Inside Dara
บุ๋ม - รัญญา ศิยานนท์ เผยเรื่องคนรู้ใจและแหวนนิ้วนางข้างซ้าย

เล่าลือกันมาเข้าหูว่าตอนนี้ บุ๋ม – รัญญา ศิยานนท์ กำลังปลูกต้นรักกับเพื่อนหญิง มติชนออนไลน์ จึงต่อสายตรงไปพูดคุย

แล้วก็ได้ความว่า

“ไม่มีอะไร ก็เป็นพี่เป็นเพื่อนในชีวิตที่สนิทกันมากตอนนี้”

ถือว่าเป็นคนพิเศษด้วยหรือเปล่า เราถาม

“มาก” เธอตอบพลางหัวเราะ

ก่อนเล่าว่าความจริงก็รู้จักกันไม่นาน โดยเขาซึ่งเป็นนักวิชาการ “เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที” ทั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดตัวอะไรมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ปิดบัง

ส่วนที่เคยโชว์ภาพสวมแหวนวงงามบนนิ้วมือข้างซ้าย พร้อมคำบรรยาย I am married เจ้าตัวก็หัวเราะนำ แล้วว่า “มีคนให้แหวนค่ะ แล้วใส่ได้นิ้วนางพอดี แล้วคนใส่แหวนนิ้วนางก็

แปลว่าแต่งงานแล้วเนาะ” พูดแล้วก็หัวเราะอีก

ถามต่อไปอีกนิดว่าคนที่ให้ ใช่ ‘คนนั้น’ หรือเปล่า

“เป็นพี่ที่สนิทกันอ่ะค่ะ ใช้ชีวิตด้วยกัน แล้วเราเป็นแบบนี้มันไม่ควรจะแต่งงานอะไร แต่ก็ลงให้รู้สึกสดชื่น สนุกสนานกับชีวิต”

สำหรับเหตุผลที่ทำถูกใจและรู้สึกคลิกกับเธอที่เป็นรุ่นพี่ อายุห่างกัน 2 ปี บุ๋มว่าก็เพราะ “เขาเก่งดี ฉลาดดี ก็อยากเก่งแบบเขาบ้าง”

เมื่อถามเหตุผลที่เปลี่ยนใจมาชอบผู้หญิง

“ไม่ได้เปลี่ยนใจนะ” บุ๋มบอก

“ไม่มีผู้ชายมาชอบตั้งนานแล้วนะ แล้วเราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเพศ เรื่องผู้หญิง ผู้ชาย หรืออะไร เป็นคนใช้ความรักมากกว่า มันอยู่ที่เรารัก เราชอบ เรามีความสุข เราใช้ชีวิตสบาย เราได้เป็นตัวของตัวเอง เพราะเป็นคนค่อนข้างมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก แล้วก็รักอิสระ ซึ่งคงไม่มีใครทุกคนรับเราได้ ก็อยู่กับคนที่เราสบายใจ แล้วมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา”

คนรอบๆ ตัวเธอก็เป็นสุขเช่นกัน บุ๋มว่า

“เห็นเรามีความสุข เพื่อนๆ พี่ๆ พ่อแม่พี่น้องเราก็มีความสุขไปด้วย”

ประเภทที่ตกใจเมื่อรู้ข่าวนั้นไม่มี

“แก่ป่านนี้แล้วไม่มีใครตกใจหรอก มีแต่คนบอกว่า แก่ป่านนี้แล้วเจอคนดีๆ อยู่ด้วยก็โอเค” บุ๋มในวัย 48 ปีบอก

