Inside Dara
ออสการ์ผิดซอง ทำประกาศผลผิด ลาลาแลนด์หนังเยี่ยม ต้องมาแก้เป็นมูนไลท์

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 89 ทำคนช็อกทั่วโลก กลายเป็นตลกร้าย หลังพิธีกร “วอร์เรน เบ็ตตี” ประกาศชื่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีผิด จากเรื่อง “มูนไลท์” เป็น “ลา ลา แลนด์” ทำทีมงานลา ลา แลนด์ ที่ขึ้น ไปรับรางวัลและกล่าวขอบคุณทีมงานต้องเก้อเขินบนเวที จนตัวแทนบริษัทผู้ดูแลการนับคะแนนและซองประกาศรางวัลขึ้นเวทีมาชี้แจงว่ามีการประกาศรางวัลผิด ท่ามกลางความงุนงงของผู้ชมทั้งในงาน และการถ่ายทอดสด ด้านดาราชายหญิงยอดเยี่ยมปีนี้ เคซีย์ แอฟเฟล็ค ที่รับบทชายใจสลายคว้าไปจากเรื่อง แมนเชสเตอร์ บาย เดอะ ซี ส่วนเอ็มม่า สโตน ดาราสาวดาวรุ่ง ได้รับตุ๊กตาทองไปครองเป็นครั้งแรกในชีวิต

ฮือฮาสนั่นโลกกับงานประกาศผลรางวัล “อะคาเดมี อวอร์ดส์” หรือออสการ์ รางวัลเกียรติยศสูงสุดในวงการภาพยนตร์โลก มีขึ้นอีกครั้งเมื่อคืนวันที่ 26 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ. ตามเวลาไทย โดยปีนี้เป็นงานครั้งที่ 89 จัดขึ้นอย่างอลังการ ที่โรงละครดอลบี้ เธียเตอร์ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และเว็บไซต์ไปทั่วโลกและได้เกิดการประกาศผลผิดพลาดอย่างแรงจนเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ เวิลด์

ทั้งนี้ ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในปีนี้คือเรื่อง ลา ลา แลนด์ (La La Land) หนังเพลงมิวสิเคิลแสดงเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว ที่ตามหาความฝันในวงการบันเทิงดารา คว้าไปถึง 6 สาขา ได้แก่ สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม โดยฝีมือของเดเมียน ชาเซลล์ วัย 32 ปี ซึ่งถือเป็นผู้กำกับอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลออสการ์ ตามด้วยสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม สาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยม สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม และสุดท้าย สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยม จากฝีมือการแสดงอย่างไร้ข้อกังขาของเอ็มม่า สโตน ดาราสาวดาวรุ่ง ได้รับตุ๊กตาทอง ออสการ์ไปครอบครองเป็นครั้งแรกในชีวิต

อย่างไรก็ตาม หลังจากการประกาศมอบรางวัลสาขาดารานำหญิงแก่เอ็มม่า สโตน เสร็จสิ้นเข้าสู่ลำดับต่อไปคือสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งถือเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดในค่ำคืน กลับเกิดการประกาศรางวัลผิดพลาดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์งานออสการ์ โดยดารารุ่นเก๋า วอร์เรน เบ็ตตี้ และเฟย์ ดันนาเวย์ ที่ทำหน้าที่พิธีกรได้เปิดซองผลรางวัลออกมา และมองหน้ากันอย่างงงๆแบบผิดวิสัยอยู่นาน ก่อนที่เฟย์ ดันนาเวย์ จะพูดว่า เรื่องที่ได้รับ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคือ ลา ลา แลนด์

จากนั้นทีมอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ยกขบวนกันขึ้นมารับรางวัล ได้เริ่มผลัดกันกล่าวขอบคุณบุคลากรที่ทำให้เรื่องนี้สำเร็จขึ้นมา รวมถึงสมาชิกครอบครัวพ่อแม่พี่น้องที่คอยส่งกำลังใจ แต่ทันใด ตัวแทนของไพรซ์ วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส บริษัทผู้ดูแลการนับคะแนนและซองประกาศรางวัล ก็ได้ขึ้นเวทีมาชี้แจงว่า ประกาศรางวัลผิดไปแล้ว ขณะที่พิธีกรวอร์เรน เบ็ตตี้ ก็ได้นำซองผลรางวัลของจริงมาแสดงว่า เรื่องที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมคือ “มูนไลท์” (Moonlight) เรื่องราวของเด็กผิวสีที่เติบโตมาในย่านชุมชนเสื่อมโทรมที่เต็มไปด้วยยาเสพติด ทำให้จอร์แดน โฮโรวิซ ผู้อำนวยการสร้างคว้าซองมาโชว์ต่อสาธารณชน พร้อมเรียกทีมอำนวยการสร้างของมูนไลท์ขึ้นเวทีแทน

