Inside Dara
“มารี” รับ รัก “กัน นภัทร” มีปัญหา ไม่ฟันธงเลิก – ไม่เลิก

“มารี เบิร์นเนอร์” ยอมรับความรักกับ “กัน – นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” มีปัญหาจริง ตอบไม่ได้เลิกหรือไม่เลิก รอเวลาเคลียร์ใจ เผยตั้งไพรเวทคลิป VLOG ในยูทูบเพราะฝ่ายชายโดนคอมเมนต์ถล่ม

หลังจากคู่รักหวานทะลุโวเชียลอย่าง กัน – นภัทร อินทร์ใจเอื้อ และ มารี เบิร์นเนอร์ ถูกข่าวลือสะพัดว่าส่อแววสะบั้นรัก หลังฝ่ายหญิงทยอยลบรูปคู่ในอินสตาแกรม เหลือไว้เพียงรูปที่ทำงานร่วมกัน อีกทั้งยังตั้งคลิปวิดีโอ VLOG ในยูทูบเป็นไพรเวท ยิ่งทำให้หลายคนตั้งข้องสังเกตว่าทั้งคู่น่าจะมีปัญหากันจริงๆ ล่าสุด มารี ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งแรกกับ วันบันเทิง โดยเผยว่า

“จะเรียกว่ามันแย่ก็ไม่ได้ คือมันก็เป็นเรื่องที่คนสองคนที่เขาเรียนรู้กัน คือมันก็คงต้องรอดู คืออะไรมันจะเกิดมันก็เกิด คือเราเองก็ไม่รู้ มันก็คือเป็นเรื่องของอนาคตไปดีกว่า”

สาเหตุของปัญหาคืออะไร?

“เรียกว่าเป็นความไม่เข้าใจกัน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว คือทุกคนก็มีปัญหาของตัวเอง ทุกคนมีจุดที่มาชนกัน ทุกคู่มันจะมีจุดที่ชนกันแล้ว ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ก็ไม่เป็นไร แต่อันนี้มันก็เป็นเรื่องที่ถ้าเขาอยากพูดเลย หรือเขาพร้อมพูด ก็ยินดีให้เขาเป็นคนพูดดีกว่า”

รอฝั่งนั้นง้อหรือเปล่า?

“ก็ไม่นะคะ คือไม่ได้มีการประชดอะไรกันแน่นอน แล้วการที่เหมือนตอนนี้ก็โดนโจมตีเรื่องข่าว ก็เห็นว่า พี่กัน โดนหนักมากเลยนะ เอาจริงๆ ตอนแรกก็จะโพสต์ในไอจี แต่ก็รู้สึกว่ามันจะดราม่าไปมากกว่าเดิมหรือเปล่า แต่ก็รู้สึกว่ามีหลายคนที่ดราม่าเรื่อง VLOG (ยูทูบที่ทำด้วยกัน) ว่าทำไมเขาดูนิสัยไม่ดี ทำไมเขาดูขี้เหวี่ยง คือ VLOG มันคือสิ่งที่หนูสองคนทำขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มันคือมุมของความรักของเราสองคน ที่เรายินดีที่จะเปิดเผยให้กับโลกภายนอกดู เพราะฟีดแบคทีได้กลับมาคือคนเอ็นดู คนรัก คนชอบ เลยอยกาจะบอกว่านิสัยอะไรส่วนตัว การพูดจากัน เราเข้าใจกันดีอยู่แล้ว มันก็มีมุมที่เราอาจจะเคยไม่น่ารักกับพี่เขาเหมือนกัน แต่ว่ามันแค่บังเอิญว่าออกไปในรูปแบบนั้น แล้วบังเอิญว่าคนก็เหมือนจับตามอง แต่แค่อยากจะบอกว่าในความเป็นจริง มันไม่ใช่ปัญหา มันผิดประเด็นมากๆเลยค่ะ ก็เลยไม่อยากให้ไปว่าอะไรเขา คือเขาเป็นคนที่นิสัยดี เขาเป็นคนน่ารัก เขารักครอบครัว เขาเทคแคร์คนรอบตัวที่เขารักดีมาก แล้วเขาก็เทคแคร์เพื่อน เขาไม่ใช่คนแบบที่คนอื่รว่ากันแรงๆตอนนี้ แค่อยากจะพูดว่ามันไม่ใช่ มันผิดประเด็น”

ฟันธงสถานะตอนนี้?

