Inside Dara
“บุ๋ม” เผยสามีถามคำเดียว หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนที่สิงคโปร์ มดลูกปลอดภัยหรือเปล่า! เพราะตั้งเป้าอยากมีลูกเพิ่มอีกคน

“บุ๋ม ปนัดดา” เผยฟาดเคราะห์ถูกรถชนท้ายที่สิงคโปร์ บอกเป็นครั้งแรกในชีวิต อาการไม่หนัก แค่กล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน ลั่นก่อนไปเกิดสังหรณ์ไม่ค่อยดี ไปทำบุญไว้ก่อนแล้ว ขำสามีห่วงแต่มดลูก เพราะอยากมีลูกเพิ่ม ส่วนตนไม่มีปัญหา เป็นแม่พันธุ์ได้สบายๆ ลั่นต้องเปย์ด้วยเงินและที่ดินเท่านั้น!

หลังจากที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุรถชนท้ายที่ประเทศสิงคโปร์ไปจนกล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ย.) “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ก็ออกงานอีเวนต์แล้ว ล่าสุดมาร่วมงาน The Eternity Of ThaiNess Cosplay GALA Dinner ที่ ห้องประชุมมงคลอาภา3 คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอ และออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยเจ้าตัวมองเป็นการฟาดเคราะห์ โชคดีไม่เป็นอะไรมาก

“วันนั้นไปทานบะหมี่ที่สิงคโปร์ค่ะ เพียงแต่ว่าวันนั้นพอลงจากเครื่องบิน ก็ขึ้นรถแท็กซี่ของสนามบิน แล้วจากนั้นก็ขึ้นทางด่วน ขณะนั้นก็มีอะไรมาอัดหลังเราตึง แรงมาก ครั้งแรกตอนชนความรู้สึกเหมือนมีหินมากระแทกหลังบุ๋มเต็มเลย แล้วเหมือนเลือดมันวิ่งตั้งแต่คอจนถึงหลังล่าง แล้วเราก็ชา และด้วยความที่เราเป็นกู้ภัย เราก็จะรู้ว่าเวลาเกิดอะไรแบบนี้ แรกๆ เราจะยังไม่รู้สีกเจ็บอะไรมาก ต้องรอสัก 1-2 ชม. ถึงจะมีอาการ ก็เลยเก็บข้อมูลคนขับ คนชนไว้หมด แล้วก็ไปกินบะหมี่ ยังไปกินอยู่ เพราะยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอะไรมาก แต่ตอนที่กินก็รู้สึกวิ้งๆ อึนๆ

แต่พอเช็กอินที่โรงแรมเท่านั้นแหละ วิ่งสลับกันกับเพื่อน อาเจียนกัน จนกระทั่งบุ๋มเริ่มอาเจียนเป็นเลือด แล้วเพื่อนก็รู้สึกตาพร่าๆ เหมือนเลนส์ตาเลื่อน มีรอยช้ำเพิ่มขึ้นมา ส่วนตัวบุ๋มเริ่มหายใจไม่ออก คืออาการกล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน ก็เลยทำให้เดินตัวงอและเริ่มหายใจไม่ออก ก็เลยไปโรงพยาบาล เพราะเริ่มอาเจียนหลายรอบ และอาเจียนทั้งคู่มันไม่ปกติ ไปถึงคุณหมอก็เอกซเรย์ค่ะ แล้วก็ดูอาการเบื้องต้น สิ่งที่เจอก็คือกล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลันนั่นแหละ ตัวกระดูกไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ เพราะบุ๋มใส่เซฟตี้เบลล์ ในส่วนอื่นหมอก็บอกว่าให้พักรักษากล้ามเนื้อนิดนึงค่ะ เพราะมันยังหายใจไม่ค่อยดี”

บอกอาการกลับมา 100% แล้ว

“ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าอาการหนักแล้วล่ะ ถึงได้รู้สึกว่ารถชนเราหนัก แต่ตอนแรกชิลมาก ยังไปกินบะหมี่ต่อ แต่พอเริ่มอาเจียนเท่านั้นแหละ เริ่มรู้สึกว่าหนักแล้ว แต่ก็ยังไม่กลับ นี่แหละความดื้อ (หัวเราะ) พอเอกซเรย์แล้ว คุณหมอแจ้งว่าช่วงกล้ามเนื้อตรงคอค่ะ เพราะค่อนข้างมีผลกระทบกับการกระแทกค่อนข้างแรงพอสมควร และของเพื่อนก็กระจกเลนส์ตาเลื่อนค่ะ เพราะขอบมือถือกระเด็นและกระแทกเข้าตา ก็ต้องพักรักษาตัวพอสมควรค่ะ ถ้าไม่ดีขึ้นอาจจะต้องผ่า แต่ของบุ๋มไม่เป็นอะไรมาก เท่าที่เช็กอาการของเพื่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว

ตอนนี้กลับมา 100% ไม่ 100 ก็ต้อง 100 เพราะคิวงานแน่นมากค่ะ ก็ได้กลับมาเช็กที่ไทยอีกรอบค่ะ ก็ให้คุณหมอดูผลเอกซเรย์เพิ่มเติมว่าจะต้อง MRI ไหม แต่บังเอิญอาการมันพอดีแล้ว และเราก็รู้สึกว่าโอเคขึ้น อาจจะเพราะไม่ได้หักโหมกับชีวิตมากนักด้วย และงานวันแรกที่กลับมาก็นั่งเฉยๆ นั่งเล่าข่าว แต่ถ้าเป็นละครอาจจะยังไม่ได้”

เผยคิดว่าเป็นการฟาดเคราะห์ เพราะเพิ่งไปทำบุญก่อนไปสิงคโปร์

“โชคดีที่มีน้องบัวชมพู วงบลูเบอร์รี่ อยู่ที่สิงคโปร์ น้องก็เลยประสานให้ และแท็กซี่ของที่นั่นเป็นแท็กซี่ของทางภาครัฐ ยังไงเขาก็ต้องชดใช้อยู่แล้วค่ะ คือคนชนเป็นรถเช่า แต่ด้วยรถที่เรานั่งก็คือเหมือนเป็นพ.ร.บ.รถยนต์ค่ะ เป็นแท็กซี่ของทางภาครัฐเขาชดใช้ให้ เพียงแต่อาจจะรอดำเนินการช้านิดนึง ซึ่งน้องบัวกำลังดำเนินการให้อยู่ ก็แอบคิดว่าทำไมต้องมาเจออะไรก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเหมือนฟาดเคราะห์จริงๆ เพราะมันมีเรื่องหยุมหยิมเกิดขึ้นจริงๆ กับตัวบุ๋ม และเกิดความรู้สึกไม่สบายใจก่อนหน้าจะไปสิงคโปร์ไม่กี่วัน

เพิ่งจะไปบริจาคโลงเย็นมา เพราะด้วยความไม่สบายใจว่าทำไมช่วงนี้รู้สึกติดๆ ขัดๆ ไม่สบายใจ ก็ไปบริจาคโลงเย็น และเราอาจจะทำอะไรแบบนี้หรือเปล่าก็เลยเบาลง และปกติไม่คาดเข็มขัดนะคะถ้านั่งเบาะหลัง และถ้าวันนั้นบุ๋มโดนจริงๆ อาจจะพุ่งไปข้างหน้าแล้วก็ได้ แต่ไม่รู้คิดยังไงคาด ก็ยังงงอยู่

เป็นครั้งแรกที่เจออุบัติเหตุที่ต่างประเทศเลยค่ะ จังหวะนั้นคิดถึงหน้าลูกค่ะ จังหวะแรกที่รถชนแล้วเราไม่กล้าขยับตัว เพราะเราต้องค่อยๆ เช็กก่อน จังหวะแรกคิดถึงหน้าลูกว่าจะได้กลับไปเจอเขาไหม กลัวมากค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะมีรถมาชนต่อไหม เพราะมันบนทางด่วนด้วย”ขำสามีถามแต่เรื่องมดลูก ยังอยากได้ลูกเพิ่ม

“สามีถามคำเดียวค่ะ เพราะเราส่งคลิปไปให้เขาดูว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ สามีก็ถามกลับมาคำเดียวว่า มดลูกปลอดภัยหรือเปล่า (หัวเราะ) สามียังตั้งเป้าว่าอยากจะมีลูกอีก วัตถุประสงค์เขาชัดเจน เขาคงเห็นว่ายังส่งคลิปได้ก็คงไม่เป็นอะไรมากมั้ง เขาก็เลยถามว่ามดลูกปลอดภัยดีไหม ไม่ห่วงกระดูกสันหลังฉันเลย เราก็โอ้ย อะไรจะเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้ แต่เราก็รู้แหละว่าเขาไม่อยากให้เราเครียด เขาตั้งมั่นว่ายังไงต้องมีอีกแน่ เราบอกว่าเลี้ยงอเล็กซ์ให้รอดก่อน เพราะตอนนี้คือซนมาก ถามว่าบ่ายเบี่ยงยากไหม (หัวเราะ) ลูกนอนขวางอยู่ ยังโอเคอยู่ ไม่ย้ายลูกออกไป (หัวเราะ) แต่พอเขาตั้งเป้าแบบนี้แล้ว ก็ปฎิเสธลำบากค่ะ ขัดไม่ได้ตั้งแต่อเล็กซ์แล้ว (หัวเราะ)

