Inside Dara
บทบาทใหม่ในชีวิตกับทางที่ลิขิตด้วยใจของ‘โบ-ธัญญะสุภางค์’

ถือว่าเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญในชีวิตการแสดงของนักแสดงสาว “โบ” ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ กับละครเรื่อง “รอยรักแรงแค้น” ในบทบาทของ “พักตรา” ผู้หญิงที่มีหลากหลายอารมณ์อย่างสุดขั้ว และหลังจากที่ละครออกอากาศไปแล้ว มีเสียงชื่นชมตามมาเป็นจำนวนมาก ถือว่าเธอสอบผ่านฉลุยเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น

อัพเดทละครเรื่องล่าสุด
พูดถึงละครเรื่อง “รอยรักแรงแค้น” หน่อย

ในเรื่องนี้ โบรับบทเป็นพักตรา ซึ่งเป็นคนแนะนำให้พระเอก คือคิมหันต์ (“ไมค์” ภัทรเดช สงวนความดี) รู้จักกับตัวของมุกริน (“ปุ๊กลุก” ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) แล้วเขาสองคนก็รักกัน พอเขามีปัญหากันปุ๊บ เราก็เข้ามา จริงๆ แล้วตัวของพักตรา รัก (เน้นเสียง) คิมหันต์มากเลยนะ รักมากจริงๆ ซึ่งพระเอกก็ใช้เราเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นนางเอกให้รู้สึกเจ็บช้ำ คิมหันต์มาแต่งงานกับพักตรา แต่เราจับได้ว่าเขาไปมีชู้กัน เราก็มีการแสดงออกตามคาแรกเตอร์ เป็นคนที่ถูกสปอยมา ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้สิ่งที่ต้องการ

“พักตรา” ถือว่าเป็นบทที่ยากกว่าที่เคยรับไหม

ยากนะ เพราะว่าสำหรับโบแล้ว โบไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีมุมนี้มาก่อน อย่างในเรื่องกุหลาบเล่นไฟ จริงๆ แล้วโบว่าไม่ได้เป็นบทร้ายเลยนะ รักพระเอกมาก และยังไม่ถึงขั้นไปกรี๊ดหรือไปตบใคร แค่ว่ารักมาก คนดูกลับมองว่าร้ายลึกแทน แต่โบมองว่ามันแล้วแต่การตีความมากกว่า ตอนเล่นไม่ได้ตั้งใจว่า จะให้ออกมาร้ายลึก แต่มาถึงตัวของพักตรา คือเป็นตัวละครที่ร้ายเลย วิธีการจิกตา ความเซ็กซี่การยั่วยวน เป็นคนที่แสดงออกทุกอารมรณ์อย่างชัดเจน ทั้งรัก โกรธ โมโห แค้น ทุกอย่างเราไปสุดหมดเลย ตั้งแต่ถ่ายละครเรื่องนี้มาโบป่วยมาประมาณ 5 ครั้ง เป็นเส้นเสียงอักเสบ หวัดลงคอ เพราะว่าใช้พลังเยอะมาก และทำการบ้านหนักมากด้วย มันไม่ใช่อะไรที่โบมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน ไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคย และไม่เคยรู้มาก่อนด้วยว่าตัวเองมีมุมอย่างนี้ด้วย โบก็แปลกใจเหมือนกัน ตามที่พี่ตั้ว (ศรัญยู วงษ์กระจ่าง) หรือแม้แต่คนในกองที่เขามาพูดกับโบ ก็คือพักตราเนี่ย เป็นตัวที่พี่ตั้วเป็นคนเลือก แล้วก็เลือกโบ ซึ่งตัวละครอื่นๆ ช่องก็ส่งมา พี่ตั้วแฮปปี้หมด อย่างที่บอกว่าโบทำการบ้านหนักมาก แล้วก็ไปเรียนการแสดงกับครูเงาะ (รสสุคนธ์ กองเกตุ) มาหลายรอบมาก เพราะด้วยตัวบทมันทั้งร้ายและเซ็กซี่มากๆ แล้วโบต้องหามุมนั้นให้เจอให้ได้

สิ่งที่ “ตั้ว” ผู้กำกับแนะนำในการเล่นบท “พักตรา”

