Inside Dara
เปลือยหัวใจคลอไปกับเสียงเพลงบรรเลงทำนองชีวิตของ‘ดา-ธนิดา’

หากพูดถึงนักร้องหญิงแถวหน้าของเมืองไทย ที่เป็นไอดอลของสาวหลายๆ คน หนึ่งในนั้น ต้องมีชื่อของ "ดา เอ็นโดรฟิน" หรือ "ดา" ธนิดา ธรรมวมิล ซึ่งเธอคนนี้โลดแล่นอยู่ในวงการเพลงจนมายืนอยู่แถวหน้าของประเทศ ล่าสุดเธอเพิ่งปล่อยผลงานเพลงใหม่ถอดด้ามออกมาในชื่อ "อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” วันนี้หน้า "บันเทิง คม ชัด ลึก" เลยถือโอกาสคว้าตัวเธอคนนี้มานั่งพูดคุยกันสักหน่อย

ผลงานเพลงใหม่ล่าสุด
พูดถึงเพลง "อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” ที่มาเป็นยังไงบ้าง

จริงๆ ตอนนี้ ตลาดเพลงก็เป็นแบบปล่อยเพลงออกมาทีละเพลงไปแล้ว สำหรับดาปล่อยเพลงนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งเพลงนี้มันทำให้ดาเจอกับ "พี่โอ๋" (เจษฎา สุขทรามร) หรือพี่โอ๋ วงซีเปีย คือดามีอดีตกับเพลงนี้ คือดาเคยร้องเพลงกับพี่โอ๋ตอนดาเรียนอยู่ ม.3 เพลงเดียวกันนี้เลย “อยากอยู่กับเธอทั้งคืน” ตอนนั้นพี่โอ๋ทำโปรเจกท์ของเขา แล้วเขากำลังหาเด็กผู้หญิงมาร้องเพลงนี้อยู่ ดาก็เลยได้ร้องเพลงนั้นในคืนวันนั้น แล้วอยู่ดีๆ วันนี้ดากับพี่โอ๋ก็ได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นเรื่องบังเอิญมาก และจริงๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ดาอยากร้องคัฟเวอร์มานานมากแล้ว แต่ไม่มีโอกาสทำ 15 ปีผ่านมาเลยตั้งใจที่จะทำ

งานเพลงในอัลบั้มนี้ รู้สึกจะทำให้คนฟังประหลาดใจได้เสมอ

ถ้าได้ลองฟังดู จริงๆ แล้วปีนี้ดาให้ทุกคนได้เห็น หลายๆ มุมของดามากขึ้น ตั้งแต่เพลงแรก มันเป็นการช็อปปิ้ง ดาทำเพลงมาเกือบทุกแนวแล้ว 10 กว่าปีในแกรมมี่ ลองทุกอย่างมาหมดแล้ว ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่ไม่ต้องมีปลายทางว่าเราอยากได้อะไร อัลบั้มนี้ ดาก็จะมาในแนวป๊อปบวกสีสันเยอะๆ และอัลบั้มนี้ ดาก็ทำงานเอง คิดเพลงเอง เขียนเอง มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ สำหรับดาไม่ได้คิดว่า ตัวเองมาทางร็อกอะไรมากมาย จริงๆ ความเป็นป๊อป คือตัวดามากสุด แต่จะฉาบด้วยสีดำนิดหนึ่ง ดูร็อก ดูแข็งแรง แต่แฝงความสนุกเอาไว้

