทัตตา ยอมรับผิด กรณีโพสต์แรงถึง น้ำชา ชีรณัฐ บอกที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ได้โทรไปขอโทษน้ำชาแล้ว อีกฝ่ายก็เข้าใจ ถ้ามีเวลาว่างตรงกันจะเข้าไปขอโทษอีกครั้ง ตอนนี้ลงโทษตัวเองด้วยการขอลาออกจากนาดาวแล้วมาดูแลตัวเอง เพราะรู้สึกผิดกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด ได้บทเรียนเยอะมากและสำนึกผิดแล้ว...

จากกรณีที่สาว ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ โพสต์ข้อความในไอจีแรงถึง น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์ ทำให้เป็นประเด็นร้อนอยู่หลายวัน และกลายเป็นที่วิจารณ์ของคนในโซเชียลกันทั้งเมือง โดยมีแต่คำสัมภาษณ์ของน้ำชาออกมา ซึ่งน้ำชาเองก็ไม่โอเคกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกเซ็งกับเรื่องนี้ จนถึงขั้นคิดจะฟ้องคนที่ทำให้ตนเองเสียหาย ล่าสุด ถึงคราวของปันปัน ได้ชี้แจงกับเรื่องนี้บ้าง โดยผู้สื่อข่าวได้ไปรอที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งปันปันเพิ่งกลับมาจากภูเก็ต พอดี และได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า

"อย่างแรกเลยหนูต้องขอโทษก่อนสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ มากๆ พูดตรงๆ เลยแล้วกันคือ หนูก็ไปได้ยินเรื่องราวมา แล้วเราก็รู้สึกตกใจว่า คืออะไร ซึ่งเรื่องราวพวกนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตัวหนูเลย เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว และเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หนูผิดเองที่เข้าไปก้าวก่ายเขา อันนี้เรารู้สึกผิดจริงๆ ที่เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เราก็เข้าใจถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนเข้ามาว่า เป็นหนูก็โกรธเหมือนกัน ซึ่งหนูเข้าใจพี่น้ำชา เพราะเป็นหนูก็โกรธเหมือนกัน หนูก็ได้โทรไปขอโทษพี่น้ำชา ขอโทษพ่อแม่พี่เขา ซึ่งก็มีการได้คุยกันแล้ว หนูรู้สึกผิดมากๆ แล้วรู้สึกผิดกับทางต้นสังกัดนาดาว ด้วย หนูรู้สึกผิดกับการกระทำครั้งนี้มากๆ มันเป็นอะไรชั่ววูบจริงๆ" น.ส.สุทัตตา เผย...

โดยปันปัน เผยว่า คู่กรณีเข้าใจว่าผู้หญิงอาจจะมีอารมณ์แบบนี้ ซึ่งเท่าที่คุยถือเป็นการคุยกันด้วยดี ถึงน้ำชาจะมีอารมณ์โกรธอยู่บ้างก็ตาม และจะมีการนัดเจอกัน เพื่อไปขอโทษต่อหน้าอีกครั้ง

"ทันทีที่ทั้งหนูกับพี่น้ำชาว่างตรงกัน ก็จะนัดเจอกันทันที ส่วนเรื่องราวที่เป็นชนวนเหตุที่รับรู้มา ที่บอกว่าเกี่ยวกับพี่มาร์ช เอาเป็นว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว หนู ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะอย่างที่บอกมันไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว ก็ไม่อยากที่จะพูด เพราะมันเป็นเรื่องของชีวิตเขาเอง ซึ่งเรื่องที่หนูรู้มาจริงไม่จริงยังไง เราก็ไม่ทราบเหมือนกัน ส่วนเรื่องหึงหวง คือ กับพี่มาร์ช เราก็เคยสนิทกัน ม๊าก มาก แต่มันก็ผ่านไปสักพักแล้ว ก็ไม่ได้คุยไม่ได้อะไรกันแล้ว ถามว่าหึงเขาสองคนไหมก็ไม่นะ คือ เขาทำงานด้วยกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะหนูก็สนิมกับคนที่หนูทำงานด้วย คือ เรื่องที่เราไปฟังมาแล้วรู้สึกทะแม่งๆนิดหนึ่ง อาจจะไม่จริงก็ได้ แต่ได้ยินมา ถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับพี่มาร์ชไหม ก็มีส่วน ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่หนูรู้สึกผิด เพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว โดยตอนนี้หนูเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่มาร์ชแล้ว" ปันปัน กล่าว...

