Inside Dara
“เกรท-วรินทร” ผู้ชายคิดบวก !

กลับมาพบกันอีกแล้วสำหรับเสาร์นี้ ซึ่งเสาร์นี้เรามีพระเอกหนุ่มจากวิก 3 “เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์” ที่กำลังโด่งดังจากละครเรื่อง “เดอะ ซิกธ์เซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ" ที่กำลังออกอากาศอยู่ในขณะนี้ สำหรับหนุ่มคนนี้ คงไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับความดัง และรอยยิ้มเจ้าเสน่ห์ และแน่นอนว่าฮอตขนาดนี้ เราต้องมาเชิญมาเป็นแขกเพื่อพูดคุยทำความรู้จักกันให้มากกว่า เอาละ หนุ่มคิวทอง เขาพร้อมที่จะคุยกับเราแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าช้าที ไปคุยกับ เกรท กันเลยจ้า

“ป๋าดัน”
ในเรื่อง เดอะ ซิกธ์เซ้นส์ สื่อรักสัมผัสหัวใจ ตามบทแล้ว ดูบทผู้หญิงจะเด่นกว่า กลัวบทพระเอกจะถูกกลบไหม?

“ไม่กลัวหรอก มันอยู่ที่บทบาทมากกว่า ผมว่าเราทำการแสดงของเราให้ดีที่สุด ยังไงก็ไม่โดนกลบเพราะเราอยู่ในเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ซีซั่นแรกจะมีเรื่องราวของ 3 คู่ คือ หลุยส์-จ๊ะ, ผมกับน้องอาย และเพชรกับคริสซี่ ส่วนอีก 2 สาวต้องรอดูว่าซีซั่นสองจะเป็นยังไง เส้นเรื่องทุกคนจะมาเจอกัน โดยที่มีคนมาเป็นตัวเชื่อมคือ พี่อ้น-สราวุธ มีเจอกันสามคนด้วย”

เล่นคู่กับนางเอกใหม่ เป็นอย่างไรบ้าง?

“ผมเล่นคู่กับ อาย-กมลเนตร เค้ายังใหม่อยู่มากนะ แต่ด้วยความใหม่แต่สามารถทำได้ขนาดนี้ ถือว่าเก่งมาก เพราะผมมาแรก ๆ ยังเล่นไม่ได้ขนาดนี้เหมือนกัน เราเล่นละครแรก ๆ ก็ปกติพูดคุยธรรมดา แต่นี่เค้าต้องเล่นอีกชั้นหนึ่ง เค้าต้องจินตนาการว่าเค้าเห็นผี จินตนาการว่าได้กลิ่น เค้าเพิ่งเล่นเรื่องแรกด้วยแต่ทำได้ขนาดนี้ ผมถือว่าสุดยอด เวลาเล่นด้วยกันก็มีบ้างที่แนะนำเค้า จริง ๆ ไม่ได้แนะอะไรเยอะ เพราะมีพี่ ๆ ที่กอง มีอาจารย์สอนอยู่แล้ว บางครั้งเท่านั้นเองที่เข้าฉากด้วยกัน”

เรียกเป็นป๋าดันได้หรือยัง?

“โห ไม่ขนาดนั้นหรอก ให้เค้าดันผมดีกว่า (หัวเราะ) ผมคิดว่าทุกคนเห็นน้องเค้ามีความสามารถอยู่แล้ว ทุกคนเลยนะ”

“ขาขึ้น”
งานชุกนะคะช่วงนี้ เรียกว่าขาขึ้นได้หรือเปล่า?

