Inside Dara
ขึ้นแท่น 'พระเอก' ไม่สำคัญ'อเล็กซ์' ขอเทียบชั้นนักแสดงตัวจริง

กลายเป็นนักแสดงหนุ่มที่มีเสียงชื่นชมถึงพัฒนาการด้านการแสดงอย่างล้นหลาม สำหรับ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ที่ฝากฝีไม้ลายมือในบท "ราม" จากละครเรื่อง "สามี" ที่เพิ่งจบไป ได้อย่างเฉียบขาด สร้างความเซอร์ไพรส์มากมาย วันนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" ขอคว้าตัวนักแสดงหนุ่มมากฝีมือมาบอกเล่าเรื่องราวชีวิต กับความสำเร็จที่เกิดขึ้น และผลงานชิ้นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

ฝีมือฉกาจ
บทรามในเรื่อง "สามี" ได้รับเสียงชื่นชมมากมีพัฒนาการดี

ผมดีใจที่คนคิดอย่างนั้น ในส่วนของคำชม ผมขอบคุณทุกคนมาก ผมรู้สึกดีใจ เพราะเราทำงานหนักมาก กระแสตอบรับไม่ได้มีแค่ตัวผม แต่คนรอบข้างผม ก็ได้รับการตอบรับที่ดีด้วย เพราะจุดประสงค์ของเรา คือต้องการทำให้ละครเรื่องไหนก็ตามที่เราเล่น มันสนุกแค่นั้นเอง ด้วยการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

บทยากมาก อเล็กซ์ทำการบ้านอย่างไร

วิธีของผมในการดูแลตัวละครตัวนี้ คือการหาข้อมูลทุกอย่าง ก่อนจะไปถึงการถ่ายทำจริง ต้องดูก่อนว่าอาการของคนที่เป็น "ไบโพล่าร์" คืออะไร ปมของตัวละครมีอะไรบ้าง ทำไมถึงต้องแสดงออกอย่างนั้น เพื่อให้เรารู้จักวิธีการคิดของเขามากที่สุด พอเราเข้าใจแล้วเวลาเข้าฉาก ความเป็นตัวละครจะออกโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งพี่แมน (เมธี เจริญพงศ์) ผู้กำกับช่วยผมได้เยอะมาก ความสำเร็จตรงนี้ ต้องยกให้พี่แมน 50 เปอร์เซ็นต์

ส่วนใหญ่คนจะมองว่าภาพพระเอกของอเล็กซ์ยังไม่ชัด เรามองอย่างไร

มันเคยมีจุดหนึ่งที่้ผมมีความคิดแบบเด็กๆ ว่าอยากเป็นพระเอก และคิดว่าชีวิตของการเป็นพระเอกมันดี และใครที่มาทำเป็นว่า เราไม่ใช่พระเอก เราจะไม่ชอบ แต่พอผมเริ่มศึกษาในเรื่องของการทำเบื้องหลัง ได้ศึกษาเรื่องของการแสดงที่แท้จริง ทำให้เรารู้ว่า การเป็นนักแสดงมีความสุขมากกว่าการเป็นพระเอก ตอนนี้ผมแค่ต้องการบทที่ดี หรือเวลาที่ผู้จัดเห็นบทยากๆ แล้วไม่รู้จะให้ใครเล่น แต่เขาอยากให้ผมลองเล่นดู ผมอยากให้คนคิดอย่างนี้กับผม เพราะผมอยากเป็นนักแสดงที่เก่ง

อะไรที่ทำให้ตัดความคิดอย่างนั้นออกไปได้

เราโตขึ้น มองเห็นอะไรหลายอย่าง ที่สำคัญต้องไม่เข้าข้างตัวเอง และมองจากภายนอกเข้ามาว่า เราเหมาะสมกับอะไร บางครั้งการเป็นที่หนึ่ง อาจจะไม่เหมาะก็ได้ การเป็นที่สองอาจจะมีอะไรที่ดีสำหรับเรารออยู่ อย่างเด็กรุ่นใหม่ที่จะบอกว่าตัวเองเป็นนักแสดงจริงๆ ผมคิดว่ามีน้อยมาก เพราะถ้าคุณอยากดัง อยากเป็นแค่พระเอก นางเอก แสดงว่าจุดประสงค์ของคุณไม่ใช่การแสดง เพราะถ้าคนที่รักการแสดงจริงๆ คุณจะมีความสุขกับชีวิตมากกว่านี้