พี่ตั้วจะไกด์มาให้ก่อนว่าโบไปสุดได้ขนาดไหน พี่ตั้วบอกแค่ว่าบทนี้มันแรงนะ ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวโบเท่านั้น แต่ทั้งตัวของไมค์และปุ๊กลุก ทุกคนมีความแรงหมดมีส่วนดีและไม่ดีของมนุษย์ ส่วนในเรื่องของการเล่น ก็ต้องมีการที่ถึงเนื้อถึงตัว มีซีนเซ็กซี่ หรือซีนที่แนบชิด รวมถึงตอนที่โมโหมาก โกรธมาก พี่ตั้วบอกไปให้สุด อย่ากั๊ก กับพี่ตั้วกลับมาเจอกันเรื่องที่ 2 แล้ว ไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรเลยนะ ต้องบอกว่าพี่ตั้วรู้จักโบดี และพี่ตั้วจะรู้ว่าโบเป็นอย่างไร ตรงไหนน้อยไป ตรงไหนเล่นโอเค ตรงไหนยังไม่โอเคบ้าง จะจับจุดได้ เขาจะมองเห็นพัฒนาการของโบ เพราะโบไม่เจอพี่ตั้วมาเกือบปีกว่า ในการเจอกันอีกครั้ง ตอนนั้นจากเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย โบอาจจะยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้โตแล้ว พี่ตั้วบอก เสียงเปลี่ยนและแอ็กติ้งเปลี่ยนไป พี่ตั้วชม คือมองว่าถ้าเราเจอผู้กำกับที่เชื่อในตัวของเรา มันทำให้ตัวโบเชื่อมั่น และมีความสุขในการทำงาน

หวั่นใจไหมว่าวันนี้มารับบทร้ายแล้ว ต่อไปการกลับมาเป็นนางเอกยาก

โบว่าเดี๋ยวนี้โลกเราเปลี่ยนไป สังคมเราเปลี่ยนไป คนที่เป็นนางเอกและนางเอกก็มีหลายแบบ อ่อนแอ สู้คน เจ้าน้ำตา เป็นผู้หญิงเก่ง โบคิดว่ามันเยอะขึ้นมาก แล้วช่องเองก็อยากให้นางเอกในช่องรับได้หลายบท ซึ่งโบคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่โบได้รับบทแบบนี้ ที่ผ่านมาโบจะได้รับแต่บทเงียบๆ ไม่ค่อยได้แสดงออก โบก็ชินกับการที่เล่นแบบลึกๆ แต่นี่เป็นโอกาสที่ดี และเป็นบทบาทอีกบทบาทหนึ่ง ที่ไม่ต้องเก็บกดอารมณ์ โบต้องเล่นออกมาให้ชัดมาก เป็นโอกาสที่ดีที่จะพัฒนาตัวเอง

กับละครเรื่องต่อไป

ตอนนี้โบให้ผู้ใหญ่ที่ช่องดูบทอยู่นะ คือโบยังมีหลายบทที่อยากเล่นนะ โบอยากลองเล่นละครพีเรียดแบบห่มสไบ บู๊ก็อยากเล่น โบอยากเล่นหลายบทมาก โบคิดว่าความสนุกของการเป็นนักแสดง ก็คือการที่เราสามารถเล่นได้หลายบทบาท

พูดคุยถึงการทำงานวงการบันเทิง
อยู่วงการบันเทิงมาแล้วกี่ปี

3 ปีแล้ว 3 ปีของโบจากหนัง เรื่อง เค้าเรียกผมว่าความรัก กับพี่เป้ (อารักษ์ อมรศุภศิริ) ก็ไม่เจอกันเลย แต่ก็มีคุยไลน์กันบ้างนะ จากนั้น มาละคร เล่นซิทคอม การอยู่มา 3 ปีที่คุ้มค่ามาก สำหรับที่ผ่านมาชีวิตโบ โบจะมาทางสายวิชาการโดยตลอด จะไม่ใช่คนที่ละเอียดกับความรู้สึกเท่าไหร่ แต่เมื่อมาทำงานอาชีพนี้ ทำให้โบต้องมาใส่ใจกับความรู้สึกของเราให้มากขึ้น และความรู้สึกของคนอื่นให้มากขึ้นด้วย มันเป็นเหมือนโอกาสที่ดี ที่่ทำให้โบได้ศึกษาคนในแง่ของจิตวิทยาเชิงลึก