ต่อมาพิธีกรวอร์เรน เบ็ตตี้ ได้พยายามกล่าวชี้แจงอย่างเก้อเขิน ท่ามกลางเสียงฮือฮาของบรรดาดารานักแสดงที่ตกอกตกใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือตนเปิดซองออกมาและเห็นเขียนไว้ว่า เอ็มม่า สโตน ลา ลา แลนด์ จึงทำให้ตนยืนงงอยู่นาน ส่วนซองของจริงที่รับมาทีหลังเขียนไว้ชัดเจนว่าคือ มูนไลท์ ส่วนพิธีกรหลักของงานประกาศรางวัลออสการ์ จิมมี คิมเมล ก็กล่าวสมทบว่ามูนไลท์ คือผู้ชนะ และได้นำซองหลักฐานแสดงให้ทีมงานของลา ลา แลนด์ ดูแล้ว ขณะที่แบร์รี เจนกินส์ ผู้กำกับมูนไลท์ ก็ได้เข้าสวมกอดกับผู้อำนวยการสร้างลา ลา แลนด์ ก่อนประกาศว่าขอแสดงความรักแก่ลา ลา แลนด์และทุกๆคน ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ

กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ภาพยนตร์มูนไลท์ คว้ารางวัลออสการ์ไปทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมและสาขาดาราสมทบชายยอดเยี่ยม จากผลงานแสดงของมาเฮอร์ชาลา อาลี ในบทบาทพ่อค้ายาเสพติดที่ให้ความรักความเอ็นดูแก่เด็กชายตัวละครเอก

ส่วนรางวัลสาขาดารานำชายยอดเยี่ยม ตกเป็นของเคซีย์ แอฟเฟล็ค น้องชายของเบน แอฟเฟล็ค จากบทบาทชายใจสลายที่ต้องจับพลัดจับผลูมาดูแลลูกของพี่ชายที่เสียชีวิต ในเรื่อง แมนเชสเตอร์ บาย เดอะ ซี (Manchester by the Sea) ที่เรื่องเดียวกันนี้ได้คว้ารางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมด้วย ขณะที่ไวโอลา เดวิด คว้ารางวัลออสการ์ครั้งแรก ในบทบาทดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากเรื่อง แฟนเซส Fences

สำหรับรางวัลสาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม ตกเป็นของ “แฮคซอว์ ริดจ์” (Hacksaw Ridge) เรื่องราวของทหารเสนารักษ์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม การ์ตูนวอลด์ดิสนีย์ “ซูโทเปีย” (Zootopia) สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม “แฟนตาสติก บีสส์ แอน แวร์ ทู ฟายด์ เดม” (Fantastic Beasts and Where to Find Them) สาขา แต่งหน้ายอดเยี่ยม “ซูไซด์สควอด” (Suicide Sqaud)

ขณะที่กระแสการต่อต้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มิได้เกิดขึ้นชัดเจนในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งนี้ โดยดาราและทีมงานสร้างภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับรางวัล ต่างแสดงความยินดีและขอบคุณแบบเป็นทางการทั่วๆไป แต่พิธีกรหลักจิมมี คิมเมล ได้กล่าวหยอกล้อว่า ยังจำปีที่แล้วที่งานออสการ์ถูกหาว่าเหยียดผิวกันได้หรือไม่ ปีนี้ไม่ใช่แล้วต้องขอขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมระบุว่า ขอเชิญผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น นิวยอร์ก ไทม์ส และอื่นๆออกไปจากงานออสการ์ด้วย เราไม่มีความอดทนกับข่าวปลอมๆ ซึ่งเป็นการแซวโฆษกทำเนียบขาว ที่กีดกันสื่อมวลชนออกจากงาน แถลงข่าวนอกรอบเมื่อ 24 ก.พ.

ส่วนอัสการ์ ฟาร์ฮาดี ผู้กำกับภาพยนตร์ต่างประเทศชาวอิหร่าน เรื่อง “เดอะ เซลส์แมน” (The Salesman) ที่ก่อนหน้านี้ประกาศบอยคอตต์นายทรัมป์กรณีสั่งห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศ และประกาศขอไม่เดินทางเข้าสหรัฐฯมาร่วมงาน ได้รับรางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม โดยมี น.ส.อายูเชห์ อันซารี นักบินอวกาศหญิงเชื้อชาติอิหร่าน และนายฟิรูซ นาเดรี อดีตผู้อำนวยการเชื้อสายอิหร่าน ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯหรือนาซา ขึ้นรับรางวัลแทน ส่วนสาขาสารคดีสั้นยอดเยี่ยม ได้แก่เรื่อง “เดอะ ไวท์ เฮลเมตส์” (The White Helmets) ซึ่งก่อนหน้าการประกาศรางวัลออสการ์ ช่างภาพชาวซีเรียผู้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ถูกกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแห่งชาติสหรัฐฯ สั่งห้ามเข้าประเทศมาร่วมงาน