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เรื่องที่รู้มามันแรงมากถึงขนาดที่ต้องโพสต์คำแรงขนาดนั้นเลยเหรอ

"คำที่หนูมันแรงมากจริงๆ หนูยังตกใจตัวเองเลย ก็รู้สึกผิด และขอโทษทุกคน เพราะหนูเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่ทำอย่างนั้นไป หนูขอโทษ (ตอนโพสต์มีสติสัมปชัญญะครบใช่ไหม) โอ้ย...อยู่ทะเล อยู่กับเพื่อน ก็ไม่ มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ เอาจริงๆ หนูก็โพสต์ไป ก็งงตัวเองตอนนั้นเหมือนกัน ยังงงอยู่ถึงตอนนี้ว่าเราทำอะไรลงไป"

หลังจากโพสต์ไปก็มีกระแสโจมตีกลับมาเยอะ

"ก็อย่างที่เห็นว่าหลังจากโพสต์ไปหนูก็เลอะเหมือนกัน หนูก็ยอมรับว่าหนูทำจริงๆ และขอโทษจริง และยอมรับว่า แคปชั่นแรงจริง ผิดตรงนี้จริงๆ มองย้อนกลับมาถ้ามีคนมาทำแบบนี้กับหนู หนูก็ด่าเหมือนกัน ซึ่งหนูเข้าใจเขามากๆ ที่เขาโกรธขนาดนั้น" นางเอกสาวบอก

ปันปันพร้อมที่จะยอมรับบทลงโทษทุกอย่างใช่ไหม ดาราสาว กล่าวว่า "ถึงจุดนี้หนูไปคิดมาแล้วว่าบทลงโทษที่หนูจะให้ตัวเองคือจะออกจากสังกัดนาดาว เพราะสิ่งที่มันเกิดขึ้นทำให้บริษัทเสียชื่อหลายครั้งแล้วด้วยหนูสงสาร พี่จินา โอสถศิลป์ พี่ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล และพี่วรรณ-วรรณฤดี พงษ์สิทธิ์ศักดิ์ ทุกคนให้โอกาสหนูมาเยอะมาก แต่หนูก็ยังทำให้พวกเขาผิดหวัง เลยรู้สึกว่าตอนนี้หนูเลยออกมาและเอาเวลาตรงนี้มาพิจารณาตัวเองดู ออกมาดูแลตัวเองก่อน การตัดสินใจครั้งนี้หนูได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้ถึงขั้นที่บอกว่า จะพักในเรื่องของการแสดง เพราะหนูก็ยังมีซีรีส์กับทางบริษัทอยู่ พรุ่งนี้ก็ยังต้องมีไปถ่าย อย่างที่บอกว่า ได้คุยกันถึงเรื่องที่หนูจะออกจากสังกัดซึ่งทางครอบครัวและผู้ใหญ่ก็บอกว่า นี่อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับหนูแล้ว"

"ถามว่าทางต้นสังกัดมีรั้งไว้ไหม จริงๆ ตอนนี้ก็ยังมีงานที่ทำด้วยกันอยู่ ซีรีส์จะออกอากาศปลายเดือนกันยายนนี้ เดี๋ยวคงจะต้องมีเดินสายโปรโมตอยู่ดี ในเรื่องของงานในเมื่อหนูรับมาแล้วก็ต้องทำจนต่อให้เสร็จ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่หนูก็ควรจะต้องพิจารณาตัวเอง ทำอะไรทีก็เป็นเรื่องใหญ่โต ส่วนที่คนสงสัยว่าหนูไม่เข็ดเหรอถึงทำเรื่องอะไรขึ้นมาอีก เข็ดสิคะ ใครจะอยากโดนแบบนี้ล่ะคะ จริงๆ ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมา หนูก็ได้บทเรียนมาตลอด แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบางครั้งคนบางคนมันก็ผิดพลาดโดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดว่าทำแบบนี้ไปแล้วมันจะพลิกมาเป็นแบบนี้ แล้วหนูก็ไม่ได้คิดที่จะพูดคำว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วย หนูทำผิดก็ยอมรับว่าผิดค่ะ" ปันปัน กล่าว

