เรียกว่าไฟเขียวแบบผ่านฉลุยเลยก็ว่าได้ สำหรับ เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล ทายาทรุ่น 3 แห่ง ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน แฟนหนุ่มของ เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวนักร้องดีวารุ่นใหญ่ ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย ที่ตอนนี้ทั้งคู่ได้บินไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
ล่าสุด ตู่ นันทิดา ได้ออกมาเผยกับสื่อมวลชนหลังเพิ่งบินกลับจากการไปหาลูกสาวให้ฟังว่า ไปเอากำลังใจในการทำงานเพิ่ม โดยมีคุณยายไปด้วย งานนี้ยังเอ่ยปากชม เป๊ก เศรณี ว่าดูแลน้องเพลงได้ดีมาก เหมือนอย่างที่เคยรับปากไว้ ซึ่งก็ทำให้เธอวางใจและเชื่อใจในความปลอดภัยขึ้นมาอีกระดับ
เรียกว่าไฟเขียวแบบผ่านฉลุยเลยก็ว่าได้ สำหรับ เป๊ก-เศรณี ชาญวีรกูล ทายาทรุ่น 3 แห่ง ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน แฟนหนุ่มของ เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวนักร้องดีวารุ่นใหญ่ ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย ที่ตอนนี้ทั้งคู่ได้บินไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ
ล่าสุด ตู่ นันทิดา ได้ออกมาเผยกับสื่อมวลชนหลังเพิ่งบินกลับจากการไปหาลูกสาวให้ฟังว่า ไปเอากำลังใจในการทำงานเพิ่ม โดยมีคุณยายไปด้วย งานนี้ยังเอ่ยปากชม เป๊ก เศรณี ว่าดูแลน้องเพลงได้ดีมาก เหมือนอย่างที่เคยรับปากไว้ ซึ่งก็ทำให้เธอวางใจและเชื่อใจในความปลอดภัยขึ้นมาอีกระดับ
“ต้องบอกเลยว่าไปเอากำลังใจจากเขากลับมาเลย และอยากพาคุณยายไปด้วย น้องเพลงกว่าจะเรียนจบก็คือปลายปี ซึ่งเขาก็เป็นอีกแรงที่บอกว่าแม่ต้องเล่นละครเวทีเรื่องบัลลังก์เมฆ แม่ทำได้ เพราะเพลงจะบินกลับมาดู และบอกว่าจองไว้แล้วด้วยนะ ก็ต้องเต็มที่ค่ะ ถ้าทุกคนเชื่อใจ ปีนี้ก็ 60 ด้วยก็เลยขอเก็บเป็นประสบการณ์”
แต่ยังเหมือนอายุ 40 อยู่เลย ?“โห ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
ระยะเวลา 2 อาทิตย์ที่ได้อยู่ด้วย เป็นอย่างไรบ้าง ?“น้องเพลงน่ารักมาก เขาบอกว่าช่วงเวลาที่คุณแม่มาเป็นช่วงเวลาที่เขายุ่งมาก เขาต้องปั่นรายงานเยอะมาก เราก็คิดว่าจะทำยังไงดี เพราะตอนช่วงที่ลูกว่างตอนเดือนกุมภาพันธ์ แม่ก็ไม่ว่าง พอมีนาคมก็ว่างแบบฟันหลอ ไปได้แค่ 4 วัน เดี๋ยวต้องกลับมาทำงานอีก 2 วัน ก็จะมีว่างแค่ตอนนี้เลยช่วงเมษายน เพราะต้องเคลียร์คิวให้ว่างสำหรับละครเวที พอเราขอทางโปรดิวเซอร์ว่าพอจะบินไปได้ไหม 2 อาทิตย์ก่อนเริ่มซ้อม เขาก็บอกได้เลย รีบไปเลย พอเสร็จก็รีบกลับมาซ้อมเลยค่ะ”
คุณยายแฮปปี้ไหม ได้ไปเจอหลาน ?“ต้องบอกว่าเหมือนต่ออายุให้ยายนะคะ เพราะปีนี้ยายจะครบรอบ 92 ปีแล้ว ตอนแรกคุณยายบอกไม่ไป ให้รอไปตอนรับปริญญาเลยปลายปี เราก็บอกให้เอาตอนนี้ก่อนไหม เราจะไปกันสองคน สงกรานต์เราจะไปอยู่ที่นั่น แม่ก็บอกให้บินไปคนเดียวเถอะ เราก็ถามแล้วคิดถึงหลานไหม ยายก็บอกคิดถึง เราก็เลยบอกงั้นก็ไป จากนั้นเขาก็จัดกระเป๋าใหญ่เลย เพราะเพลงบอกอากาศกำลังดี ไม่หนาวไม่ร้อน แต่พออีกวันเพลงบอกอากาศติดลบหนึ่งองศา แม่รีบรื้อผ้าออกหมดเลย เพลงเลยบอกยายว่า อากาศหนาวแค่ไหนก็ให้มันรู้ไปว่ามาหาหลานแล้วจะไม่อุ่น (ยิ้ม)”