บทพิสูจน์ใหม่
ละครเรื่อง "สามใบไม่เถา" ได้เป็นพระเอกอีกครั้ง

ผมยังมองว่าตัวเองไม่ใช่พระเอกอยู่ดี เพราะในละครมี 3 คู่ ผมก็ยังมองว่าพี่สมาร์ท (กฤษฎา พรเวโรจน์) เป็นพระเอก อย่างเรื่อง "หงส์สะบัดลาย" ผมก็มองว่าพี่ป๋อ (ณัฐวุฒิ สกิดใจ) เป็นพระเอก เรียกว่าผมพอใจในจุดนี้ ผมมองแค่ว่า ถ้าอายุสัก 27-28 เราจะสามารถสร้างฐานตัวเองให้ดี จะมีความสุขกับการอยู่ในวงการบันเทิงได้มากกว่า การคิดอีกแบบหนึ่ง

ในเรื่องรับบทเป็นใคร

ผมจะรับบทเป็น "แสงฉาย" เล่นกับน้อง ณิชา (ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) นางเอกใหม่ ถามว่าผมกดดันมั้ยที่จะมีการจับตามองมากขึ้น ผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ เป็นความท้าทาย และทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจของเรา ถ้ามีคนคาดหวังกับเรา แสดงว่าเขาชอบเราและเชื่อมั่นในตัวเรา ซึ่งเราต้องทำให้เขาเชื่อเราต่อไป ผมต้องขยันมากกว่าเดิม

ความรู้สึกที่จะได้เล่นกับ "ณิชา" นางเอกใหม่ เป็นอย่างไรบ้าง

ผมเคยเจอน้องเขา 2-3 ครั้ง น้องน่ารักดี จะมีความคล้ายกับน้องมิ้นต์ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) ตอนเข้าวงการใหม่ๆ จะดูเด็กๆ ใสๆ ผมคิดว่าดีนะ เพราะถือว่าเป็นการท้าทายสำหรับตัวผมและน้องด้วย ผมยอมทุ่มทุกอย่าง เพื่อให้งานของน้องออกมาดี เพราะถ้าน้องทำออกมาดี ตัวผมก็จะดีไปด้วย ผมคิดอย่างนั้นมากกว่า เราต้องพากันไปด้วยกัน ยิ่งผู้กำกับเรื่องนี้เป็นพี่ชาย (ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ) ด้วย ณิชาโชคดีมากที่ได้มาเจอคนเก่งๆ

จุดเปลี่ยนสำคัญ
ทำงานมาตั้งแต่ 7 ขวบ อะไรคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของอเล็กซ์

ตอนเด็กๆ เรามาทำงานที่กองถ่าย เราไม่รู้หรอกว่าอะไรคือการแสดง แค่คิดว่ามาเล่นในกองถ่าย พออายุสัก 15-16 เราเริ่มรู้ว่าอะไรคือการแสดง ได้ทำงานใกล้ชิดกับพี่ในวงการหลายคน ตอนนั้นผมเจอพี่ชาคริต (ชาคริต แย้มนาม) ผมรู้สึกว่า เขาเท่ห์ดี อยากเป็นอย่างเขา พออายุ 17-18 ได้มาเจอพี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ผมรู้สึกว่าทำไมเขาถึงเก่ง เลยเริ่มอยากศึกษางานเบื้องหลัง จนมาเจอพี่บุ๋ม (รัญญา ศิยานนท์) ที่สอนการแสดงให้ผมอย่างจริงจัง ได้มาเจอผู้กำกับเก่งๆ ทั้งป๋าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) ผู้จัดอย่างพี่ดา (หทัยรัตน์ อมตวณิชย์) จนเราเริ่มเรียนรู้ว่า จะเอาจริงกับการแสดง และไม่อยากทำอย่างอื่น ไม่อยากเป็นดารา ไม่อยากเป็นนายแบบ แต่เราอยากเป็น "นักแสดง"

คิดถึงอนาคตในวงการไว้บ้างหรือเปล่า

ผมวางอนาคตเอาไว้หลายอย่างมาก อย่างงานเบื้องหลัง ผมคิดการทำหนังหรือละครเรื่องหนึ่งมันยากมาก ทำไมผู้จัดหลายคนถึงเก่ง เพราะเขาเก่งในเรื่องของการจัดองค์ประกอบ รสนิยมการเลือกพระเอก-นางเอกของเขาดี เราต้องไปเรียนรู้จากเขา ผมเลยพยายามหาโปรเจ็กท์เล็กๆ อย่าง "บันทึกกรรม" เอาไว้ให้เราเรียนรู้และกำกับ อย่างปีนี้ อาจจะได้ทำ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการคุยกันอยู่