แล้วเพลงต่อไปจะมีอะไรแปลกๆ ให้ได้ชมกันบ้าง

มีนะ ก็น่าจะแบบเรื่องของซาวน์ดนตรีอะไรอย่างนี้ คือแนว EDM (Electronic Dance Music) น่าจะมีเพลงที่ได้คัฟเวอร์กับศิลปินท่านอื่นๆ อีก อย่างเช่น พี่ขัน (ขันเงิน เนื้อนวล ไทยเทเนียม) เรากำลังจะทำงานด้วยกัน หลังจากนี้ก็คงจะได้ยิน แนวที่คนไทยเรียกก็ตื๊ดๆ เป็น EDM เหมือนดนตรีในผับ ที่เราไปเที่ยวกันตอนกลางคืน แต่มันเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทย ที่มันยังไม่ค่อยได้เห็นสักเท่าไหร่ เพราะภาษาไทยแต่งยากมาก กับดนตรี EDM พวกนี้ มันไม่เข้าปาก จะเป็นอย่างไรต้องลองดู

ได้ข่าวว่าจะมีโปรเจกท์คอนเสิร์ตใหญ่ปีนี้

คอนเสิร์ตเหรอ พยายามเก็บเพลงอยู่นะ เพราะจริงๆ แล้วในคอนเสิร์ต ดาอยากให้ได้ยินเพลงใหม่กันเยอะๆ ด้วย ทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ คอนเสิร์ตดาก็ทำมาหลายแนวแล้ว ก็เลยคิดว่าถ้าคอนเสิร์ตครั้งต่อไปขอแบบปกติๆ บ้าง ขอนั่งเก้าอี้ร้องเพลงจริงจัง แล้วขอจัดที่เล็กๆ พอ ดาคิดว่าดาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เวทีที่ใหญ่ที่สุด ก็เคยลองขึ้นมาแล้ว บางทีรู้สึกว่าชอบที่เล็กๆ มากกว่า เพราะดาเห็นตาคน เห็นฟีลลิ่งว่าเขาร้องไปกับดา อาจจะมีสองรอบแล้วแบบ รอบละพันกว่าคนก็พอแล้ว (หัวเราะ)

บนเส้นทางสายดนตรี
10 ปีที่ผ่านมา ความรู้สึกที่ได้ขึ้นไปยืนร้องเพลงบนเวทีเป็นอย่างไรบ้าง

ความรู้สึกของดา คือเพลง ภาพลวงตา มันคือที่สุดของดาแล้ว ตอนนั้นดาอายุแค่ 23-24 ออกเทปตั้งแต่ตอนอายุ 17 ประสบความสำเร็จตั้งแต่ตอนเพลงเพื่อนสนิท สิ่งสำคัญ เราอยู่ประมาณ ม.6 เอง ได้เข้ามาอยู่ในภายใต้สังกัดแกรมมี่ คือความรู้สึกมันใหญ่มาก สำหรับเด็กตอนนั้นแล้วไม่คิดว่าเราจะมายืนอยู่ในจุดนี้อย่างต่อเนื่องจนมาถึงทุกวันนี้ เอาเป็นว่าตกใจมาก คือความคิดหลายๆ อย่างมันรวมกัน กังวล และคิดเยอะหลายสิ่งมากๆ

มีช่วงเวลาที่ท้อบ้างหรือเปล่า

สำหรับดาจะเครียดกับการดูแลคนอื่นมากกว่า เหมือนต่อไปจะทำอะไร แพลนในอีกปีหน้า เวลาเราทัวร์จะทำอะไรบ้าง จะทำเพลงตอนไหนต่อ คือกลัวว่าจังหวะชีวิตเรา มันจะผิดพลาดมากกว่า แต่ไม่เคยเหนื่อยจนท้อถอยอะไรขนาดนั้น คืออาจจะท้อแต่จะเป็นคนหายเร็ว

วิธีที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกดี

คิดอย่างเดียวเลยว่า ยังมีคนอื่น ที่แย่กว่าเราเยอะมาก คิดแค่นี้ แล้วสติอะไรต่างๆ จะกลับมา แล้วรู้เรื่องเลย เราคิดนะว่าแบบเรายังปกติ อวัยวะครบถ้วนตายังมองเห็น หูยังได้ยินเสียงเพลง แล้วคนอื่น บางคนเขาไม่เห็น ไม่ได้ยิน ก็แค่นั้นเอง ทำให้รู้สึกว่า อย่ามาดราม่าเยอะ คือบางทีก็แค่ทุกข์วันเสองวันพอ ถ้าเกินจากนั้นคือเสียเวลา

