Inside Dara
ชีวิตฟ้าหลังฝนคนซน-เกรียน-รั่ว-ฮาแบบ'บอย-ปกรณ์'

เป็นพระเอกมาแรงของวิก 3 พระราม 4 ที่สาวๆ กำลังกรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยมาดเซอร์ๆ กับความเกรียน รั่ว ฮา ที่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้ "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เข้าไปอยู่ในใจใครหลายคนได้ไม่ยาก แม้จะมีมรสุมชีวิตข่าวฉาวคลิปหลุดที่เกาหลีจนเป็นข่าวฮือฮา แต่ก็ไม่อาจสกัดความแรงของหนุ่มคนนี้ได้ และในตอนนี้ กำลังมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง "ฟัดจังโตะ" คู่กับ "ยิปโซ" รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์

ว่าด้วยเรื่อง ผลงานในปัจจุบัน
กับภาพยนตร์เรื่อง "ฟัดจังโตะ" หลังจากห่างหายงานหนังไป 2 ปี

เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกในรอบ 2 ปี ถือเป็นการร่วมงานครั้งแรกกับพี่ยอร์ช (ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์) ขอบอกว่าเป็นผู้กำกับที่ผมร่วมงานด้วยแล้วมีความสุขมากๆ เขาเป็นคนที่เก่งมาก มีมุมมองมีมุกที่บางครั้งผมยังแปลกใจว่าเขาคิดออกมาได้อย่างไร พี่ยอร์ชจะเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่มุกในบทหนัง แต่จะมาใส่มุกตอนกำกับมากกว่า ผมมองว่ามุกเหล่านี้มันจะกระตุ้นทำให้ผมรู้สึกสนุกและตื่นเต้นทุกครั้งที่จะได้เข้าฉาก เพราะมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ตลอดเวลาจริงๆ (ยิ้ม)

ได้ร่วมงานกับ "ยิปโซ" รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์ เป็นครั้งแรก รู้สึกอย่างไรบ้าง

ความจริงผมเคยทำงานกับยิปโซ ตอนอัดรายการมาก่อน เจอกันก็ทักกัน พอรู้ว่าจะได้เล่นกับยิปโซ ก็ดีใจเพราะผมชอบดูหนังที่เขาเล่น เขามีความน่ารัก มีเสน่ห์ในตัวเองเยอะ เขาเป็นมืออาชีพและเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก ใครสั่งให้ทำอะไรก็ทำได้ เป็นคนเก่งมีพรสวรรค์ ส่วนการทำงานกับพี่ยอร์ช ลำบากตรงที่ผมไม่ได้เล่นหนังมานาน ซึ่งจังหวะการเล่นละครและการเล่นหนังมันต่างกัน ผมต้องปรึกษาพี่ยอร์ชเยอะมาก ว่าเล่นประมาณนี้พอไหม หรืออะไรอย่างไร

ผลงานอื่นๆ นอกจากงานหนัง

นอกจากงานหนังก็มีละครเรื่อง "ในสวนขวัญ" เรียกว่ากลับมาเล่นกับคู่ขวัญอีกครั้งหนึ่ง กับน้องมาร์กี้ (ราศรี บาเล็นซิเอก้า) ซึ่งจะออนแอร์ทุกศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นอกจากนี้ก็รอเปิดกล้องละครอีก 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ หงส์ ซึ่งเรื่องนี้ผมได้แสดงคู่กับพี่เจนี่ (เจนี่ อัศวเหม) จะเปิดกล้องต้นเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งนั้นเป็นละครรีเมค น่าจะเปิดกล้องประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งผมต้องรอทางช่องคอนเฟิร์มอีกทีหนึ่งก่อน

ชีวิตในวงการบันเทิง/กระแสข่าวที่ถาโถม
ตั้งแต่อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีคิดว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน

ถ้าว่าด้วยเรื่องของการทำงาน ก็มีเปลี่ยนบ้าง ตามประสบการณ์ที่เรามีมากขึ้น เราสามารถทำงานได้คล่องแคล่วมากขึ้น ตอนที่เริ่มเข้าวงการใหม่ๆ ก็จะเหนื่อยมากหน่อย แต่ทุกวันนี้ เราเหนื่อยน้อยลง เพราะเรารู้วิธีที่จะทำงานให้สำเร็จได้เร็วและง่ายขึ้น แต่เราก็ยังต้องใช้ความพยายามมากเหมือนเดิม เรื่องชีวิตส่วนตัว พอเราเข้ามาทำงานตรงนี้ ชีวิตส่วนตัวก็ต้องลดลงเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ต้องเรียนรู้ ที่จะอยู่ตรงนี้ให้ได้เท่านั้นเอง เรื่องการวางตัวก็เหมือนเดิมจริงๆ แล้วเรื่องนี้ควรจะถามคนรอบข้างผมมากกว่า การวางตัวของผมเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมเหมือนเดิม ผมเคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น