ส่วนบรรดาผู้ชายที่ไม่มีเข้ามาในชีวิตนานมากๆ เหตุผลจะเป็นเพราะปิดตัวเองหรืออะไรก็สุดจะเดา แต่ “ตัวเองชอบอยู่คนเดียวมากกว่า ไม่ต้องมีใครเป็นแบบคู่ครอง แต่งงาน การอยู่เป็นเพื่อนกันแบบนี้มันก็ดี เพราะมีเพื่อนคู่คิด แล้วเวลาเจอคนที่เขามีมุมมองการใช้ชีวิตที่บวก ที่กว้างขึ้น ก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรที่ต่างออกไป เหมือนเราอยู่แต่ในวงการบันเทิง ก็ไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องโลกภายนอก หรืออัพเดตความรู้รอบตัวมากมาย การที่มีคนฉลาดๆ มาอยู่ในชีวิตมันก็ดี ทำให้เราได้เรียนรู้ไปด้วย แล้วก็ฉลาดขึ้นมากกว่าเดิม”

อย่างนั้นแล้วช่วยบอกหน่อยว่าเขาเติมเต็มอะไรให้เราบ้าง ?

บุ๋มบอกทันที “อยู่ด้วยกันมันดีกว่าอยู่คนเดียว เหมือนเรามีเพื่อนคู่คิด มีคนคอยห้ามเวลาเรานิสัยไม่ดี มีคนคอยปรามเวลาใจร้อน มีคนคอยสอนให้มองโลก อย่าไปคิดมาก อย่ากังวลมาก อย่าเครียด แล้วก็คุยกับเราด้วยเหตุผล ไม่ใช่สอนหรือบังคับ”

“คนที่เราอยากอยู่ด้วย คือคนที่เข้าใจเราในทุกๆ เรื่อง ในวิถีชีวิตของเรา ในนิสัย แล้วก็รับเราได้คืออยู่แล้วไม่ต้องอดทน ไม่อยากให้ใครมาทน และก็ไม่อยากทนกับใคร แก่แล้ว ไม่อยากปรับตัว แต่จะปรับปรุงในส่วนที่เรารู้สึกว่าเขาหวังดี ไม่ใช่หวังดีกับตัวเขา แต่หวังดีกับตัวเรา”

“มันก็ดีเนอะ ที่มีคนแบบนี้อยู่ในชีวิต มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอคนแบบนี้ ที่จะรับเราได้”

ทั้งนี้ คนอื่นจะมองอย่างไรก็แล้วแต่

“แต่ที่เรารู้สึกคือ ข้อที่หนึ่งเราใช้ชีวิตมีความสุข และยังคงคุณภาพการทำงานเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะมีคนที่ฉลาดทางความคิด ฉลาดทางอารมณ์อยู่กับเรา” ผู้กำกับและนักแสดงฝีมือดีบอก

“แล้วความรักเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเรา เพราะชีวิตเรามันนำพาด้วยความรัก และทำให้ทุกอย่างดูโอเค เราอาจจะใช้ชีวิตแปลกกว่าคนอื่น แต่เมื่อไหร่ที่ภาวะข้างในดี สดชื่น มันทำให้หลายๆ อย่างดีไปด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง”

“สำหรับเราความรักไม่เกี่ยวกับเพศ ไม่เกี่ยวกับอายุ ไม่เกี่ยวศาสนา ไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เพียงแต่ ณ พ.ศ. นี้ทุกอย่างอิสระมากขึ้น เปิดเผยมากขึ้น แล้วคนที่เป็นเพศอื่น ที่สังคมเคยไม่ยอมรับ ใช้ชีวิตประสบความสำเร็จกันมากมาย เขาไม่ได้ทะเยอทะยานเพื่อเป็นหนึ่ง เพราะว่าเขาผิดเพศตามที่คนอื่นตัดสิน แต่มันคือความรักดีในแต่ละคน ซึ่งไม่เกี่ยวกัน”

“คนเรามีความสุข มีความนับถือตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง ให้เกียรติตัวเอง เราก็สามารถเป็นคนที่มีคุณค่าได้ ไม่ว่าจะอยู่ในเพศไหนก็ตาม” รัญญาบอก

ก่อนทิ้งท้ายว่า ณ จุดๆ นี้ เธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็ยังรักผู้ชายได้

“แต่สำหรับพี่คนนี้ คือคนที่ใช่สำหรับเราในช่วงเวลานี้”