Inside Dara
พิม พิมประภา ค้นพบตัวเอง นักแสดงอิสระ ตอบโจทย์ชีวิต เป็นแพสชั่นที่อยากจะทำ

วันที่ 1 ก.พ 64 ที่ Dad Studio ถนนประดิษฐ์มนูธรรม นักแสดงสาว พิม พิมประภา ตั้งประภาพร มาร่วมงานฟิตติ้งละคร เรื่องเมียหลวง จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชลถึงเรื่องมี่เป็นนักแสดงอิสระ หลังจากที่หมดสัญญากับต้นสังกัดเดิม พร้อมรับงานแสดงได้ทุกที่

ออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วเป็นยังไงบ้าง “ก็ดีค่ะ ตื่นเต้นมาก นอนไม่หลับเลยเจอทีมใหม่ ๆ จะเป็นยังไงบ้าง เหมือนเราได้ออกโลกกว้างแล้ว”

ทำไมตัดสินใจเป็นนักแสดงอิสระ “เหมือนพิมค้นพบตัวเองว่าเราเป็นคนที่ทำอะไรหลากหลายมาก ถ้าแฟนคลับที่ติดตามจะรู้ว่าเราทั้งเล่นละคร ร้องเพลง ทำยูทูป เราได้ค้นพบว่าเราได้ทำอะไรที่หลากหลาย มากๆ เลยคิดว่าบางทีเราอาจจะเหมาะกับการเป็นอิสระ แต่พิมไม่ได้มองว่าเราจะออกมาเป็นอิสระ เพื่อรับงานละครเพียงอย่างเดียว แต่มันตอบโจทย์หลาย ๆ อย่างในสิ่งที่เราชอบและอยากทำ”

ตัดสินใจนานไหม “จริง ๆ ไม่ได้อยู่ในพาร์ตของการตัดสินใจ เหมือนเราค่อยๆ ค้นพบตัวเองเรื่อยๆ พอเราลองใช้ชีวิต ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ก็รู้ว่าเราชอบ เรามีความสุขที่ได้ทำแบบนี้ แล้วมันก็มีคำตอบขึ้นมาเองว่าการเป็นอิสระอาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตของเรา เป็นแพสชั่นที่เราอยากจะทำ”

เตรียมรับมือกับความเสี่ยงไว้ยังไง “แน่นอนว่าต้องเสี่ยงอยู่แล้ว แต่พิมรู้สึกว่าเราต้องมีความสุขกับการทำงานด้วย การที่พิมได้ทำตามแพสชั่นของตัวเอง มันคือความสุขของเรา ซึ่งพิมก็ทำเต็มที่เหมือนเดิม โชคดีด้วยที่พอเราเป็นอิสระ ก็ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่เยอะมากๆ ก็ต้องขอบคุณทุกคนมากที่ให้การตอบรับที่ดี รวมถึงพี่ ๆ นักข่าวด้วย”

ได้คุยกับแซมมี่บ้างไหม “ก็จับมือพี่แซมมี่สู้ด้วยนะ(ยิ้ม)”

คุยกันก่อนไหมว่าจะไม่ต่อสัญญา “เรื่องนี้พิมไม่ได้มาตัดสินใจ หรือคุยกัน แต่พอเราค้นพบในสิ่งที่เราอยากจะทำ แล้วพี่เขาก็มีสิ่งที่อยากจะทำเหมือนกัน ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันพอดี เลยเหมือนให้กำลังใจกันมากกว่า”

ตอนนี้ไม่ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับที่ไหนเลยใช่ไหม “ไม่เซ็นค่ะ เป็นอิสระค่ะ ตอนนี้รับได้ทุกที่ถ้ามีผู้ใหญ่คนไหนสนใจติดต่อมาได้ค่ะ(ยิ้ม)”

ถ้ามีที่ไหนมาจีบเราโอเคไหม “จริงๆ ผู้ใหญ่หลายคนให้โอกาสเรา ก็มาจากหลากหลายช่องทาง พิมเลยยังไม่ได้มีความคิดว่าอยากจะไปเซ็นที่ไหน”

พอเป็นนักแสดงอิสระก็ได้รับบทเมียน้อยเลย รู้สึกยังไงบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นนางเอกเจ้าน้ำตามาโดยตลอด “ปกติเวลารับละครเราจะรู้สึกว่าเต็มที่ แต่บทเรื่องนี้พูดได้เต็มปากเลยว่ามีความกดดันสูงมาก เพราะเป็นละครที่รีเมกมาแล้วหลายครั้ง และประสบความสำเร็จรวมถึงเป็นที่จับตามองทุกครั้ง ยิ่งเรามาเป็นนักแสดงอิสระและรับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก หลายคนก็งงว่าแบบออกมาแล้วร้ายเลยเหรอ แต่พิมมองว่าเป็นการท้าทายตัวเอง การที่เราออกมาและมีโอกาสเลือกบทที่หลากหลายมากขึ้น ก็เลยโอเค ในเมื่อตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาเราเล่นเป็นนางเอกเจ้าน้ำตามาตลอด คนไม่เคยเห็นเราในพาร์ตอื่นเลย เราลองมาพิสูจน์ตัวเองให้คนเห็นดีกว่าว่าเราก็สามารถเล่นบทอื่นได้ด้วย”

ไม่ได้ยึดติดว่าเราจะต้องเป็นนางเอกทุกเรื่อง “ใช่ค่ะ พิมอิสระมาก ๆ เพราะว่าพอเราเป็นอิสระแล้ว พิมตั้งมายด์เซ็ตของตัวเองแล้วว่าพิมจะเป็นอิสระในทุกๆ อย่าง ไม่ตีกรอบตัวเองว่าเราจะต้องเป็นแค่นางเอกเท่านั้น หรือ เป็นแค่นักแสดงเท่านั้น พิมตีกรอบตัวเองไว้อย่างหลากหลาย ดังนั้นพอเราออกมาเป็นนักแสดงอิสระและรับบทร้าย ก็เหมือนเป็นการบอกทุกคนว่าเราทำทุกอย่างได้”