มีเพลงสักเพลงไหม ที่ไปไหนต้องร้อง และผูกพันกับเพลงนี้มากๆ

ดาว่าเพลง สิ่งสำคัญ เพราะเพลงนี้มันมีความหมายมากๆ สำหรับทุกความสัมพันธ์ จะเป็นแฟน เพื่อน หรือครอบครัว คือมันเป็นเรื่องจริง คือบางทีเรื่องที่มันยังไม่มาถึง มันไม่สำคัญเท่าปัจจุบัน มันก็เหมือนชีวิตเรา นึกออกไหม จะไปนึกถึงเรื่องสิบปีข้างหน้าแล้วก็นึกไม่ออก ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ทำตรงนี้ให้มันมีความสุขมากๆ แค่นั้นพอ

เคยคิดว่าจะพักงานในวงการ เริ่มรู้สึกอิ่มตัวบ้างหรือยัง

คิดว่าต่อไปมันอาจจะไม่ใช่หน้าที่ที่ต้องออกอัลบั้ม หรือทำเพลง เราอาจจะอยากออกซิงเกิ้ลมากกว่า ดารู้เลยว่ามันจบไม่ได้ มันหยุดไม่ได้แน่ๆ เรานึกไม่ออกว่าจะหยุดร้องเพลงตอนไหน แต่ว่ามันอาจจะแบบมีจังหวะที่ได้ทำมากกว่า นึกไม่ออกว่าจะหยุดแล้วไปทำอะไร สมมุติอีก 10 ปีข้างหน้า ก็ยังร้องอยู่เนอะ แต่อย่างที่บอกว่า อาจจะไม่ได้ร้องเพราะว่าเป็นศิลปินที่ต้องออกอัลบั้ม ก็นั่นแหละก็ยังร้องเพลงอยู่ แต่จะแบบมีลูกเหรอ นึกหน้าลูกไม่ออก

ชีวิตหลังไมค์
ตอนนี้เหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัวเหนื่อยบ้างไหม

เหนื่อยนะ แต่ว่าโชคดีแล้ว ที่เราไม่ต้องอยู่ในออฟฟิศทุกวัน ออกไปกินข้าวเวลาเดียวกับทุกคน อันนี้มันเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับเลยว่า ทุกครั้งที่เหนื่อยจะต้องพูดเลยนะว่า งานแกยังดีมากเลยนะดา และทำตรงนี้ให้ดีที่สุด รักษาความสัมพันธ์ รักษาคนในครอบครัว มอบความรัก มอบเวลาให้กันและกันบ้างแค่นั้นพอ และดาเต็มใจที่จะทำทุกวันนี้ ทำให้มันดีขึ้นๆ ไป

จุดสูงสุด ตั้งเป้าไว้ในชีวิต

เวลาใครถามอย่างนี้ จะบอกเลยว่าคือเพลง "เพื่อนสนิท" เพลงแรกของดาที่พลิกทุกอย่าง นั่นคือเป็นจุดที่สูงสุดในชีวิตแล้ว คือต่อไป จะไปได้ดีกว่านั้นคือไม่ได้คิดแล้ว นอกเหนือจากนั้น คือกำไร และประสบการณ์ชีวิตของเรามากกว่า หลังจากนี้ใช้ชีวิตให้คุ้มและมีคุณค่าพอ

