หลังจากที่นางเอกสาว ออม สุชาร์ มานะยิ่ง เกิดปัญหากับ พริม ณัฐชา ชุณหะ หุ้นส่วนแบรนด์เครื่องสำอาง Fleen Beauty รวมถึง ศสา อดีตผู้จัดการส่วนตัว จนเกิดการฟ้องร้องในชั้นศาล ซึ่ง ออม-พริม-ศสา ต่างก็ออกมาชี้แจงในมุมของตัวเอง ดังที่มีข่าวไปก่อนหน้านี้
ปรากฏว่าล่าสุดศาลไกล่เกลี่ยจนทุกอย่างจบด้วยดี โดยเป็นฝ่ายออมที่ขอซื้อหุ้น 48% จากพริม ณัฐชา ในราคา 25 ล้านบาท และต่างฝ่ายต่างถอนฟ้องทุกคน โดยหลังเสร็จสิ้นการไกล่เกลี่ย ออม สุชาร์ พร้อมด้วย อัง สุพัตรา น้องสาว พร้อมทั้งทนายความ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว
- ทนายกล่าวว่า วันนี้ศาลไกล่เกลี่ยให้ ใช้เวลาหลาย ชม. ก็ฟ้องกันไปมาหลายคดี ซึ่งในวันนี้เป็นคดีที่เขาฟ้องเรื่องการประชุมเปลี่ยนกรรมการออก แต่เวลาเราคุย เราตกลงกันในทุกคดี ผลการไกล่เกลี่ยสรุปก็คือทั้งสองฝ่ายตกลงแยกย้ายกันด้วยดี ต่างคนต่างได้สิ่งที่ต้องการตามความเหมาะสม ในเรื่องคดีอื่นๆ จบหมด ถอนฟ้องทุกคดี รวมถึงคดีกับทางคุณศสาด้วย
- ออมกล่าวว่า ความต้องการของเราชัดเจนอยู่แล้ว ว่าอยากจะขอซื้อหุ้นเขาในราคาที่เป็นธรรม ซึ่งจริงๆ วันนี้ต้องมาอยู่แล้ว แต่ไม่น่าเกิดเหตุ 2 วันนั้นขึ้นเลย แต่ไม่เป็นไร วันนี้รู้สึกโล่งเพราะว่าได้ตกลงซื้อหุ้นของคุณณัฐชาทั้งหมด 48% มาเป็นของออม ก็ตกลงที่ 25 ล้านบาท ออมเหนื่อยแล้ว มันเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับออม อยากทำงานแล้ว ก็ขอบคุณศาลที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้เกิดข้อยุติที่ดีที่สุด
- เรื่องซื้อหุ้น 48% 25 ล้านบาท ก็เป็นตัวเลขที่ออมยินดีจ่ายและเขายินดีรับ ตอนนี้หุ้น 100% เป็นของออม แต่คงต้องแบ่งให้น้องอัง น้องสาวด้วย เราอยากเอาเวลาตั้งใจทำงาน ทำแบรนด์ เวลาเป็นสิ่งทีค่าที่สุด เลยอยากจะจบที่ตรงนี้ดีกว่า ตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก ตอนไปโหนกระแสวันศุกร์ กลับมาสลบไปอีก 2 วัน มันเหนื่อยจริงๆ
- ด้านอัง น้องสาวออม บอกว่า อยากให้แบรนด์ไปต่อได้ เพราะพี่ออมจริงจังกับการทำแบรนด์มากๆ ถ้ายังมีคดีความอยู่ เราก็ต้องโฟกัสเรื่องคดีความ การต่อสู้ทางศาล จะทำให้เราไม่ได้โฟกัสเรื่องงาน ธุรกิจก็สะดุด แบบนี้ก็เป็นวิธีที่ดี
- กับ พริม-ศสา ออมบอกว่า ตอนนี้ใช้คำว่าเฉยๆ แล้วกัน เป็นความวางเฉยของออมแล้วกัน ไม่ได้อยากจะโฟกัสความรู้สึกที่มีต่อเขา หลังจากนี้เราจะกลับมาฟื้นฟูแบรนด์ของเรา เราจ่ายเงินไปเยอะ (หัวเราะ) ก็ต้องตั้งใจไลฟ์มากขึ้น จะได้ได้ตังค์เยอะๆ
- เรื่องนี้ที่กระทบชื่อเสียง คิดว่าจะกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ไหม ทำให้คนยอมรับกับแบรนด์เรา หรือลืมเรื่องที่เคยมีปัญหา ออมบอกว่า ไม่มีอะไรกู้ได้หรอก เราก็ต้องวางเฉยไป ไม่ต้องคิดหรอก มีทั้งคนที่รักเราและไม่รักเรา
- ฟีดแบ็กวันนั้นโปรโหนกระแสดี Sold Out ถือว่าดี ตอนนี้ลิปสติกหมดในส่วนขายออนไลน์ อยากขอบคุณทุกคน เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างประเทศได้ดูข่าวหมดเลย ขอบคุณทุกคนที่เชื่อใจในตัวออมจริงๆ ทำให้ออมได้เห็นกำลังใจจากทุกคน ดีใจมาก เป็นกำลังใจให้ออมไม่ถอยในการจะเอาสิ่งนี้มาเป็นของออม จริงๆ ไม่มีอะไรการันตีว่ามูลค่ามันคือเท่าไหร่ แต่สำหรับออม ความสบายใจ สุขภาพจิตสำคัญมากที่สุด