“มันไม่ใช่เรื่องที่คนจะตัดสินใจข้ามคืนค่ะ มันเป็นเรื่องที่คนสองคนเจอปัญหา เราก็คุยกัน แล้วก็จะกลับ ไม่กลับ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่มันต้องคุยกัน แค่อยากที่จะขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ดาราก็คนเหมือนกัน บางทีคู่รักมีตั้งเยอะแยะที่คบกัน บางทีคบกันปีเดียวจบเลย บางทีคบกัน 5 ปี ไม่ขาดสักที คือมันมีหลายๆปัญหา มันมีหลายๆปัจจัย ที่หลายๆคู่รักเขาเจอกัน แค่อยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่ามันต้องมาในเวลาที่เราพร้อมด้วยด้วย จะให้เราออกมาพูด คนนึงพูดประชด หรืออีกคนพูดแบบเอาอารมณ์มาพูด มันไม่ได้ ก็ต้องให้สเปซ ให้เราทั้งคู่เคลียร์ตัวเอง ทั้งชีวิตตัวเองและชีวิตร่วมกันว่าเราจะเอายังไงต่อ แล้วถึงเวลาที่พร้อมก็จะออกมาพูดเองค่ะ”

ตอนนี้ยังเคลียร์กันไม่จบ?

“มันยังไม่ถึงเวลาที่ จะฟันธงอะไรได้ค่ะ บางทีหนูว่าเรื่องของความรักมันไม่ได้มีคำว่าเลิกกับไม่เลิก คือคนเลิกกันก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้รักกัน คนคบกันบางทีก็ไม่รักกันเสมอไปก็มี คือมันก็ต้องให้เวลากับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องของความรู้สึก อันนี้ก็ต้องขอให้เข้าใจนิดนึง ว่ามันต้องรอ”

“มารี เบิร์นเนอร์” พยักหน้ายอมรับ เรียก “กัน นภัทร” แฟน!!!

กลัวไหมเมื่อความรักถูกจับตามอง?

“ก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่เหมือนเราหาเรื่องให้ตัวเองนิดนึง ทุกคนก็อยากที่จะสมหวังเรื่องความรักแหละ และการที่ทำออกไปตั้งแต่แรก มันก็คือเพราะว่า ในเมื่อคนชอบ คนเรียกร้อง คนอยากดู เราก็เต็มใจที่จะให้ แต่ในเมื่อวันนึงมันถึงจุดที่คนดูอาจจะไม่ถูกใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น หรือทุกอย่างที่เราทำ ก็ต้องขอให้เข้าใจด้วยว่า สุดท้ายแล้วเราก็ มันคือ Relationship มันคือความสัมพันธ์ที่มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน จริงๆแล้วเรื่องของเบสของความรัก มันคือเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน มันไม่ใช่เรื่องที่เหมือนเราจะต้องแก้ตัว หรือว่าจะต้องมีใครผิดใครถูก หรือจะต้องมานั่งอธิบายละเอียดยิบว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ”

ครั้งนี้หนักสุดตั้งแต่คบมาเลยไหม?

“มันก็เป็นปัญหามาเรื่อยๆค่ะ เอาจริงๆทุกความสัมพันธ์ มันจะเล็กหรือมันจะใหญ่ หรือมันจะมากน้อยแค่ไหน บ่อยแค่ไหน มันก็แล้วแต่คนรักกัน แต่สุดท้ายก็แค่อยากให้รู้สึกว่าความรักมันก็คือสิ่งที่สวยงาม สำหรับคนอย่างเรา มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราแทบจะดำเนินชีวิตด้วยซ้ำ เป็นคนที่ทำอะไรด้วยใจมาตลอด เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็รู้สึกว่า เราขอเวลาที่จะทำด้วยวันที่ใจของตัวเองพร้อม เดี๋ยวพอเราพร้อมที่จะออกมาพูด เดี๋ยวออกมาพูดเองค่ะ”