สิ่งที่ได้จากการมาเป็นนักแสดง

การเป็นนักแสดง ทำให้โบรู้ว่าโบไม่จำเป็นต้องเป๊ะเสมอ บางทีบางอย่างมันเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึก ก็ยอมรับนะว่าเป็นสาวเป๊ะๆ โดยธรรมชาติ แล้วเป๊ะจากที่ว่าโบไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นมาด้วย แต่ว่าการที่มาทำงานในวงการ ทำให้โบเจอจุดสมดุลของชีวิต เรื่องบางสิ่งบางอย่างโบต้องช่างมัน ต้องปล่อยไปบ้าง เช่น ปกติโบเป็นคนที่อ่านบทละครเยอะมาก อ่านจนบทเปื่อย เพราะกลัวว่าตัวเองจะเล่นไม่ได้ จนพี่หนึ่ง (ชัชวาล ศาสวัตกลูน) ผู้กำกับเรื่อง กุหลาบเล่นไฟ สั่งโบว่าไม่ต้องอ่านบทก่อนมากอง อ่านจบจนเราจำได้แม่นก็จริง แต่เวลาพูดออกมามันไม่เป็นธรรมชาติ ตั้งแต่เข้าวงการมา โบมีความตั้งใจเกิน 100 ในการท่องบทในทำงานการบ้าน โบต้องใช้ความตั้งใจที่จะไม่ตั้งใจเล่นละคร กลายเป็นว่าทุกอย่างโบต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เรียนรู้ว่าต้องหย่อนบ้าง ต้องช่างมันบ้าง กลายเป็นว่าโบเจอจุดสมดุลของชีวิต

เมื่อเป็นสาวเป๊ะ แต่ต้องรู้จักปล่อยวาง มีฝืนความรู้บ้างไหม

ฝืนกับทุกเรื่องเลยนะ ซึ่งโบก็คิดว่าคนที่กองละคร คงติดว่าโบเป็นที่เครียดมาก วันแรกที่โบไปกองไฟหวน แล้วด้วยความที่โบมาจากหนังด้วย วันหนึ่งก็ถ่ายได้ 9 ซีน แต่มาเล่นละครวันแรกต้องถ่าย 30 ซีน โบถามทีมงานเลยว่า ซีนหนึ่งใช้เวลากี่นาทีค่ะ พักกินข้าวกี่โมงค่ะพี่ กองเลิกกี่โมงค่ะพี่ คือโบไม่ได้ถาม เพราะว่าโบไปเร่งเขานะ แต่โบถามเพราะว่าโบชินกับการรู้ตารางเวลาของตัวเอง แรกๆ ก็ต้องมาจูนกับคนที่กอง คือโบชินกับการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นนะ ที่นั่นเขาก็เป๊ะด้วย แต่บ้านเราจะเป็นแนวอะลุ่มอล่วยและเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า บางทีซีนมันต้องบิ้ว มันต้องใช้อารมณ์มากกว่าอีกซีนหนึ่ง

นักแสดงที่ดีตามความคิดของตัวเองเป็นแบบไหน

การเป็นนักแสดงที่ดีมันก็เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องรู้จักพัก จะต้องทำร่างกายของเราให้พร้อมที่สุดเสมอ อย่างสมัยก่อน เวลาโบอยู่บ้าน โบก็จะนั่งอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวไปสอบ แต่ตอนนี้โบไปออกกำลังกายมากขึ้น และไปหาความรู้ในเรื่องทักษะมากขึ้น อย่างเช่น โบต้องไปต่อยมวย เพื่อให้ร่างกายกระชับขึ้น หรือไปเรียนพวก Body Language มีไปเรียนออกเสียง ซึ่งไม่เคยรูัมาก่อนเลยว่าตัวเองหายใจผิดมาตลอดชีวิต มีไปเรียนแอ็กติ้ง และรู้จักตัวเองในมุมใหม่ๆ อย่างทุกวันนี้รู้จักตัวเองมากขึ้่นด้วย

อาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ฝันไว้ตั้งแต่แรกไหม

เป็นอาชีพหนึ่งที่โบคิดว่าไม่มาเป็นนะ (ยิ้ม) เพราะว่าโบอยากเป็นนักการทูตตั้งแต่ 9 ขวบ สุดท้ายก็เอนทรานส์เข้าคณะรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คือโบเป็นสายวิชาการมากเลยนะ เคยมีบางช่วงอยากเป็นจิตแพทย์ อยากเรียนหมอด้วยนะ ฝันอยากเป็นหลากหลายอาชีพ แต่นักแสดงไม่เคยอยู่ในหัวเลย และก็ไม่เคยดูละครมาก่อนเลย ไม่เคยคิด ไม่เคยฝัน ว่าตัวจะได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้ เคยคิดด้วยซ้ำว่า เป็นอาชีพที่ง่าย มายิ้มสวยๆ แต่งตัวสวย ยืนอยู่หน้ากล้อง แล้วก็รับเงิน กลับบ้าน แต่ทุกวันนี้พอเข้ามาแล้วมันไม่ใช่ เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถรอบด้าน ต้องเป็นคนที่มีทักษะด้านการสื่อสาร เป็นคนที่ใช้ภาษาเก่ง และต้องเป็นคนที่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็เป็นทางสว่างของโบเหมือนกันนะ

วันนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม

ถ้าถามในลักษณะนิสัย โบเป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้นนะ คือคุณแม่สอนโบมาอยู่แล้ว ว่าอันไหนที่ไม่มั่นใจ อย่าทำออกไป ดังนั้นจากวิธีการที่โบถูกเลี้ยงดูมา โบไม่ต้องปรับตัวอะไรนะ อีกอย่างโบเป็นคนไม่กิน ไม่สูบ ไม่เที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นโบเป็นอย่างไร ก็จะพยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ส่วนเรื่องของการระวังตัว น่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัวมากขึ้นนะ โบเป็นคนที่แต่งตัวดูสบายเกินไป ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำ แล้วก็เป็นแนวเอิร์ธ โทน ตอนนี้ก็ต้องฝึกใส่สีสดใสมากขึ้น ตอนนี้่พอออกงาน ก็ต้องฝึกใส่สายเดี่ยว เกาะอกบ้าง ตอนนี้ต้องหัดซื้อส้นสูงและใส่มากขึ้น ทำให้โบเป็นผู้หญิงมากขึ้น

สำรวจสเตตัสหัวใจ

ไม่กั๊กเรื่องความรักและรับว่าคบอยู่กับ “เอก” ศุภากร ประทีปถิ่นทอง หรือ เอก ท่าไม้

บังเอิญว่าโบเข้ามาทำงานในวงการจบปริญญาตรีแล้ว มันก็เรื่องธรรมชาติของวัยโบ และมีวุฒิภาวะสูงพอสมควร โบไม่ได้ทำอะไรที่มันเสียหาย ทุกวันที่ก็ไม่เคยไปเที่ยวกับพี่เอกกันสองต่อสอง ซึ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ตลอด โบมองว่ามันไม่ใช่เรื่องเสียหาย บวกกับความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย การที่โบออกไปข้างนอก คนก็ต้องเห็นอยู่แล้ว โบเลยคิดว่าเปิดไปเลยดีกว่า แต่มันอยู่ในขอบเขตของเรานะ และจริงๆ แล้วโบเริ่มเอารูปคู่ลงไอจีเหมือนไม่นานมานี้เองนะ โบรู้จักพี่เอกประมาณ 6-7 ปี แต่คบกันจริงๆ ประมาณ 3 ปีกว่า

3 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง

พี่เอกตั้งแต่ตอนคบกัน เขามีความตั้งใจอยู่ 2 อย่างก็คือ เขาจะจีบโบทุกวัน เขาจะไม่มองว่าโบเป็นของตาย เมื่อคบกันแล้ว อันที่ 2 เขาบอกว่าเขาจะไม่มีวันที่ทำให้โบเสียใจ ถามว่าสม่ำเสมอไหม สม่ำเสมอนะ แต่ในความรู้สึกของโบ โบว่ามันมากขึ้นทุกวัน เหมือนกับว่าเราคบกันมา เรารู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น เรามองตาก็รู้ใจไม่ต้องอธิบายทุกอย่าง แล้วพี่เอก งานเข้าลงล็อกมากขึ้นในเรื่องของธุรกิจ กลายเป็นว่า เขามีเวลาให้โบมากขึ้นทุกวันด้วย มีความสุขมากในเรื่องของความรัก มันเป็นส่วนที่ลงตัวมากในชีวิตของโบนะ ส่วนในเรื่องของการแต่งงาน การคบกันมันก็ต้องมองเห็นอนาคตนะ เราก็อยากมีอนาคตร่วมกัน แต่เราไม่เคยคุยกันในเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวโบอยากแต่งงานก่อนอายุ 30 ปีนะ ตอนนี้ 25 แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกอย่างมากกว่านะ


ผู้หญิงคนนี้
ชื่อ ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์
ชื่อเล่น โบ
เกิดเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2533
จบการศึกษา สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาตรีที่ Ritsumeikan Asia Pacific University ด้านรัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
มีความสามารถพูดได้ 6 ภาษา
ผลงานสร้างชื่อ ภาพยนตร์ เรื่อง เค้าเรียกผมว่าความรัก
ผลงานละครที่ผ่านมา ไฟหวน สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย กุหลาบเล่นไฟ
ผลงานปัจจุบัน รอยรักแรงแค้น