หลังจากนี้พอไม่มีสังกัดแล้วกลัวว่าตัวเองจะยิ่งเตลิดไปกว่าเดิมไหม ปันปัน กล่าวว่า "ไม่หรอกค่ะจริงๆ พ่อแม่หนูดูแลหนูดีนะคะ"

เคยคิดถึงขั้นอยากออกจากวงการเลยไหม นักแสดงสาว กล่าวว่า "เคยคิดนะเพราะอยู่แล้วเหนื่อย แต่ว่าออกไปแล้วยังไงอ่ะ ออกไปปุ๊บไม่มีงานไม่ทำงาน เดินข้างถนนคนก็รู้จักหนูดี หนูเคยคุยกับพ่อแม่แล้วเรื่องนี้ เพราะเคยถามว่าปันปันเหนื่อยไหม เหนื่อยก็ไม่ต้องทำก็ได้นะ พ่อแม่ดูแลหนูได้จริงๆ เหนื่อยก็ออกมาเถอะเพราะสงสาร เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นหนูยังไม่ได้คุยกับพ่อเยอะ เพราะตอนที่ไปเที่ยวทะเลมันไม่ค่อยมีสัญญาณ พ่อก็แค่ทักมาถามว่ามันจริงหรือเปล่าพ่อสอนแกมาดีมาก ให้ทุกอย่าง แกมีทุกอย่างทำไมถึงชอบทำลายชีวิตตัวเอง เอาจริงๆ พ่อเขาก็ผิดหวัง แต่เดี๋ยวกลับไปได้เจอกันก็คงคุยกัน"

"หนูก็ยอมรับว่าสิ่งที่พ่อพูดมามันทำให้ได้ฉุกคิด เพราะหนูเองก็เป็นคนใจร้อน ควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ บทเรียนที่ได้ครั้งนี้ก็เยอะมาก หนูเป็นคนของสังคมทำอะไรก็ต้องระวังทุกอย่างเลย หลังจากนี้อาจจะพักการเล่นโซเชียลไปซักระยะหนึ่ง" ปันปัน กล่าว

รู้สึกยังไงกับกระแสสังคมที่บอกว่าปันปันไม่เหมาะที่จะยืนอยู่ตรงนี้ ดาราสาว กล่าวว่า "หนูก็ยอมรับได้ในสิ่งที่ทุกคนคิดกัน แต่หนูก็ยังที่จะอยู่ตรงนี้ยังไม่ได้ไปไหน งานก็ยังมีอยู่ จริงๆ หนูเป็นคนที่ตั้งใจทำงานและตั้งใจเรียน รวมถึงพยายามที่จะควบคุมตัวเองให้ไปในทางที่ดี อยู่กับพ่อแม่มากขึ้น"

หลังจากนี้ความสัมพันธ์กับพี่มาร์ชจะเป็นยังไงต่อไป ปันปัน กล่าวว่า "ช่วงที่ผ่านเหตุการณ์ตอนที่เลิกกันแรกๆ ก็ยังคุยติดต่ออะไรบ้างแต่หลังๆ ก็ไม่ได้คุยอะไรกันแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องคุยกันแล้ว ส่วนเรื่องธุรกิจมาสก์หน้าทำด้วยกันตอนนี้ก็ยังทำด้วยกันอยู่ แต่ว่าถ้าของในสต๊อกล็อตสุดท้ายนี้หมดก็จะไม่ทำด้วยกันแล้ว หลังจากนั้นถ้ามีเหตุที่จะต้องคุยกันก็คุย แต่ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นก็ไม่จำเป็นต้องคุย"

