“คือภาคนี้จะเป็นบทสรุป ในเรื่องผมต้องเล่นเป็นคนที่มีอายุตั้งแต่ 19 จนถึง 80 เลย ก็ยากเหมือนกันนะครับ ต้องปรับตัวเยอะ เพราะสิ่งที่ตัวละครคิดก็จะไม่เหมือนกับวัยรุ่นแล้ว ส่วนเรื่องฉากหวือหวามันต้องมีแน่นอน ถามว่าผมกดดันมั้ยที่หลายคนจับตามองกับฉากเลิฟซีน จริง ๆ ก็ไม่กดดัน เพราะเราไว้ใจในตัวหม่อมน้อย เข้าฉากกับพี่ญิ๋งผมก็ไม่มีตื่นเต้น มันมีแต่ต้องช่วยกันมากกว่า เช่น พี่เขาโป๊เราก็ต้องคอยช่วยเซฟ เราต้องเชื่อในตัวละคร และเราต้องไปด้วยจิตใจที่สูงครับ จริง ๆ ผมอยากบอกว่าถ้าเราโฟกัสแต่เรื่องเลิฟซีน ก็จะได้ด้านเดียวครับ แต่ถ้าเรามองให้ลึกลงไป แค่บทเลิฟซีนก็มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้แค่ตัวละครมามีเซ็กซ์กัน ทุกตัวละครมามีเซ็กซ์กันก็เพื่อหลายอย่าง เช่น เพื่ออำนาจ ผลประโยชน์ หรืออาจจะเป็นความรักจริง ๆ และยังมีอีกหลายเรื่องทั้งความแค้น การให้อภัย ก็สอนหลายอย่างครับ”
ได้ข้อคิดอะไรจากตัวละคร “จันดารา” บ้าง?“ผมชอบด้านจิตใจของเขานะ เพราะว่าเขาเจอเรื่องราวที่หนักมากตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่เคยคิดย่อท้อ ถามว่ามันมีคาแรกเตอร์ตรงไหนที่คล้ายโอ้มั้ย คือเราไม่ได้เข้มแข็งเท่าเขาครับ ส่วนมาเล่นเลิฟซีนแบบนี้กุ๊บกิ๊บก็ไม่ได้ว่ายังไงนะ ตอนถ่ายเขาก็มาที่กองถ่าย คือในฉากมันก็เครียดเหมือนกัน เพราะมันมีหลายอารมณ์ ต้องร้องไห้ด้วย เขาก็จะมาช่วยดู เรื่องหึงหวงไม่มีเลย เขาเข้าใจดีครับ”
โกอินเตอร์ตอนนี้มีงานต่างประเทศอีกมั้ย?“ปลายเดือนนี้ผมจะไปอเมริกา เพื่อถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้า “เพนช็อปป์” ของฟิลิปปินส์ที่โอ้เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ก็เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปด้วย ตื่นเต้นดีครับ เราอยากไปประเทศนี้อยู่แล้ว ส่วนงานในประเทศเอเชียตอนนี้ก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ก็ยังรับไม่ได้ครับ เพราะเราต้องถ่ายหนังและละครอีก”
คาดหวังกับผลงานในต่างประเทศยังไงบ้าง?“ผมไม่เคยคาดหวังหรือคิดจะมีงานที่นู่นเลย สิ่งที่เข้ามาก็แค่เขาชอบหนังเราและเรียกเราไป แต่พอได้ไปที่นู่นเขาก็มีงานมาแนะนำให้ลองมาทำดูมั้ย ผมก็ลองดู แต่ที่ตื่นเต้นที่สุดคือการได้ทำงานกับจีน เพราะว่าพูดไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็ถ่ายหนังจนจบได้ แต่จริง ๆ ผมขอทำงานที่ไทยเป็นหลัก ส่วนเรื่องการไปทำงานต่างประเทศก็ถ้าเราว่าง ไม่ได้วางเป้าหมายว่าจะมีงานในต่างประเทศ เพียงแต่คิดว่ามันเป็นโชคและโอกาสที่ดีของเรามากกว่าครับ ถามว่าไปทำงานต่างประเทศให้อะไรกับโอ้ที่สุด โอ้ว่าให้ประสบการณ์ที่หาได้ยาก ได้เพื่อนใหม่ ซึ่งเรื่องของภาษาก็เป็นปัญหาหนักสำหรับโอ้เลยนะ เพราะเราไม่ได้ใช้ทุกวัน ยิ่งที่จีนก็ยากกว่าเลยครับ เราต้องฝึกอ่านเป็นภาษาคาราโอเกะ จริง ๆ ทำงานกับต่างชาติและไทย มันก็ไม่ต่างกันมาก แต่เราก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ภาษาหรือคนในอีกซีกโลกนึง”