เหมือนจะได้เจอว่าที่หลานเขยด้วย ?“อย่างที่บอกเลยค่ะ ความตั้งใจที่สุดคือยายเลย เพราะยายอายุ 92 ปีแล้ว คือเราเป็นคนที่ไม่เคยแพลนอะไร อะไรที่คิดได้ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ก็จะทำเลย ไปเลย ก็เลยพาคุณยายไป ซึ่งพอไปแล้วก็ไปเจอลูกและคนพิเศษของลูก ก็ถือว่าเป็นลูกอีกคนหนึ่งเหมือนกัน ได้มีเวลาแชร์กัน เขาเตรียมทำรายงานไว้ก่อนเลย ลุกขึ้นมานั่งทำรายงานตอนตีสองถึงหกโมงเช้า”
คุณแม่ให้ผ่านไหมในเรื่องของการช่วยดูแลกันและกัน ?“อันนี้บอกตรงๆ เลยนะคะในความเป็นแม่ เราก็เบาใจ ครั้งแรกเป็นห่วงจริงๆ ยังบอกลูกเลยว่าต้องนั่งรถใต้ดินเอง ซึ่งที่อังกฤษมันก็ยังเก่าๆ และที่มหาวิทยาลัยคาบที่เขาเรียนคือบ่ายสาม จะเลิกเรียนอีกทีก็ตอนสามทุ่ม ออกมาแล้วเปลี่ยวมาก เปลี่ยวจริงๆ พี่ไปดูแล้วมันปิดทุกร้านหมดเลยนะคะ แต่ก็ดีที่น้องเป๊กมาบอกว่า ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวผมมารับน้องเพลงเอง เราต้องขอบคุณตรงนี้นะคะ เพราะลูกไม่ได้พูดแค่คำพูดที่บอกให้แม่สบายใจ น้องเพลงก็มาบอกเหมือนกันว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เป๊กยังมายืนรอรับที่สถานี มาส่งที่สถานีตลอด ถ้าเพลงจะรอก็ให้รอในมหาวิทยาลัย ไม่ให้ออกมา อย่ามายืนรอข้างนอกนะ”
เรียกว่าได้ใจคุณแม่ไปเลยไหม ?“อันนี้ต้องบอกเลยว่า ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเป๊กนะคะ พี่เชื่อว่ามาจากการเลี้ยงดูค่ะ เราเลี้ยงลูกเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เขาเลี้ยงใกล้ตัวคุณพ่อคุณแม่มาก มันเลยทำให้เรารู้ว่าตรงนี้เป็นหน้าที่ที่เขาเต็มใจทำ เพราะเขาก็ถูกสอนมาแล้วจากคุณพ่อคุณแม่”
แบบนี้มองไกลถึงเรื่องอนาคตหรือยัง ?“หูย เอาแค่ตรงนี้ก่อนดีกว่าค่ะ การที่เราทำอะไรก็ตามก็อยากไปให้ดีที่สุด จะรักใครก็ตามหรือจะทำอะไรก็อย่ากั๊ก ทำให้มันถึงที่สุด แต่เมื่อถึงวันนั้นมันจะเป็นอะไร จะใช่หรือไม่ใช่ ไม่มีใครรู้ สิ่งที่บอกเราได้คืออดีตที่ผ่านมาที่จะบอกปัจจุบันได้ดีที่สุดเลย ตอนนี้ก็บอกน้องเพลงได้อย่างเดียวว่า รักเถอะลูก อย่ากั๊ก ทำให้สุดๆ และเมื่อถึงวันนั้น ใช่หรือไม่ใช่ ไม่รู้ แต่ลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าเราไม่ได้เต็มที่แบบสุดๆ กับมัน”
เหมือนวางใจให้เขาดูแลลูกสาวเรามากขึ้น ?“การที่เราได้คุยกับเป๊ก และเจอกันมาบ้างแล้ว เพราะเขาเป็นเพื่อนกันมาก่อน คราวนี้ที่ไปก็มีการได้พูดคุยกันมากขึ้น เรามีความรู้สึกว่าเป๊กเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดคุณยายกับคุณแม่มากที่สุด เป็นเด็กที่ไม่รำคาญคนแก่อ่ะค่ะ ชีวิตจริงๆ ของเป๊กเองเป็นคนที่ดูแลคุณยาย เล่นกับคุณยาย ถ้าถามว่าเราวางใจไหม เราวางใจค่ะ”
ทางตัวเพลงเอง ยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานใช่ไหม ?“โห เขายังต้องเรียนค่ะ ยังต้องทำงาน ยังต้องมีอะไรอีกเยอะแยะค่ะ อีกเยอะเลย น้องก็ยังไม่มีมาพูดคุยเรื่องนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่ถามถึงน้องเพลงนะคะ ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม)”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012