เข้าวงการมานานมากตั้งแต่เด็ก อเล็กซ์มีวิธีการอยู่ในวงการอย่างไร

การอยู่ในวงการนี้ เราจะไปแข่งขันกับคนอื่นไม่ได้ เราต้องแข่งกับตัวเอง เพราะทุกคนมีจังหวะชีวิตที่ใม่เหมือนกัน บางคนอาจจะไปไกลแล้ว แต่เราอาจจะอยู่ที่เดิม ถ้าเรารู้สึกว่า เราพัฒนาขึ้น เราควรจจะพอใจ อย่าไปคิดว่าคนนี้มาแป๊บเดียว ทำไมไปไกลแล้ว อย่าคิดอย่างนั้น เพราะเราจะอยู่อย่างไม่มีความสุข ยิ่งอยู่ ยิ่งเครียด ถ้าเราน่ารักและมีจิตใจดีกับคนรอบข้าง เวลาที่เราล้ม คนจะเอาเราลงยากกว่าคนที่เลือกวิธีการอยู่ในวงการด้วยการโกหก เรียกว่าต้องใช้ความจริงใจ ไม่ใช่กับแค่คนที่มีผมประโยชน์กับเรา แต่หมายถึงทุกคนที่อยู่รอบข้างด้วย

บทบาทพิธีกร
อเล็กซ์ ได้เป็นพิธีกรรายการ "สมรภูมิไอเดีย" ครั้งแรก

ความจริงผมเป็นพิธีกรรายการ สมรภูมิไอเดีย ในช่วงรายการที่มีการจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนนำเสนอไอเดียในการประดิษฐ์รถยนต์ประหยัดน้ำมัน เพื่อเข้าแข่งขันในกิจกรรม “เชลล์ อีโค มาราธอน เอเชีย 2014” ผมต้องเป็นตัวแทนไปแข่งรถที่ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยรถอีโคคาร์ ในวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์นี้ การทำหน้าที่เป็นพิธีกรครั้งแรก ผมรู้สึกตื่นเต้นนะ แต่ดีที่เป็นพิธีกรคู่กับพี่เชน (ธนา ลิมปยารยะ) ช่วยได้เยอะมาก

ได้มาเป็นพิธีกรรู้สึกอย่างไรบ้าง

ดีนะ เพราะผมได้เห็นน้องๆ ที่มีความสามารถสร้างรถประหยัดพลังงานที่ใช้น้ำมัน 1 ลิตร แต่วิ่งได้ 1 พันกิโล มันสุดยอดมาก จากที่เราเคยคิดว่าในอนาคต เราแย่แน่ๆ ต้องไม่มีน้ำมันใช้ แต่พอได้เห็นอย่างนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า ในอนาคตเราอาจจะเติมน้ำมันเพียงถังเดียว และอยู่ได้ 3 เดือน เพราะเด็กพวกนี้ คือจุดเริ่มต้นของความฉลาด สามารถติดตามชมได้ทุกวันศุกร์ 15.30 น. ทางช่อง 3 นะ

คู่รักวางตัวดี
ความรักกับ "เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ" เป็นอย่างไรบ้าง

ความรักตอนนี้เรื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวามากเท่าไหร่ ช่วงแรกคนอาจจะตื่นเต้นกับคู่เรา แต่ผมรู้ว่าสักวันหนึ่งคนต้องหายตื่นเต้นอยู่แล้ว และเราอยากให้วันนั้นมาถึงเร็วที่สุด (หัวเราะ)

ความสัมพันธ์กับเริ่มต้นจากอะไร

เริ่มต้นจากความเป็นเพื่อน และเราไม่ได้รู้สึกว่า เราจะต้องเข้าไปขอเบอร์ หรือต้องจีบแต่เรารู้สึกชอบเขา ก่อนที่เขาจะมาชอบเรา แต่ผมไม่ได้คิดว่าเราต้องพยายามเข้าหามากขนาดนั้น เรียกว่าเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆ พอมารู้ตัวอีกที เราก็รู้สึกดีต่อกันไปแล้ว

