Inside Dara
ชีวิตชั้นต่ำของ “หนูเล็ก” มีแม่ขายขนมเหมือนขอทาน ปัจจุบันสวยเหมือนญาญ่า รวย 10 ล้าน

“หนูเล็ก ก่อนบ่ายคลายเครียด” เผยชีวิตก่อนดัง มีเงินแค่หมื่นเดียวพอเข้ากรุง ร่ำไห้ต้องได้ดีสงสารแม่ไปนั่งขายขนมที่บันไดเหมือนขอทาน ปัจจุบันสวยและรวยมาก คนทักทั่วห้างหน้าเหมือนญาญ่า อยู่บ้านหลัง 10 ล้าน ขับรถมินิ เชื่อได้ดี เพราะทำดีแบ่งปันคนอื่น

เริ่มต้นปี 2560 ด้วยเรื่องดีๆ ของ “หนูเล็ก ภัทรวดี ปิ่นทอง” หรือ “หนูเล็ก ก่อนบ่ายคลายเครียด” เจ้าของวลีเด็ด “ก่าก๊ะ” ที่กว่าจะโด่งดังมีชื่อเสียง มีเงินซื้อบ้านหลังเป็น 10 ล้าน ขับรถมินิ ได้ ชีวิตไม่ง่ายเลย เข้ากรุงเทพฯมาเรียนด้วยเงิน 1 หมื่นบาท หาเงินส่งตัวเองจนเรียนจบ ป.ตรี กว่าจะมีวันนี้หนูเล็กต้องผ่านความเจ็บปวด จำฝังใจภาพแม่นั่งขายขนมเหมือนขอทาน ตั้งใจจะทำให้แม่สบายให้ได้ สู้จนมีวันนี้ ปัจจุบันสวยและรวยมาก เดินไปไหนก็มีแต่คนทักหน้าเหมือนญาญ่า ขอให้เรื่องราวของหนูเล็กในวันนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนก้าวเข้าสู่ปีใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ ด้วยหัวใจนักสู้เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

แค่ถอนฟัน 2 ซีกและดัดฟันหน้าก็เลยเหมือน “ญาญ่า” คนทักทั่วห้างแฟชั่นฯ วอนอย่าเอาไปเปรียบกับนางฟ้า เพราะอยู่ชั้นต่ำกว่า รับมีอารมณ์ขึ้นบ้าง เมื่อถูกแฟนคลับโจมตีว่าเป็น “หมาวัด” หวั่นนางเอกสาวจะเสียความรู้สึกที่ถูกนำมาเทียบกับตนเอง

“เริ่มแรกหนูจะเล่าให้ฟัง เมื่อก่อนตอนที่มาอยู่แถวซาฟารีใหม่ๆ ย่านแฟชั่นไอส์แลนด์ไม่กล้าไปเดินเลยค่ะ มีแต่คนทักว่าญาญ่าหรือเปล่า หนูก็บอกแฟนว่าไม่กล้ามาเดินแล้วเนี่ย ยิ่งแถวพวกโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าชอบแซว จนเราไม่กล้าไปเดินเลย ซึ่งตอนแรกเขาเข้าใจผิด แล้วเขาก็แซวว่า ญาญ่าๆ ครั้งแรกที่เขาแซวเราก็ตกใจ เขาเรียกใครวะ แฟนก็บอกเขาเรียกมึงนั่นแหละ ก็ถามคนที่เรียกกลับไปว่าหน้าเราเหมือนมากเลยเหรอ ก็ได้คำตอบว่าเวลายิ้มจะเหมือน เราก็บอกไม่เหมือนนะ คือ มันก็แค่บางมุมเท่านั้น ตอนแรกเราก็ดีใจ แต่พอทักบ่อยขึ้นๆ เกรงใจแล้วว่าน้องเขาจะเสียไหมเพราะคนเราทักเยอะ ก็เครียดเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นก็เข้าวงการมาแล้วด้วย”

“เพราะเราก็ไม่เคยคิดเลยว่าหน้าตัวเองเหมือนญาญ่าหรือเหมือนใคร แต่ทุกอย่างทุกรูปในไอจีมันเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้เสแสร้งหรือแอ๊บอะไรทั้งสิ้น แต่เพราะเราคิดว่าเราดูแลตัวเองดีขึ้น ไปเอาฟันออก 2 ซีก แล้วก็จัดฟัน มันก็เลยปกติ นี่ยังไม่ถึง 2 ปีเลยเพราะบอกหมอว่าหนูไม่ได้เอาสวย หนูเอาแค่ให้เคี้ยวข้าวได้ เมื่อก่อนเคี้ยวแล้วมันโดนลิ้นตลอด ยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ หลายคนบอกว่าหน้าเราเหมือนแม่น้องญาญ่า หน้าคล้ายแม่ก็เลยออกมาเกือบๆ คล้ายๆ กัน แต่อย่าเอาไปเปรียบเทียบ น้องมีดั้งมีทุกอย่าง แต่เราดั้งหัก มีกราม เขาเป็นซุปตาร์เป็นนางฟ้าในใจเรา ณเดชน์ - ญาญ่า เป็นนางฟ้าเป็นเทวดาของเราเลย มันเปรียบกันไม่ได้ เราอยู่ข้างล่าง ชั้นต่ำหน่อย”

