Inside Dara
2 ศิลปิน 1 ความฝัน 'กัน-ต้น' กับชีวิตนี้เพื่อครอบครัว

การก้าวเข้ามาในวงการเพลง กับการเป็นศิลปินชีวิตจะต้องเปลี่ยนแปลง และสิ่งหนึ่งที่ขาดไปแน่ๆ คือเรื่องของเวลากับคนที่รัก เช่นเดียวกับ 2 ศิลปินหนุ่มเสียงดี จาก 2 เวทีแห่งความฝัน ได้แก่ "กัน" นภัทร อินทร์ใจเอื้อ แชมป์จากเวที "เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปีที่ 6" และ "ต้น" ธนษิต จตุรภุช แชมป์จากเวที "ทรู แฟนเทเชีย ซีซั่น 8" ทั้ง 2 คนเดินก้าวเข้ามาในวงการเพลง เพื่อสานฝันการเป็นนักร้อง และวันนี้พวกเขา คือนักร้องที่ได้รับการยอมรับ และมีแฟนคลับมากมาย แต่การมายืนอยู่ตรงนี้ของพวกเขา อาจจะต่างเวที ต่างเส้นทาง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ "ความฝันที่จะทำเพื่อครอบครัวได้ภูมิใจ" และเนื่องในวันครอบครัว จะพาผู้อ่าน "คม ชัด ลึก" มารู้จักกับชีวิตครอบครัวของทั้งสองคน

เริ่มที่หนุ่มคนแรก จากเวที "เดอะสตาร์" อย่าง "กัน" นภัทร หนุ่มสุพรรณเสียงหวาน กันเล่าให้ฟังว่า เขาเองเคยรู้สึกน้อยใจคุณพ่อคุณแม่ เพราะเขาเป็นลูกคนเดียวใน 3 คน ที่ต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯ ทั้งที่พี่สาวและน้องชายได้เรียนอยู่ที่สุพรรณ แต่พอได้รู้เหตุผลของพ่อแม่ ทำให้เขาเข้าใจ

"สำหรับผมครอบครัวเป็นสถาบันที่ย่อยที่สุด แต่เป็นสถาบันที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นสถาบันที่หล่อหลอมเราให้เป็นคนดี ผมเองดีใจ ที่ผมมีครอบครัวที่ดี มีคุณพ่อคุณแม่ พี่สาว น้องชายที่อบอุ่นมาก ทุกครั้งที่กลับบ้านไป เราจะรู้สึกเสมอว่า เราได้รับการเติมเต็ม บางครั้งเราทำงานหนัก เหนื่อย แต่ทุกครั้งที่เห็นครอบครัว ได้คุยกับคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว หรือน้องชาย มันทำให้เรามีกำลังใจขึ้นมา เราอาจจะทำงานเยอะ ไม่มีเวลาเจอกันกับครอบครัวเรามากนัก แต่ทุกๆ ครั้งที่ได้คุย ได้เจอ และได้สัมผัส เรารู้สึกถึงความรัก และความห่วงใยที่พ่อแม่มีให้เรา มันเป็นเหมือนสายใย ที่ไม่ว่าจะไม่เจอ ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็สัมผัสความรักของพ่อกับแม่ และคนในครอบครัวเราได้ สำหรับกันแล้ว ครอบครัวคือสิ่งที่หล่อหลอมให้กันเป็นกันในวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างต่างกัน คุณพ่อจะเคี่ยวเข็ญเรื่องการเรียน เข้มงวด ส่วนคุณแม่จะค่อนข้างตามใจ ความต่างตรงนี้ มันทำให้ชีวิตกันสมดุล ส่วนสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้กันท่องจำไว้เสมอ คือ ความกตัญญู ไม่ลืมบุญคุณคน และไม่ลืมว่าเรามาจากไหน คุณพ่อกันเคยบอกว่า "ให้คนอื่นชมเราได้ แต่เราต้องไม่ชมตัวเอง" นี่คือสิ่งที่คุณพ่อจะบอกกันตลอด" กันกล่าว

ด้านหนุ่มนักล่าฝันจากเวที "ทรู แฟนเทเชีย" อย่าง "ต้น" ธนษิต บอกความในใจเรื่องของครอบครัวว่า ตอนนี้เขากับน้องสาว ("สต๊อป" วริษฐา จตุรภุช) ต่างมีหน้าที่ความรับผิดชอบ ในเรื่องของงานและการเรียน ทำให้อาจไม่มีเวลาให้คุณพ่อคุณแม่เท่าไหร่ แต่ทุกครั้งที่กลับไปบ้าน เขาจะมีความสุข กับการได้เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ ได้กินกับข้าวฝีมือแม่ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ถึงจะเป็นเวลาสั้น แต่มันก็เติมเต็มให้หัวใจเขาได้ชื่นบานและมีกำลังทำงานต่อไป

"ทุกครั้งที่ได้เจอ และพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะพูดเสมอคือ ให้เราพักผ่อนเยอะๆ ดูแลตัวเอง ในวันที่เราท้อ เหนื่อย ได้ยินแค่คำพูดเหล่านี้ มันก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว ในวันที่เราเหนื่อย ท้อแท้มากๆ พ่อกับแม่ต้นจะบอกต้น ว่าให้เรานึกถึงคนอื่น คนที่เขาไม่ได้มีโอกาสได้มาทำความฝันเหมือนเรา ได้มายืนอยู่ตรงนี้ที่เรายืน ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้และประสบความสำเร็จในทันที ทุกครั้งที่เราท้อ ภาพของพ่อกับแม่ที่พูดประโยคนี้จะฝุดขึ้นมาตลอด ซึ่งสำหรับต้นแล้วถ้าจะให้นิยามคำว่าครอบครัว ต้นอยากจะบอกว่าครอบครัวคือคนที่เราสามารถเป็นตัวเองมากที่สุด อยู่ด้วยแล้วมีความสุขโดยที่เราไม่ต้องประดิษฐ์ประดอยให้เขามารักเรา เพราะครอบครัวคือคนที่รักเราในทุกอย่างที่เป็นเรา เป็นคนที่จะคอยอยู่ข้างๆ ในวันที่เราอาจจะไม่มีใครเลย เป็นคนที่รักเราแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรเลย สำหรับต้นแล้วครอบครัวคือสิ่งที่ต้นขาดไม่ได้ในชีวิต เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด" ต้นเผย