ปกติดาราส่วนใหญ่จะมีผู้จัดการส่วนตัว ทำไมบอยถึงต้องดูแลคิวตัวเอง

เรียกว่าดูกันคนละ 50:50 ดีกว่า เพราะความจริงแล้ว ผมมีช่อง 3 เป็นต้นสังกัดและคนดูแล เวลามีคนติดต่องานการคุยรายละเอียดงาน จะเป็นหน้าที่ของช่องที่จะคอยคุยให้ แต่เวลาออกมาทำงานทุกคนก็จะเห็นว่าผมก็ไปงานเอง ดูแลตัวเองเหมือนเดิม ถามว่าเคยมีปัญหาอะไรไหม ก็มีบ้าง บางทีที่อาจจดคิวงานผิดบ้าง จำวันผิด คือผมทำงานเยอะ อาจมีเบลอมีอะไรบ้าง แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็ไม่ถึงขั้นแก้ไขอะไรไม่ทัน

เป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยมีข่าวฉาวเท่าไหร่ พอมีปุ๊บก็ขึ้นหน้า 1 รับมือกับกระแสข่าวอย่างไร

เราทำงานตรงนี้ ผมมองว่ามันต้องควบคู่กับการมีข่าวอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าข่าวที่เข้ามาจะมีลักษณะอย่างไร สำหรับผมแล้ว โดยปกติวิธีรับมือก็ไม่ใช่วิธีที่ซับซ้อนอะไร อะไรที่ใช่ อะไรที่จริงเราก็บอกว่าจริง อะไรที่ไม่ใช่ หรือไม่จริงเราก็บอกไปว่าไม่จริง

กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บทเรียนอะไรบ้าง

สำหรับผมทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานหรือข่าวที่มันเกิดขึ้นกับตัวผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม ทุกอย่างสามารถเป็นบทเรียนได้ทั้งหมด ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันสามารถทำให้เราเติบโตขึ้น และทำให้เรารู้ว่าคนเรามันต้องเจออะไรบ้าง มันทำให้เรามีประสบการณ์ที่จะนำไปปรับใช้ในเหตุการณ์ในวันข้างหน้าได้ กับข่าวที่เกิดขึ้นผมไม่ขอพูดเรื่องรายละเอียด แต่มันทำให้เรารู้ว่า เวลาที่เราจะทำอะไรก็ตามเราต้องมีสติ เราต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องโซเชียลผมมองว่ามันมี 2 ด้าน

กับสาวๆ ที่เป็นข่าวมีใครเป็นตัวจริงบ้าง

ไม่มี กับมาร์กี้ก็เป็นน้องที่สนิท เราเคยร่วมงานกันหลายเรื่อง แฟนละครก็อาจจะอินกับละคร ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่มีอะไร กับน้องแอร์โฮสเตสที่เป็นข่าวด้วยนั้น จริงๆ ผมกับน้องเขาก็สนิทกันมานาน แต่เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว ผมไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน เพราะดูเหมือนจะมีผลกระทบกับเรื่องหน้าที่การงานของเขา บอกตรงๆ ว่า ช่วงนี้ผมยังอยากใช้เวลากับการทำงาน ทุกวันนี้ผมค่อนข้างยุ่งกับการทำงาน คิวงานค่อนข้างเยอะ เรื่องความรักมันยังเป็นเรื่องรองสำหรับผมในตอนนี้

มุมมองเรื่องความรัก
มีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องความรักอย่างไร

สำหรับผม ความรักเป็นสิ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตของเราสมบูรณ์ขึ้น ทำให้เรามีความสุข มีคนคอยช่วยแก้ปัญหา แต่อย่าลืมว่า ความรักไม่ได้เป็นทั้งหมดของชีวิต บางทีการที่เราต้องผิดหวังเรื่องความรัก มันไม่ได้หมายความว่า เราต้องผิดหวังทั้งชีวิต หรือชีวิตเราไม่เหลืออะไรแล้ว เรายังมีงาน มีครอบครัว และมีเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบอีกตั้งเยอะ

ตอนนี้ห่วงเรื่องอะไร และเมื่อไหร่ถึงจะพร้อมสำหรับเรื่องชีวิตคู่

ทุกวันนี้ ผมไม่ห่วงอะไร นอกจากเรื่องงาน จริงๆ ทุกวันนี้ ผมห่วงงานทุกชิ้น ที่เราทำอยู่ว่าจะออกมาดีหรือเปล่า มันจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าถามว่าเมื่อไหร่ผมจะพร้อมเรื่องความรัก อืม...ตอนนี้ผมก็พร้อมแล้วนะ เพียงแค่ตอนนี้ผมยังไม่มีจังหวะและโอกาสมากกว่า