“ขอบคุณผู้ใหญ่ครับ ผู้ใหญ่พยายามดันมานานแล้ว แต่เป็นช่วงจังหวะมากกว่า ทุกคนก็ถูกดันเหมือนกันนะไม่ใช่แต่ผมคนเดียว เข้ามาอยู่ช่อง 3 มาเกือบ 4 ปีแล้วนะ ถือว่าเร็วมากสำหรับผม ยังเป็นนักแสดงใหม่อยู่เลย ถามว่าเร็วไปมั้ยก้าวมาได้ขนาดนี้ ไม่หรอกครับ มันเป็นจังหวะมากกว่า ช่วงแรก ๆ ก็ได้เป็นพระเอกประมาณเรื่องที่สองหรือสาม ทำได้ดีหรือไม่ดีคนดูเป็นคนตัดสินมากกว่า ผมว่าผู้ใหญ่ไม่ดันใครมั่วซั่ว พระเอกมา ช่องก็ให้ความสำคัญกับทุกคน มาถึงจุดนี้ที่ผมอยู่ตอนนี้ ก็คือว่าเป็นจังหวะที่ดีของผม

พระเอกมาใหม่ก็คนละทางกับผม ตี๋ไปอีกทาง ถ้าเอาเข้ม ๆ ก็มาทางนี้ มันอยู่ที่ตลาดของใครของมัน น้อง ๆ ใหม่เค้าก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบ ผมว่าตลาดเราคนละกลุ่ม สไตล์การชอบใครก็ไม่เหมือนกัน จังหวะคนไหนดีกว่า ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ คิดว่าถ้าเราทำงานแล้วสามารถรักษาระดับมาตรฐานของตัวเอง คุณภาพของตัวเอง ดูแลตัวเองไม่ให้ตกต่ำลงไป ถ้าคนดูยอมรับก็โอเค พอใจ ไม่เคยคิดว่าต้องเด่นกว่าใคร ฉันจะดังกว่าใคร ผมเหมือนแข่งกับตัวเองมากกว่าทุกวันนี้ เราอยากพัฒนาฝีมือทางการแสดงของเราให้เป็นที่ยอมรับ เรื่องดังไม่ดังมันก็แล้วแต่คนดู ไม่เปรียบเทียบกับรุ่นน้องด้วย”

คิดว่าระดับการแสดงของเราอยู่ขั้นไหน?

“คนบางคนอาจจะว่าแสดงดีแล้ว บางคนก็บอกแสดงไม่ดี แต่สำหรับตัวผม ผมยังไม่พอใจ คิดว่าตัวเองแค่ได้ระดับหนึ่งเท่านั้นเอง แค่ผ่าน แต่ว่าลึก ๆ เราจะรู้ตัวเองว่าเรามีการพัฒนามากแค่ไหน มีการบ้านมากแค่ไหน ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะไม่ทำอะไรเลยแล้วเล่นดีขึ้น ถ้าเปรียบเป็นการทดลองงาน ผมถือว่าผมพ้นโปรแล้ว ทุกวันนี้ก็พยายามจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด อยากให้คนดูยอมรับฝีมือของเรา อันนี้มันเป็นความตั้งใจหลักของผม ไม่ใช่ไปแข่งว่าเราต้องดังกว่าคนโน้นคนนี้ มันเป็นเรื่องของโชคชะตาและจังหวะ เพียงแค่เราทำให้ดีก็พอแล้ว

ผมมีความสุขกับการทำงานทุกวันนี้นะ ถ้าคนทำอะไรแล้วฝืน ไม่มีความสุข มันก็คงเป็นเรื่องยากของเค้า มันคงจะเหนื่อย ผมเองก็มีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง เวลาเราถ่ายติด ๆ กันหลายวัน เวลาพักผ่อนก็น้อย ก็มีท้อบ้าง แต่พอได้พัก ตื่นมา เราก็มีพลังเหมือนเดิม เพราะเป็นสิ่งที่เรารัก เราก็เลยทำมันได้อย่างมีความสุข”

“แรงบันดาลใจ”
เคล็ดลับการสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง

“มันอยู่ที่ใจล้วน ๆ สำหรับผมนะ ถ้าเรามีความคิดที่ดีให้คนอื่นหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะสภาพแวดล้อมหรือคนในกองถ่าย เราสดชื่น ทุกอย่างจะบวกไปหมด ถ้าเราเป็นคนที่มีความคิดดี ทุกอย่างน่าจะเป็นพลังจากข้างนอกที่ดึงให้เราแสดงศักยภาพออกมา”

ชีวิตทุกวันนี้ถือว่าลงตัวหรือยัง?