- ถามว่าหนุ่ม กรรชัย กับ อ.ตฤณห์ ติดต่อมาหรือยัง ออมบอกว่า ก็มีพี่หนุ่ม กรรชัย ที่ค่อนข้างเป็นห่วงความรู้สึกออมว่าเป็นไงบ้าง แกคงเห็นออมลงมาแล้วร้องไห้เยอะ เพราะตอนอยู่ข้างบนไม่ได้ร้อง แต่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้ แต่เดินมาแล้วพี่ๆ ถามว่าแกเหนื่อยไหม มันน้ำตาแตก พี่หนุ่มก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ออมก็บอกว่าไม่เป็นไรแล้วค่ะ เดี๋ยววันนี้จะมาเคลียร์อยู่แล้ว ออมพยายามจะหาจุดที่ลงตัวตั้งแต่แรก ไม่อยากจะให้เป็นเรื่องอยู่แล้ว วันนี้หายเหนื่อย ยิ้มได้แล้ว
- เรื่องที่คนว่าพี่หนุ่ม ทนายแก้ว ไม่เป็นกลาง สำหรับออมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น ขอปกป้องนิดนึง ออมรู้สึกว่าแกพยายามทำความเข้าใจทั้งสองคน แต่เรื่องรายละเอียดมันเยอะ แล้วมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลงลึก เป็นกฎหมายเฉพาะ เป็นกฎหมายห้างหุ้นส่วนบริษัท เวลาเราเล่าเองยังลำดับงงๆ เลย
- เรื่อง อ.ตฤณห์ โพสต์ขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตัดสินหรือว่าออมว่าเหลี่ยม ออมไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ไม่อยากจะต้องมานั่งโฟกัสกับการไม่พอใจคนนั้นคนนี้อีกต่อไปแล้ว อยากมูฟออนจากสถานการณ์ตรงนี้แล้วไปทำงานจริงๆ
- ไม่มีใครต้องมาขอโทษออม เพราะออมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ณ ตอนนั้นออมก็ไม่ได้รู้สึกว่าแกไม่ได้เข้าข้างอะไรออมนะ ตอนนั้นเราคิดว่าเราพูดรู้เรื่อง แต่เพื่อนบอกว่าแกพูดไม่รู้เรื่องเลย เราก็อ้าว ฉันคิดว่าฉันเล่าเรื่องรู้เรื่องอยู่นะ กลับไปโดนเพื่อนด่าว่าทำไมแกไม่เข้าเรื่องสักที คือสถานการณ์ตอนนั้นทำให้คนเข้าใจเราผิดทั้งประเทศเลย แม่ออมอยู่บ้าน แล้วออมเห็นภาพที่แม่ทรุดลงไปร้องไห้ มันเศร้าจริงๆ ตอนนั้นเรามีเวลาแค่ 2 ชม. ถ้าเราไม่ได้อธิบายให้คนเข้าใจ เราก็คงจบแล้วแหละ
- เรื่องสีหน้าที่กลายเป็นมีม หนูก็มีความรู้สึก แต่ไม่ได้งอนทนายแก้ว แต่พอดีหลังทนายแก้วมีรูปแบ็กกราวนด์หลายๆ คน คนนั้นคนนี้ จังหวะนั้นก็งอนภาพเงาของคนที่อยู่ข้างหลังทนายแก้วมากกว่า เหมือนมองทะลุทนายแก้วไปแล้วเห็น แต่ช่างมันเถอะจบไปแล้ว
- ด้านอังบอกว่าไม่เครียด เราเล่าตามความจริง รีบพูดเพราะกลัวเวลาหมด และอยากซัพพอร์ตพี่สาวเพราะรู้ว่าเขาพูดไม่รู้เรื่อง ขอบคุณที่คนชม เรื่องคนขุดประวัติ ส่วนตัวไม่ค่อยเล่นโซเชียล ไม่ค่อยมีประวัติอะไรให้ดู ก็ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ทักมา ขอบคุณแทนพี่ออมด้วยที่ทุกคนบอกต่อให้ ฝากซัพพอร์ตพี่ออม
- ออมบอกว่าส่วนตัวเป็นคน emotional นิดนึง วันนั้นเจอสถานการณ์กดดัน ไม่ใช่แค่เราอธิบาย แต่เราต้องอธิบายให้กับประชาชนที่อคติกับเราไปแล้ว คำพูดของเราแค่พูดก็ไม่พอ ก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไง ทำหน้าอะไรก็ผิด สำหรับเขามันคืออคติ มันเป็นการวางตัวที่เครียด ไม่คิดว่าชีวิตนึงจะไปยืนอยู่ตรงนั้น
- นอกจากนี้ ออม สุชาร์ บอกว่า แอมป์ พิธาน แนะนำว่า ถ้าอะไรจบได้ก็จบ เพราะสุขภาพใจเราสำคัญที่สุด เราจะได้เอาพลังไปทำงานสร้างแบรนด์อย่างที่เราอยากจะทำจริงๆ
- ที่คนบอกว่าออม สุชาร์ เรคคอร์ด จริงๆ ไม่ได้อยากทำ ออมไม่เคยเรคคอร์ด สุพัตรา (อัง น้องสาวออม) ต่างหากที่เรคคอร์ด คือบางทีเราพูดอย่างเดียวใครจะเชื่อเราไหม มันต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่จะปกป้องตัวเอง ออมไม่เคยคิดทำร้ายเขา ทุกอย่างมันไกล่เกลี่ยได้ แต่ในเมื่อทุกอย่างมันผลักให้ออมต้องออกมา ถ้าไม่ออกมาพูดก็ตายจริงๆ ทุกคนก็ตัดสินไปแล้ว จริงๆ มีหลายรายการที่ติดต่อมา แต่ขอเคลียร์แค่ในรายการของพี่หนุ่มดีกว่า เพราะทุกคนเข้าใจภาพตรงกันแล้วว่ามุมของออมเป็นยังไง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012