ต้องถามแซมมี่หรือไอซ์ไหม “เป็นความโชคดีมากที่บ้านพิม มีพี่ ๆ ที่ถนัดเล่นบทร้ายเยอะมาก ถ้าเกิดว่าเรามีปัญหาตรงไหนพิมสามารถโทรหาทุก ๆ คนได้หมดเลย”

ต้องปรับลุกส์ด้วยไหมเพราะบทค่อนข้างแรง “ค่ะ ก็ถือว่าปรับลุกส์เลย จริง ๆ ก็ถือเป็นการวัดใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทำได้ไหม เป็นการท้าทายตัวเองไปเลยว่าจะทำได้ดีหรือเปล่า แต่ว่าเราจะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบ เพราะแน่นอนว่าเทียบไม่ได้อยู่แล้ว แต่ละเวอร์ชั่นขึ้นหิ้งไปหมดแล้ว แต่เรามองว่าทุกเวอร์ชั่นเป็นไอดอลของเรา ที่พิมสามารถนำมาปรับใช้ในปี 2021 ของเราได้”

ในเรื่องของเลิฟซีนล่ะ “พิมยังอ่านไม่ถึงพาร์ตนั้น คือจะเริ่มแต่ระดับความร้ายไปเรื่อย ๆ และมีชั้นเชิงมากขึ้น ไม่ใช่แบบว่าอยู่ดี ๆ มาจุ๊บกันเลย ความเป็นอรอินทร์เวอร์ชั่นนี้จะมีชั้นเชิงมากขึ้น มีความฉลาดในการที่จะมัดใจผู้ชายที่ฉลาดมากๆ คนหนึ่งได้ ฉะนั้นเราจะไม่ได้เอาตัวเข้าแลกตั้งแต่ต้น ต้องใช้สมองก่อน เวอร์ชั่นนี้ทุกคนจะได้เห็นอรอินทร์ฉลาดมากขึ้น และมีเสน่ห์ที่ทุกคนอาจจะไม่เคยเห็น”

เตรียมใจกับเลิฟซีนจูบจริงไว้บ้างไหม “เตรียมใจไว้แล้วค่ะ พิมก็ติดตามผลงานของเช้นจ์มาหลายเรื่อง แน่นอนว่าเราต้องเตรียมใจมาในระดับหนึ่ง ว่าต้องมีฉากอะไรแบบนี้ แต่พิมว่าบทที่เขียนมามันความสมเหตุสมผล ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะเข้าเลิฟซีนอย่างเดียวเลย เพราะฉะนั้นถ้ามีเลิฟซีนออกมาต้องมีความสมเหตุสมผลแน่นอน”

ถ้าจูบจริงเราโอเค “ก็ต้องโอเคอยู่แล้วค่ะ”

เชื่อใจทีมงานอยู่แล้ว “เชื่อใจอยู่แล้วค่ะ พี่เขาให้โอกาสเราแล้ว เพราะฉะนั้นเราทำเต็มที่ให้สมบทบาทที่สุดค่ะ”

นอกจากเรื่องนี้มีเรื่องอื่นอีกไหม “มีติดต่อมาค่ะ แต่ตอนนี้พิมรู้สึกว่าพอเราเล่นร้ายแล้ว ต้องใช้การโฟกัสมากขึ้น 3-4 เท่า จากที่เมื่อก่อนเราเล่นเป็นนางเอก 2-3 เรื่อง เราก็ยังเป็นนางเอก แต่พอรับบทร้ายพิมรู้สึกว่าต้องโฟกัสบทนี้ให้มากจริงๆ เลยรู้สึกว่าถ้าเราร้าย ก็ไม่อยากสับสนกับบทอื่นที่มีความแตกต่าง ไม่ได้โฟกัสกับการเล่นบทนี้ให้ดีก่อนค่ะ”

ล่าสุดบอย ปกรณ์ กดฟอลโลว์ไอจีเรา “จริงๆ พิมติดตามพี่เขาในไอจีมานานแล้วค่ะ คือ พิมก็ฟอลโลว์พี่ๆในวงการบันเทิงหลายคน”

พอเขากดติดตามเราอย่างเป็นทางการรู้สึกยังไงบ้าง “ก็ดีค่ะ มีคนติดตามไอจีเราก็ดีใจ ตอนแรกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เขารู้จักเราหรือเปล่า”

เห็นบอยบอกเคยรู้จักทักทายคร่าวๆ “น่าจะทักทายตามงานมากกว่าค่ะ แต่ถ้ารู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่ได้รู้จักค่ะ”

มีไดเร็กต์ไอจีคุยกันหรือยัง “ไม่มีค่ะ”

หลังจากมีข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกันบ้างไหม “ไม่มีอะไรค่ะ แต่พิมทราบว่าพิมได้รับงานพรีเซนเตอร์ตัวเดียวกับพี่เขา”

เขายังไม่ได้จีบใช่ไหม “ไม่ค่ะ ไม่มีการคุยกันเลยค่ะ ไม่มีคุยกันส่วนตัวเลยค่ะ จริงๆ พิมเห็นข่าวจากที่มีคนแท็กมาถึงรู้ว่าพี่เขาติดตาม ไอจีก่อนหน้านี้เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ตัวเขาก็โสดกำลังหาแฟนอยู่นะ “เห็นว่าตอนนี้พี่เขามีข่าวกับเดียร์น่า”

ลุ้นคู่นั้นไปดีกว่าใช่ไหม “ค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ”