ได้รับโอกาสให้พิสูจน์ฝีมืออีกครั้งสำหรับนางเอกสาวดาวรุ่ง "แยม" มทิรา ตันติประสุต กับละครเรื่อง "หัวใจปฐพี" ผลงานของค่าย "ทีวีซีน" ประกบคู่พระเอกมาดเข้ม "ปอ" ทฤษฎี สหวงษ์ แม้ประสบการณ์ในวงการบันเทิงยังน้อย แต่อะไรที่ทำให้เธอได้รับโอกาสที่ดีอยู่เสมอ วันนี้ "คมชัดลึก" ขอคว้าตัวนางเอกสาวมาถ่ายทอดทัศนคติในชีวิตการเป็นนักแสดงที่เธอได้สัมผัส
นางเอกเนื้อหอมใช่ แยมรับบทเป็น "เรน" จะเป็นนักฆ่า เพราะถูกพ่อเลี้ยงมาแบบนี้ จะเก็บกดและเย็นชา มีปมเรื่องพ่อไม่รัก ถามว่าบทนี้ยากกว่าที่ผ่านมามั้ย ความจริงทุกเรื่องที่แยมเล่นยากหมด แต่เรื่องนี้เราต้องเล่นยังไงต้องให้คนรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่แสดงออกคือเราต้องนิ่ง แต่ถ้าแสดงออกไม่ถูก มันจะดูแข็ง และมีคิวบู๊ด้วย ตามบทเรนเป็นนักฆ่า แต่ไม่ค่อยอยากจะสู้กับใคร เพราะตัวตนข้างในเขาเป็นคนดี
เล่นกับ "ปอ" ทฤษฎี แล้วจะรักกันได้อย่างไรพี่ปอจะรับบทเป็น "พสุ" เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ แต่แยมเป็นฝ่ายมาทำลายป่าไม้ เหมือนเราสองคนมีกำแพงกั้นอยู่ แต่เราเห็นถึงความดีของเขา เราจะคอยปกป้องเขา เวลาที่พ่อของเรามีแผนจะสั่งเก็บพี่ปอ เราจะเป็นคนแอบช่วยเขา พี่ปอ เขาเป็นคนน่ารักสบายๆ ขี้เล่น ช่วยสอนการแสดง และสอนคิวบู๊ให้แยมด้วย
ในเรื่องเข้าฉากกับ "ไมค์" พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล บ่อยไหมกับไมค์นานๆ ทีจะได้เข้าฉากด้วยกัน แยมจะเจอพี่ไหม ("สายไหม" มณีรัตน์ ศรีจรูญ) มากกว่า พี่ไหมน่ารัก ใจดี ส่วนพี่ไมค์นี่สุดยอดมาก เขาชอบเล่น ชอบแกล้งคนอื่น ค่อนข้างขี้งอน จะเป็นคนโอเวอร์แอ็กติ้ง เขาแกล้งทุกคนแต่เขาไม่เสียสมาธิ เพราะฉะนั้นพี่ไมค์คืออุปสรรคหนึ่งของกอง ทำให้ทุกคนต้องมีสมาธิเวลาเล่น (ยิ้ม)
ละครเรื่อง "ดอกไม้ใต้เมฆ" เล่นกับ "อ้วน" เด่นคุณ งามเนตรเรื่องนี้ถ่ายไปประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าถ่ายเร็วมาก เรื่องนี้จะดราม่านิดหนึ่ง ในเรื่องแยมรับบทเป็น "เหมย" มีปัญหาในชีวิต จากคนรวยกลายเป็นคนจน และได้ไปเจอกับพี่เด่นที่เขาจะเป็นเจ้าชายต่างแดนที่ถูกโค่นบัลลังก์มา และมาอยู่ในคณะเชิดสิงโตกับแยม แต่ตอนแรกเราไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของเขา
เล่นกับ "เด่นคุณ" เป็นอย่างไรบ้างโอ้โห้...เกรียนมากๆ พูดไปเรื่อยๆ ติ๊งต๊อง ไม่รู้จะพูดยังไงดี บางทีอยากตะโกนเรียกว่าไอ้พี่เด่น (หัวเราะ)ความจริงเขาเป็นพี่แยมนะ และไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายกับใครเลย แต่เขาเป็นคนกวน ตลก เขาจะซนมากในกอง เขาจะโดนดุบ่อย คือคนเอ็นดูเขาแหละ แต่เวลามีอะไรพี่เด่นจะโดนวอร์(วิทยุสื่อสาร)มาด่าก่อน แต่แยมจะรอด พี่เขาเป็นคนดีนะ แต่พูดง่ายๆ คือ คิดน้อย(หัวเราะ)
ฝ่ากระแสวิจารณ์แยมเคยดูเวอร์ชั่นพี่กบ(สุวนันท์ คงยิ่ง)แต่จำเรื่องราวไม่ได้แล้ว แยมเคยดูสมัยยังอยู่ออสเตรเลีย พอรู้ว่าต้องเล่นเป็นบทนี้ แยมไม่ตกใจนะ แต่แม่แอบห่วงเพราะเป็นบทที่ยาก แต่แม่ให้กำลังบอกว่าแยมทำได้ และแยมก็เชื่อว่านักแสดงทุกคนต้องทำได้
ได้คุยกับผู้ใหญ่ไหมว่าทำไมมองว่าบทนี้เหมาะกับแยมไม่ได้คุยว่าทำไม แต่ว่าอาปิ่น(ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์)ไว้ใจให้มาเล่น พอรู้อย่างนี้เราก็กดดันว่าต้องทำให้ได้ พยายามทำการบ้าน แยมไปเวิร์กช็อปมาบ้างแล้วกับพี่เต๋า(สโรชา วาทิตตพันธ์) พี่เต๋าเริ่มสอนตั้งแต่ต้นเลยว่ายุคสมัยนั้นผู้หญิงเป็นยังไง เรื่องการวางตัว การเดิน การพูด ต้องช้าลง
ภาพของแยมเป็นสาวทันสมัย คนเลยคิดว่าแยมจะทำได้ไหมเป็นนักแสดงต้องทำได้ทุกบทบาท ไม่ใช่โดนให้รับบทอีเย็น แล้วไม่เล่น เพราะกลัวทำไม่ได้ แยมไม่ใช่คนแบบนั้น ต้องทำให้ได้ ถึงจะทำไม่ได้ก็ต้องลองดู แยมคิดว่ามันคือหน้าที่ของนักแสดง
กระแสวิจารณ์มีผลกระทบต่อจิตใจไหมช่วงแรกมีบ้าง แต่แยมชินแล้ว เอามาเป็นแรงผลักดันให้ตัวเอง ไม่เอาคำพูดพวกนี้มาทำให้ท้อ
เรียนรู้ชีวิตวงการบันเทิงสนุกนะ เหมือนว่าโชคชะตาโยนให้เรามาทำงานตรงนี้ ก็โอเค แยมอดทนกับอะไรที่ไม่ใช่ตัวแยม อย่างในเรื่อง "ดอกไม้ใต้เมฆ" ต้องร้องเพลง และเต้น เราไม่ได้มาแนวนี้ แต่เป็นหน้าที่ เราต้องทำให้เต็มที่ ไม่ใช่บ่นว่า ทำไม่ได้ ท้อแล้ว แยมไม่ใช่คนแนวนั้น
สิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองคืออะไรทุกอย่าง ไม่เคยมีอะไรเป็นตัวเองในการทำงานเป็นนักแสดง แต่สิ่งยากที่สุดของการเป็นนักแสดง คือการทำให้คนเชื่อในตัวละครที่เราเล่น เราจะแสดงละครแต่ละเรื่องยังไงให้ไม่เหมือนกัน
คนจะคิดว่าอาชีพ ดารา นักแสดง ดูง่ายชีวิตนักแสดงไม่ได้ง่าย นักแสดงเป็นอาชีพที่ใช้สมองเยอะมาก เจออากาศร้อน เราลำบากนะ ต้องระวังตัวตลอด ทุกคนลำบากและทำงานหนักหมด ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันเป็นงานที่ต้องใช้ทีมเวิร์ก
เรื่อง (ไม่) ลับในหัวใจตอนนี้แค่แยมจัดการชีวิตเรื่องเรียนกับทำงานก็ยากแล้ว ยังไม่ต้องจัดการเรื่องผู้ชายหรอก(หัวเราะ)เรายังเด็กอยู่ ไม่ใช่ว่ามีตอนนี้แล้วจะคบกันได้ ถ้าจะเป็นแฟนกับใครจริงๆ คงต้องมีคนใดคนหนึ่งที่เสียใจ เพราะเราไม่มีเวลาไห้ เขาคงรู้สึกว่าลำบาก แทนที่เราจะต้องมานั่งเสียใจ แยมอยู่คนเดียวมีความสุขกว่า เพราะแยมมีเพื่อน ถามว่าทำไมแยมคิดแบบนี้ เพราะว่าแยมเป็นเด็ก เรายังจัดการเรื่องนี้ให้สวยงามไม่ได้ อาจทำให้ใครเสียความรู้สึก ความจริงมีคนเข้ามาบ้าง แต่แยมทำให้มันอยู่แค่เพื่อนดีกว่า
กับนักแสดงหนุ่ม ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์เป็นพี่น้องกัน แยมพูดเลยว่าพี่เขาเป็นคนดีมากๆ เขาดูเป็นผู้ชายปากร้าย ติ๊งต๊อง แต่ข้างในเขาดีนะ เป็นคนมีความคิด ถามว่าทำไมถึงเป็นได้แค่พี่น้อง เพราะเราไม่ได้มาแนวเป็นแฟนกัน เขาไม่ได้มาจีบ ถามว่าทุกวันนี้เจอกันเป็นยังไง ก็เหมือนเดิม ทักทายปกติ เป็นพี่น้อง แยมอยากมีพี่ที่เราสามารถปรึกษาได้ ถ้าแยมมีเรื่องอะไรจริงๆ สามารถปรึกษาเขาได้ แยมรู้สึกว่าเขาเป็นคนใจดี
คนมอง ซันนี่ ติสท์มีโลกส่วนตัวสูงเขาเป็นคนคุยรู้เรื่อง(หัวเราะ)ทำไมจะไม่รู้เรื่อง พูดภาษาไทยปกติ ถามว่าติสท์มั้ย อาจจะติสท์ในแง่มุมของการใช้ชีวิตหลายๆ อย่าง แต่ว่านั่นเป็นเรื่องของเขา และเป็นชีวิตของเขา ถ้าเราไม่ได้มาในแนวจีบกัน คงไม่ต้องไปปรับจูนกันขนาดนั้นหรอก
หลายคนอยากรู้ว่าไปรู้จักกันได้อย่างไรความจริงพี่ซันนี่เกือบจะได้เป็นพระเอกละครเรื่อง "ไฟรักเพลิงแค้น" มาเทสหน้ากล้องด้วยกัน แต่ในที่สุดเขาไม่ได้เล่น ด้วยเหตุผลหลายอย่าง ทำให้เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น ช่วงแรกแยมจะกลัวพี่้ซันนี่ นึกว่าเขาปากจัด ซึ่งเราไม่ชอบผู้ชายปากจัด เพราะเขาชอบแซวกัดคนอื่น ช่วงแรกๆ แยมจำคำพูดเขาได้อย่างหนึ่ง (ยิ้ม) เหมือนพี่เขาจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วเขานึกขึ้นได้ เลยบอกว่า ไม่พูดดีกว่า เรายังไม่สนิทกับน้อง (หัวเราะ)เขายังไม่กล้าเล่น แต่หลังๆ ก็ห่างกันไป แต่เราได้กลับมาเจอกันอีก เพราะรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขารู้จักพี่ซันนี่และแยม เลยได้เจอกันอีกและรู้จักกันมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 ปีได้ เรียกว่ารู้จักสนิทกันมากขึ้น
หลายคนลุ้นให้เป็นแฟนกันด้วยไม่มีหรอก คนคงหวงพี่ซันนี่แหละ เรียกว่าเขาเป็นพี่ชาย เขาไม่จีบแยมอยู่แล้ว เขาเป็นคนตลก น่ารักนิสัยดี ตอนนี้แยมโสดมากๆ รอโตก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน ถามว่าคุณแม่วางกรอบเรื่องความรักกับแยมมั้ย ไม่นะ แต่แม่สแกนแหละ ใครเข้ามาก็ต้องผ่านด่านแม่นิดหนึ่ง ถามว่าพี่ซันนี่เคยเจอแม่มั้ย เคยเจอ แม่เป็นแฟนคลับพี่ซันนี่อยู่แล้ว ชอบการแสดงเขา แต่แม่รู้อยู่แล้วว่าพี่ซันนี่ไม่ได้จีบแยม
ชัดเจน ตรงไปตรงมา นารัก สไตล์แยมจ้า
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012