ครอบครัวฉัตรบริรักษ์
ความสัมพันธ์กับครอบครัวเป็นอย่างไร เวลามีปัญหามีปรึกษาใครในครอบครัวเป็นพิเศษไหม

ปกติเหมือนทุกครอบครัว ผม คุณแม่ และน้องๆ ค่อนข้างสนิทสนมกัน แต่ระยะหลังๆ เราจะเริ่มมีหน้าที่การงานที่รัดตัวมากขึ้น ทำให้เวลาที่เราเจอกันน้อยลง แต่เราก็พยายามที่จะหาเวลามารวมตัวกัน อย่างวันไหนว่างตรงกันก็จะไปทานข้าวด้วยกัน กับคุณแม่ผมคุยกับท่านแทบทุกเรื่อง เวลาผมมีปัญหาอะไรก็จะนึกถึงท่านก่อนเสมอ ท่านเป็นคนที่ให้อะไรกับผมเยอะมาก เรียกว่าทุกอย่างของผมมาจากแม่ ท่านเป็นคนหล่อหลอมให้ผมเป็น "บอย" ปกรณ์ ในทุกวันนี้

ตอนนี้มีสมาชิกใหม่ในครอบครัว น้องวันใหม่ มีน้องเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้น้องอายุเกือบ 2 ขวบแล้ว (ยิ้ม) ครอบครัวเรามีความสุขกับการเห็นพัฒนาการของเขา ได้เห็นเขาโตขึ้นเรื่อยๆ หลายคนบอกว่า น้องเขาโชคดีที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเรา แต่ผมอยากบอกว่า ความจริงเขาต่างหากที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของผมให้สมบูรณ์ขึ้น มีความสุขมากขึ้น พอมีวันใหม่เข้ามาในครอบครัว ครอบครัวของเรามันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคนในครอบครัวพยายามหาเวลาเข้ามาใช้ชีวิตในครอบครัวมากขึ้น

คนแซวเป็นป๋าดัน ดันน้องชายเข้าวงการ

อาจจะแค่ มีคนรู้ว่าคนนี้เป็นน้องชายของ "บอย" ปกรณ์ แค่นั้นเอง การที่น้องผมจะก้าวสู่วงการนี้ได้ ต้องอยู่ที่ความสนใจของเขาด้วย เขาก็มีดีพอที่จะก้าวเข้าวงการนี้ได้ พอเขาเข้ามา ผมก็อาจมีการแนะนำเขาบ้าง ในการทำงานตรงนี้บ้างเท่านั้นเอง น้องผมก็มีปรึกษาเรื่องในวงการบ้าง เวลาพูดเราก็พูดกว้างๆ เพราะผมคิดว่าเขาต้องไปเจออะไรบ้าง เขาต้องเติบโตด้วยตัวของเขาเองด้วย

วางแพลนอนาคตต่อไปอย่างไร

ผมไม่ได้เป็นคนวางแพลนอนาคตอะไรยาวๆ ทุกวันนี้ผมยังสนุกกับการทำงานตรงนี้ สนุกกับการใช้ชีวิตในครอบครัววันนี้อยู่ ถามว่าผมประสบความสำเร็จหรือยัง ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ยาวไกล ผมยังพูดตอนนี้ไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จ ตอนนี้ผมยังไม่มีครอบครัว งานตรงนี้ ทำไปก่อนเรื่อยๆ จนถึงจุดที่ทำตรงนี้ไม่ได้ ก็ทำอย่างอื่น ถ้าเรามีความสามารถพอ ก็อยากไปทำงานเบื้องหลังบ้าง แล้วเปิดร้านขายยา ซึ่งเรื่องนี้ผมทำแน่นอน เพียงแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ขอเป็นเรื่องอนาคต


เขาคนนี้ชื่อ "บอย" ปรกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ฤกษ์ดีส่งมาเกิด 20 สิงหาคม 2527
การศึกษา จบปริญญาตรีคณะเภสัชศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผลงานก่อนหน้านี้ (ภาพยนตร์) ฝัน หวาน อาย จูบ (ละคร) ไฟรักอสูร, สามหัวใจ, วายุภัคมนตรา, รอยมาร, สามหนุ่มเนื้อทอง, ตะวันฉายในม่านเมฆ, ฟ้ากระจ่างดาว ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน (ภาพยนตร์) ฟัดจังโตะ (ละคร) ในสวนขวัญ, หงส์