ประทับใจตรงไหน

ตอนแรกผมรู้สึกเฉยๆ กับเขามากเลยนะ ทุกคนจะบอกว่าเต้ยน่ารัก แต่ผมจะมีมุมขวางโลกนิดหนึ่ง (ยิ้ม) ถ้าทุกคนชอบผมจะเฉยๆ แต่ผมรู้อยู่แล้วว่า เต้ยเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ร่าเริง พอเราได้มาคุยกับเขา ผมรู้สึกว่า จิตใจของเขาน่ารัก รวมถึงสมองและวิธิคิดของเขา ทำให้รู้สึกว่าเป็นคนที่น่าอยู่ด้วย เขาจะมีความคล้ายผม เป็นคนสดใสร่าเริงไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ซึ่งเห็นเขาตัวเล็กแบบนั้น แต่เขากล้าที่จะปกป้องอะไรบางอย่างของตัวเองเหมือนกัน ไม่ได้ยอมใครง่ายๆ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ และมีความเป็นตัวของตัวเอง

มีอะไรที่ต้องปรับตัวอีกบ้าง

เราคบกันมาประมาณ 2 ปี ซึ่งในชีวิตของผม ไม่เคยคบกับใครนานขนาดนี้ เราไม่ต้องเปลี่ยนอะไร แค่ต้องเรียนรู้กันไป อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาไม่ชอบ แต่มันคือตัวตนของเรา เขายังยอมรับได้ ผมกับเต้ยจะแปลก เราไม่ได้ตัวติดกันเหมือนที่ทุกคนคิด เราคุยกันทุกวัน แต่เวลาที่เขาอยู่กับเพื่อน ผมจะปล่อยให้เขามีชีวิตส่วนตัว และเราจะหาเวลาส่วนอื่นมาอยู่กับเขา เพราะไม่จำเป็นว่าเราต้องมาเป็นที่หนึ่งสำหรับเขา ผมไม่ชอบเวลาที่เจอคู่ที่ชอบห้ามแฟนตัวเองคุยกับผู้ชาย ผมคิดว่า มันบ้าไปแล้ว คุณทำลายอนาคตเขาแท้ๆ เราต้องคิดดีต่อกัน ไม่อย่างนั้นคบกันไปก็ไม่ดี เราให้อิสระซึ่งกันและกัน เพราะเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ และไม่มีมุมนั้น ผมก็เหมือนกัน เขาไม่ต้องเช็กโทรศัพท์ของผม ไม่ต้องเช็กข้อความ หรือถามว่าผมอยู่กับใคร เราคบกันสบายๆ และไว้ใจกัน

ตั้งแต่คบกันมาเคยมีปัญหากันบ้างไหม

ต้องมีทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมรู้สึกว่าเราจะเลิกกัน เพราะเราคบกันด้วยเหตุผล และเรื่องที่เราทะเลาะกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เรารู้สึกกับเขาเปลี่ยนไป สิ่งที่เราทะเลาะหรืองอนกัน เกิดจากการที่เรายังไม่ได้เรียนรู้กัน และทุกครั้งที่ทะเลาะกัน จะทำให้เราเรียนรู้กันมากขึ้น และไม่เคยกลับมาทะเลาะกันซ้ำเรื่องเดิมเลย ส่วนเรื่องอนาคต เรายังไม่ค่อยได้คิดเท่าไหร่ ปล่อยให้เป็นไปตามเวลา และเป็นไปตามธรรมชาติ เราไม่ได้มานั่งนับทุกเดือนว่าเราคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว เลยทำให้เราสบายใจที่เป็นอย่างนี้

มุ่งมั่น จริงใจ นี่แหละ!! ใช่ 'อเล็กซ์' ที่สุดเลย



ชื่อ : อเล็กซานเดอร์ ไซม่อน เรนเดลล์
ชื่อเล่น : อเล็กซ์
เกิด : 9 มกราคม พ.ศ. 2533
การศึกษา : ระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนบางกอกพัฒนา ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ภาคอินเตอร์)
ผลงานที่ผ่านมา : หัวใจไกปืนเที่ยง, สุดแต่ใจจะไขว่คว้า, สะใภ้ไม่ไร้ศักดินา, รักปาฏิหาริย์, หงศ์สะบัดลาย, สามี
ผลงานปัจจุบัน : รายการสมรภูมิไอเดีย ,ละครสามใบไม่เถา