คำจำกัดความของผู้หญิงที่ชื่อ "ดา" เป็นอย่างไร

ดาก็เป็นเด็กผู้หญิง ม.ปลาย คนหนึ่งที่จับผลัดจับผลูมาร้องเพลงมาแล้ว 10 ปี กลายเป็นนักร้องผู้หญิงในเมืองไทย ซึ่งสำหรับเรามันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่มายืนตรงนี้ บางทีดาไปเจอเด็กๆ ชอบเข้ามาบอกว่า เราเป็นไอดอลเขา ถือว่าเป็นเรื่องราวที่ดีที่สุดในชีวิต อย่างน้อยเราได้ไปอยู่ในช่วงเวลาของทุกคน ได้แชร์ความรู้สึกดีๆ กับทุกคน เป็นเรื่องยากและน้อยคนที่จะรู้สึกแบบนี้ สำหรับดาเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ นอกจากสร้างสรรค์งานไปเรื่อยๆ เพราะว่าเรามีโอกาสทำ ขอแค่ทุกคนยังฟังเพลงของเราอยู่ ดาก็จะทำต่อไป ค่อยๆ เดินไปด้วยกัน มีความสุขในสิ่งที่มีอยู่ตรงนี้ แชร์ความสุขกันไปเรื่อยๆ

เปิดประตูหัวใจ
ความรักในรูปแบบของดาเป็นยังไง

ตอนเด็กๆ คิดว่าความรัก มันก็จะต้องอยู่ด้วยกันโน่นนี่นั่นเต็มที่ แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆ คือต้องพูดเลย ว่าคนที่เราขึ้นชื่อว่าแฟนต้องเป็นเพื่อนรัก ต้องเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเรา เพราะ 70 เปอร์เซ็นต์ ดายู่กับงาน ส่วน30 เปอร์เซ็นต์เราต้องอยู่กับเขานะ ต้องคิดเสมอด้วยว่าเขาอยู่กับเรา แล้วรู้สึกยังไง แล้วทุกเรื่องต้องคุยกันได้ เวลาที่เราโกรธหรือโมโห เขาก็ต้องเป็นถังขยะรองรับอารมณ์ซึ่งกันและกันอย่างเต็มใจที่จะเป็นด้วย สำหรับดาแค่นี้จริงๆ

เรื่องความรักตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

โอเคสำหรับดา กับ "ฌอห์ณ" ตอนนี้เราก็เรื่อยๆ เพราะว่าจริงๆ แล้วดากับเขา คือเขาเป็นแฟนต่างชาติคนแรก ไม่รู้ไม่ได้ตั้งใจจะคบด้วย ตอนแรกโสดมาระยะหนึ่งแล้ว พอตัวเองโตขึ้นเรื่อยๆ เราจะรู้สึกว่าความรักมันไม่ใช่สาระสำคัญในชีวิตแล้ว ถ้ามันจะมีเข้ามาก็โอเค ถ้ามันไม่มา ไม่ต้องไปค้นหาให้มันลำบาก แล้วก็ยิ่งอายุเยอะขึ้น 28-29 จะไปหาแต่ผู้ชาย แต่สำหรับ ฌอห์ณ คือเรามีความเป็นเพื่อนกันสูงมาก เพราะฉะนั้นมันเลยเป็นเรื่องง่ายหน่อย คือยอมรับนะ ว่ามันก็เป็นเหมือนกันกับทุกคู่ ที่แบบปีแรกดี๊ดี ปีหลังๆ ก็แบบฉันเห็นด้านที่ไม่ดีของเธอ เธอเห็นด้านที่ไม่ดีของฉัน คิดว่านี่แหละยอมรับกันได้ไหม

"นี่แหละ ดา เอ็นโดรฟิน"

เธอคนนี้ชื่อ ธนิดา ธรรมวมิล

ใครก็เรียกเธอว่า "ดา"

เกิดวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2529

การศึกษา ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยสยาม

ผลงานสร้างชื่อ เพลง เพื่อนสนิท ภาพลวงตา ฯลฯ

ผลงานล่าสุด เพลง อยากอยู่กับเธอทั้งคืน