บนเส้นทางบันเทิง ณ วันนี้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จรึยัง?“ยังครับ เพราะผมคิดว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้นเอง ผมอาจจะทำงานหาเงินได้เยอะกว่าเพื่อน ๆ แต่ว่ามันไม่ใช่จุดที่สำเร็จในชีวิตผม เพราะว่าคำว่าสำเร็จในชีวิต ผมคงมองไปถึงการมีครอบครัวมากกว่า ใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่เหนื่อย มีธุรกิจเป็นของตัวเองครับ ณ วันนี้ผมว่าผมยังต้องปรับปรุงอีกหลายอย่างเลย แต่เรื่องผิดพลาดที่ผ่านมาในอดีตผมไม่เคยคิดกลับไปแก้ไขเลยนะ อะไรที่ผิดมันก็เป็นบทเรียน โอ้เคยอ่านหนังสือธรรมะ เขาบอกว่าถ้าเรามองปัญหาหรือสิ่งผิดพลาดเป็นเหมือนอุปสรรค เราก็จะเหนื่อย รู้สึกท้อ ไม่อยากทำอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เรามองสิ่งที่พลาดว่าเป็นประสบการณ์เราก็จะมีกำลังใจ ผมก็ยึดคำนี้มาตลอด”
วันนี้ที่เรามีชื่อเสียงโด่งดัง คิดว่ามันให้อะไรกับเรามากที่สุด?“ก็มีทั้งให้และเอาไปในเวลาเดียวกัน อย่างให้ก็คือให้เงิน ให้ประสบการณ์ ให้เราได้ทำงานที่คนอื่นไม่ได้ทำ เป็นอีกอาชีพที่ศักดิ์สิทธิ์นะ แต่ส่วนที่เอาไปก็คือเรื่องของเวลาส่วนตัว คือเราก็จะไม่เหมือนคนทั่วไปแล้ว แต่ผมก็ยังแฮปปี้นะกับชีวิตที่เป็นแบบนี้ ไม่ได้มีปัญหาและคิดว่ามันคงไม่มีด้วย เพราะโอ้รู้ว่าโอ้กำลังทำเพื่ออะไร บางทีเราจะทำอะไรเราก็ต้องแลก”
หัวใจที่มีคนจองแล้วถามถึงเรื่องความรักกับกุ๊บกิ๊บบ้าง?“ก็แฮปปี้ครับ แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เหมือนเราต่างคนต่างทำงานด้วย แต่ก็ส่งข้อความหากันตลอด คือสำหรับคู่ผมไม่กลัวเวลาจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องความรักเลยนะ เพราะเราก็เหมือนเดิม สิ่งสำคัญที่ทำให้ความรักโอ้และกิ๊บอยู่นานก็คงเป็นเรื่องความเข้าใจกัน เรารู้ว่าเขาเป็นคนยังไงครับ”
ล่าสุดมีคนดูดวงเราแล้วบอกว่าถ้าไม่เปิดตัวเรื่องแฟนจะเปรี้ยงกว่านี้?“ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งนะ เวลาที่มีคนมาดูดวงให้แบบนี้ คือผมเชื่อว่าถ้าเราทำดี ยังไงก็ต้องได้ดี แม้ว่าดวงจะไม่ดีก็ตาม ทำดีมันก็ต้องมีอะไรดีบ้างแหละ แต่ถ้าเราเชื่อดวงทุกอย่าง แต่เราทำไม่ดี ก็คงไม่ดี ส่วนที่คนมีชื่อเสียงส่วนใหญ่มักเก็บเรื่องความรักเป็นส่วนตัว แต่เราเลือกเปิดตัว ก็เพราะผมเป็นคนเปิดเผย ขี้เกียจซ่อนไปมา ผมมองว่าความรักเป็นสิ่งธรรมชาติ ไม่อยากคบกับใครแล้วมานั่งโกหกทุกคน ถ้าวันนี้โอ้บอกว่าไม่มีแฟน โอ้จะเดินไปไหนกับเขาได้ยังไง ผมก็อยากมีชีวิตที่เป็นธรรมดาบ้าง ผมคบกับเขามันก็เป็นชีวิตส่วนตัวถึงแม้จะไม่ใช่ส่วนตัวทั้งหมด เพราะเราก็เป็นคนในสื่อ ส่วนเรื่องเรตติ้งตก คือผมคิดว่าเราจริงใจก็บอกไป ไม่ได้มาคิดมากถึงฟีดแบ็กอะไร แฟนคลับคงดูที่ผลงาน ไม่ได้มาดูที่คบใครครับ”
เรียกว่าเป็นหนุ่มที่เปิดเผยตรงไปตรงมาจริง ๆ ก็ขอให้ลัคกี้ อินเกมและอินเลิฟไปนาน ๆ นะจ๊ะ
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012