“เรื่องงานผมถือว่าเราตั้งใจมากกับผลงานการแสดง หลัง ๆ มาผมเริ่มหนักกับมันมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูแลตัวเอง หลายอย่าง การเริ่มต้นละครเรื่องใหม่เรื่องหนึ่งก็เหมือนเราเป็นเด็กใหม่ตลอด เราไปเล่นคาแรกเตอร์ใหม่ ต้องทำการบ้านหนักขึ้นเหมือนเดิม สำหรับผมทุกวันนี้มุ่งมาที่งาน ส่วนเรื่องความรัก ถ้าเป็นข่าวคือถูกสร้างขึ้นมามากกว่า ตอนนี้ไม่ได้โฟกัสเรื่องความรัก ถ้ามีก็ดีชุ่มชื่นหัวใจ ถามมีคนคุยด้วยไหม ก็มีนะ แต่ไม่ได้มุ่งมาก เพราะทุกวันนี้เรื่องงานมาเป็นอันดับหนึ่ง มีหลายอย่างที่เราต้องทำให้มันดีที่สุด เพราะมันเป็นโปรเจคท์ใหญ่ เราต้องรับผิดชอบ ไม่ทำให้ใครผิดหวัง”

“สาว สาว สาว”
ขอถามสเปกสาวหน่อย เกรทชอบผู้หญิงแบบไหน?

“ผมเหรอ เท่าที่มีมาก็ไม่เคยเหมือนกันเลยนะ ชอบคนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ อยากได้คนที่คุยรู้เรื่อง ไม่ระบุอายุ ไม่ได้ตามหาด้วย เมื่อไหร่เจอก็รู้เอง เดี๋ยวจะบอกครับ”

ทำงานเยอะขนาดนี้เอาเงินเก็บไว้ที่ไหน?

“ผมเก็บเงินไว้ที่แม่ครับ มีหุ้นกับเพื่อนทำร้านอาหารอยู่ที่เชียงใหม่ ชื่อ มัลดีฟ อยู่ใกล้ ๆ ร้านอินฟินิตี้ครับ บอกเลยว่าอาหารอร่อยมาก เปิดมาได้ไม่นาน เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการหลังสงกรานต์ ลงหุ้นด้วยไม่เยอะมาก แต่ก็ถือว่าเป็นธุรกิจของเรา”

เหลือสัญญากับช่องอีกกี่ปี?

“สองปีครับ ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อช่อง 3 ชีวิตเพื่อช่องอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องต่อ ช่องจะต่อสัญญากับผมหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับช่อง งานเบื้องหน้า งานการแสดงเป็นสิ่งที่ผมมีความสุขที่สุด เคยวางเป้าหมายไว้กับตัวเองว่าจะอยู่เบื้องหน้าให้ได้นานที่สุด จนวันที่เบื้องหน้าไม่มีใครเอาผมแล้ว ผมก็จะไปนั่งเบื้องหลัง มันเหมือนความผูกพันในกองถ่ายครับ ผมเป็นนักแสดงก็มีความเหนื่อยของมัน มีความท้าทายของมันอยู่ อยากทำให้เต็มที่ เคยมองนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อาหนิง-นิรุตต์เราอยากไปยืนตรงนั้นบ้าง นักแสดงชายที่ยังอยู่จนเป็นพ่อ จนถึงบัดนี้มาตรฐานการแสดงยังไม่ตก อยู่ในวงการได้เป็นสิบปี ถ้ามันเป็นไปได้อยากเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ยังวนเวียนอยู่อยู่ดี”

ถือว่าเป็นผู้ชายที่มองโลกในแง่ดีคนหนึ่งทีเดียว และเราเห็นด้วยเช่นกันว่า การคิดบวกจะดึงดูดแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาหาเรา ไม่เชื่อก็ลองทำกันดูนะคะ คิดบวก มองโลกบวก แล้วเรื่องดี ๆ จะเกิดขึ้นในชีวิตคุณแน่นอนค้า...