สุดท้ายนี้อยากพูดอะไรกับพี่น้ำชาไหม ปันปันกล่าวว่า "หนูขอโทษจริงๆ ขอโทษพี่ ขอโทษผู้จัดการของพี่ ขอโทษพ่อแม่ของพี่ ขอโทษทุกๆ คน ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งที่หนูทำไป หนูขอโทษที่ไปก้าวก่ายชีวิตพี่ รวมถึงไม่มีสัมมาคารวะใส่ ปีนเกลียว ยังไงหนูต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ส่วนพี่มาร์ช หนูก็ต้องขอโทษที่ครั้งนี้เข้าไปก้าวก่ายชีวิตของพี่อีกครั้ง ขอโทษที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทุกอย่างขึ้น หนูเป็นคนผิดเองทุกอย่างค่ะ"

ด้าน บอมบ์ จงจิตต์ อินทุ่ง Senior Artist Management Manager ในฐานะตัวแทนของบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ต้นสังกัดของ น.ส.สุทัตตา ได้เปิดเผยถึงบทลงโทษกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักแสดงสาวว่า

ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางนาดาวมีมาตรการอย่างไรจัดการเรื่องนี้? "อย่างที่น้องเค้าตอบไป ทางครอบครัวของน้อง ได้โทรมาคุยกับทางนาดาว แต่พอดีพี่ย้งกับพี่จีน่าติดงานที่ต่างจังหวัด คือ ทางน้องเค้าบอกกับทางครอบครัวว่า น้องเค้ารู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น เวลาเค้าทำอะไรก็แล้วแต่ ทั้งเหตุการณ์ครั้งที่ 1 ที่ 2 ที่ผ่านมารวมถึงครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม แต่เค้ารู้สึกว่า เค้าทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว บริษัท ที่ทำให้เสียชื่อเสียง เค้าจึงพิจารณา เค้าขอจะออกไปดูแลตัวเอง ซึ่งปันปันเป็นนักแสดงในสังกัดนาดาวบางกอก ซึ่งสัญญาตอนนี้ของเค้ายังมีอยู่ ที่ผ่านมาทางนาดาวมองว่า เรื่องสัญญาเป็นเพียงนิติกรรม ทำเพื่อให้รู้ว่าทางบริษัทมีหน้าที่ดูแลเค้า แต่ว่าในทางปฏิบัติแล้ว เราดูแลกันเหมือนครอบครัว พี่น้อง การที่ปันปันออกไปดูแลตัวเอง และสัญญายังคงอยู่ มันก็เหมือนกับว่า เรายังมีความผูกพันกัน และสามารถดูแลกันในแบบพี่น้องได้ โดยที่เรื่องสัญญามันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น"

ถ้าสมมติว่า น้องไม่ได้ประกาศขอออกมาดูแลตัวเอง ทางนาดาวจะมีมาตรการอย่างไร? "ทางเรามีการพูดคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ดี แต่น้องเค้าเป็นคนออกมาพูดก่อน และพิจารณาตัวเองรู้ผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรารู้สึกว่า ในเมื่อเค้าออกมายอมรับ เราก็เลยตกลงตามที่เค้าต้องการ"

ในกรณีนี้มีผลกระทบกับทางค่ายไหม ในแง่ของการดูแลศิลปินในสังกัด? "บางทีเราไม่สามารถไปดูแลทุกคนได้ในเรื่องส่วนตัว เพราะที่ผ่านมาเราสามารถดูแลเค้าได้ เรื่องการรับผิดชอบงาน จัดสรรเวลา รับผิดชอบให้งานออกมาประสบความสำเร็จ แต่เรื่องส่วนตัวเราไม่ได้อยู่กับศิลปินตลอด 24 ชม. เด็กแต่ละคนก็ต้องดูแลตัวเองกันด้วย"