แต่บอกแล้วว่าถ้ามีลูกคนที่สองต้องมีอะไรมาให้เพิ่ม บอกว่าต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เพราะกระดูกฉันสลายไป เขาก็รู้แหละค่ะว่าคือการสร้างความมั่นคงให้กับดิฉัน (ต้องเป็นที่ดินหรือเงินสดเท่านั้น?) อะไรอย่างนั้นเป็นต้นค่ะ ตัวเลขถามว่าต้องมากกว่าคนแรกไหมได้โปรดค่ะ ได้ก็ดี (หัวเราะ) เขาโอเคอยู่แล้วค่ะ เพราะเขาก็รู้ว่ายังไงเราก็ให้ลูก เพราะคนแรกเขาก็ให้มาแล้ว แต่คนที่สองนี่ยังสิ ต้องเปย์ก่อน คือไม่หรอก ด้วยอายุมากกว่า แต่ด้วยอีกใจก็ไม่อยากจะมีแล้ว และเราก็รู้สึกว่าเราเต็มอิ่มกับตรงนี้แล้ว ถามว่าเคยไปเช็กสุขภาพว่าถ้าจะมีคนที่สองยังได้มั้ย คุณหมอพูดเลยค่ะว่ายังเป็นแม่พันธุ์ชั้นเยี่ยม (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ยัง ไม่เอาเซอร์ไพรส์กันแล้วเหรอ (หัวเราะ) ดูนะคะ ยังแบนอยู่นะคะ”

บอก “น้องอเล็กซ์” กำลังซนมาก วัย 9 เดือน เล็งให้นมแม่ได้ไปถึงอายุ 3 ขวบ

“เมื่อกี้ก่อนที่จะมาถึงงานนี้น้องเอามะม่วงยัดใส่รูชาร์ตแบตโทรศัพท์คุณพ่อค่ะ ก็คือเขากินมะม่วง เสร็จแล้วก็คว้าโทรศัพท์คุณพ่อเอาไปถูละเลง แล้วก็ทำให้ชาร์ตแบตไม่ได้ค่ะ คุณพ่อก็เลยโทร.มาแจ้งว่าตอนนี้โทรศัพท์ชาร์ตแบตไม่ได้ ต้องระวังเยอะมากค่ะ และไม่คิดว่าจะต้องหาพี่เลี้ยงมาเยอะขนาดนี้ ตอนนี้ก็ 3 คนแล้วค่ะ แต่สลับกันนะคะ เพราะคนเดียวไม่ไหวค่ะ เอาไม่อยู่จริงๆ อันดาเรียบร้อยกว่าเยอะค่ะ ยังนั่งนิ่งๆ บ้าง แต่นี่ไม่นิ่งเลยค่ะ ตอนนี้ 9 เดือนแล้วค่ะ ยังให้นมอยู่ค่ะ ยังเป็นนมแม่ 100% อยู่ค่ะ ซึ่งตอนนี้ที่ปั้มได้ก็น่าจะอยู่ได้ถึง 3 ปีแล้วค่ะ 3 ตู้เย็นหลังใหญ่แล้วค่ะ น่าจะอยู่ได้ยาวๆ ยังไงก็สนับสนุนเรื่องนมแม่อยู่ค่ะ

ถามว่าสามีเริ่มทวงคืนหรือยัง (หัวเราะ) ตอนนี้ห่วงแต่มดลูกอย่างเดียว (หัวเราะ) คือถ้าจะมีก็คงจะมีเร็วๆ นี้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีหลังจากนี้ก็คงไม่เอาแล้วแหละ

แต่ช่วงนี้ที่เขาปล่อยให้เราไปเที่ยวก็คือให้เราตายใจ เตรียมปั๊มทายาทต่อ น่าจะเป็นอย่างนั้น (หัวเราะ) ตอนนี้ยังให้เราตายใจอยู่ค่ะ”