ทางค่ายเองก็มีเด็กรุ่นใหม่ เกิดขึ้นมาเยอะ จะมีการตั้งรับมือต่อไปหรือไม่? "จริงๆเราไม่อยากให้คิดว่าต้องทำมาตรการหรือกฎอะไรออกมา เพราะเด็กแต่ละคนมีการเติบโตและดูแลจากครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน ความคิด พฤติกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราไม่อยากเอามาตรการมาตัดสินหรือกำหนดว่าใครควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เพียงแต่เมื่อไหร่ที่เหตุการณ์เหล่านั้น มันทำให้การทำงานมันไม่ประสบความสำเร็จ เสียงาน ไม่มีความรับผิดชอบต่องาน อันนี้เราต้องพิจารณาเค้าเป็นรายไป"

หลังจากที่ปันปันออกมาดูแลตัวเอง จะมีโอกาสกลับมาร่วมงานกับนาดาวได้หรือไม่? "ตอนนี้ที่เราคุยกันอยู่ มันคือการตัดสินใจของเค้า ซึ่งตอนนี้ก็เพิ่งมีงานของปันปันที่เพิ่งถ่ายจบไป และเรากำลังจะทำโปรโมท ถ้าเค้ายินดีที่จะมาร่วมโปรโมท เราก็ยินดี และในอนาคต ในแง่การร่วมงานซึ่งมีในโซเชียลพูดว่า ทางนาดาวพยายามดันน้อง ทั้งๆที่น้องทำตัวแบบนี้ เราขอยืนยันได้เลยว่างานของนาดาวแต่ละชิ้นส่วนใหญ่ทำเพื่อให้มีคุณภาพให้คนดูได้เห็นสิ่งที่มันดีที่สุด ถ้าน้องเค้าเหมาะสมกับคาแรกเตอร์บทบาทไหน เราก็ยินดีให้เค้ามาร่วมงาน นี่ไม่ใช่เฉพาะแค่ปันปัน รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆด้วย เกี่ยบกับเรื่องการขอออกมาดูแลตัวเองของปันปัน ก็จะมีผลวันนี้ (31 ก.ค.59)"

จะมีปัญหาตามมาหรือไหม เกี่ยวกับการออกมาดูแลตัวเองของปันปัน? "ณ ตอนนี้สัญญามันยังไม่จบ เราสามารถยกเลิกสัญญากันได้ ไม่มีปัญหา ซึ่งสัญญาของปันปันมันยังเหลืออีกเยอะ และเพิ่งเซ็นสัญญากับทาง GDH"

ถามว่าทางผู้ใหญ่ทาง GDH เอ็นดูปันปันยังไงบ้าง? "ในส่วนของการทำงาน ปันปันถือว่าเป็นเด็กที่มีศักยภาพสูง แต่เค้ายังเด็ก การที่เค้าทำอะไรในชีวิตประจำวันในเรื่องส่วนตัว เราก็อยากให้เค้าระมัดระวังแล้วพิจารณานิดนึง กับการกระทำแต่ละครั้ง ให้นึกถึงผลที่จะตามมา และเหมือนตอนนี้เค้ารู้ตัวแล้วทุกอย่าง เวลาที่เราคุยกันเค้าก็จะเป็นคนออกมาขอโทษเอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องบอก ถามว่าเราได้พูดหรือตักเตือนปันปันอะไรไปบ้างหรือไหม ก็มีพูดและตักเตือนไปบ้าง เค้าเหมือนจะรู้ตัวเอง เค้าบอกว่า เหมือนสิ่งที่เค้าโพสต์ไป เค้าไม่รู้ตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องตักเตือนเค้า ว่าหลังจากนี้ ปันปันจะทำอะไรต้องมีสติ ณ ตอนนี้ระหว่างนาดาวและปันปันถือว่าจบด้วยดี และหากในอนาคตมีโปรเจคใดๆก็ตาม และเราเล็งเห็นว่า ทำให้งานมีคุณภาพและประสบผลสำเร็จ เราก็ยินดีที่จะให้ปันปันมาร่วมงาน