“แต่มีเยอะหลายคนที่บอกว่าไม่เหมือน เราก็ไม่แน่ว่าเป็นแฟนคลับของน้องหรือเปล่านะ อาจจะเป็นอีกกลุ่มนึงที่ไม่ใช่ทั้งแฟนคลับน้องและเรา เขาก็จะบอกว่าเอาอีกหน้าหักไปเปรียบเทียบกับซุปตาร์ เรามาจับดู เออ...ก็หักจริงๆ แต่ก็ได้ไม่โกรธเขานะ (หัวเราะ) แล้วก็มีอีกจะบอกว่าเอาตัวประกอบมาเปรียบเทียบกับนางฟ้า นางฟ้ากับหมาวัด ตอนแรกเราก็โกรธ ปรี๊ดขึ้นมาเลย เสียใจมาก ตัวประกอบมันก็คือนักแสดงคนหนึ่ง แล้วเราก็ไม่ได้เป็นตัวประกอบด้วย ส่วนตัวประกอบเอ็กตร้าเขาก็คือนักแสดง พูดแบบนี้เหมือนไม่ให้เกียรติกัน อย่าว่ากันเลย อยากให้คิดในมุมขำๆ ตลกๆ ไป เพราะตอนแรกที่ถูกทักใหม่ๆ เราก็รู้สึกดีใจนะสวยเหมือนซุปตาร์ มีสักมุมที่เราเหมือนก็ดี แต่พอบ่อยๆ ขึ้นจนคนทักเยอะ และก็ด่าเข้ามาเยอะก็รู้สึกเครียด แต่ตอนนี้ไม่เครียดแล้วค่ะ อยากให้ทุกคนมองเป็นเรื่องตลกๆ อำได้ค่ะ”

“เคยเจอน้องญาญ่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไปขอถ่ายรูปกับน้อง เราก็บอกไหนลองทำให้หน้าเหมือนพี่สิ เขาก็ทำหน้าทะเล้น น้องน่ารักค่ะ แต่ตั้งแต่มีข่าวว่าเราหน้าเหมือนน้องเขา ตอนนี้ไม่กล้าคุยเลย ยังคิดอยู่ถ้ามีละครเล่นด้วยกันจะพูดกับน้องยังไง กลัวเขาลำบากใจที่หน้าเหมือนเรา จากขำๆ ตอนนี้กลายเป็นซีเรียส กลัวน้องจะเสียงาน และเคยมีคอมเมนต์ว่านักข่าวจะเขียนข่าวนี้ทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวน้องญาญ่าจะไม่มีโฆษณา แต่เราก็ไม่เครียดกับข่าวหรอก แต่เครียดกับคนที่มาด่า แต่เราก็ไม่ได้ตอบโต้กลับไป แต่ในไอจีก็จะตอบหน่อยว่าก่าก๊าค่ะ ไม่ใช่ญาญ่า เนียนๆ ขำไป”

ลั่นไม่เคยทำศัลยกรรม สวย ขาวขึ้น เพราะราศีจับและทำบุญเยอะ แต่อายุ 40 จะอัปดั้งเสริมดวง

“คุณหมอที่เรารู้จักสนิทกัน คุณหมอบอกว่าอายุ 40 ต้องไปเสริมดั้งนะ เพราะว่าเป็นเรื่องโหวงเฮ้ง ต้องไปเติม ตอนนี้ก็ 30 แล้ว อีก 10 ปีจะสวย (หัวเราะ) แต่รู้สึกว่าที่เราเป็นทุกวันนี้มันอาจจะเกิดจากราศี เพราะเราไม่ได้ทำเลย ขาวขึ้นเอง จากปกติดำปี๊ ดำมาก ฟันก็ยื่น ไม่ได้ทำอะไรเลยมันก็ค่อยๆ ขาวขึ้นๆ แต่ผู้ใหญ่บอกว่าเกิดจากราศี ถ้าเราจิตใจดีมันก็จะใสขึ้นๆ (แสดงว่าทำบุญหนักมาก?) ใช่ค่ะ งานบุญถ้าเชิญ เราไปหมดถ้าว่าง 7 วันไปงานบุญ 4 - 5 วัน เรื่องทำบุญขอให้บอก แต่เอาจริงๆ แค่นี้ก็รู้สึกว่าพอแล้ว มีหลายรายการหลายทีมงานติดต่อมาให้ไปทำที่เกาหลี ทำฟรีทั้งหน้าเลย เราก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เราพอแล้ว อีกอย่างเราก็คิดว่าถ้าเราทำแล้วงานมันหดด้วยไหม และก็คิดว่าที่เขาจ้างเราเพราะเราเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องไปทำอะไร แต่ถ้าเรื่องเสริมดั้ง ถ้าเสริมก็ได้คงไม่ใช่เรื่องแปลก เรามีอยู่แล้วแค่ไปเติมตรงที่มันหายไป”

“สุขสวยและรวยมาก” ปลูกบ้านราคาหลังละ 10 ล้าน ถอยมินิประดับบารมี เล่าย้อนวัยเรียนพกเงินหมื่นเดียวเข้ากรุงคว้าปริญญาตรี

“ชีวิตเราตั้งแต่เริ่ม เริ่มมาจากดินแล้วค่อยๆ ขึ้นเหมือนต้นไม้ที่กำลังงอก ขอบคุณเทวดา ผู้มีพระคุณทุกๆ คนที่ทำให้เราๆ ได้มีวันนี้ ส่วนเรื่องบ้านราคาประมาณ 8 ล้าน จริงๆ ที่ตรงนั้นเขาขายราคา 13 ล้าน แต่เราได้หลังสุดท้าย ทุกอย่างดวง และจริงๆ เขาตั้งราคาขาย 9 ล้าน แต่เราต่อเหลือ 8 ล้าน บ้านหลังนี้อยู่กับครอบครัว เพราะที่ซื้อหลังนี้แม่เป็นคนเลือก เราจะไปเอาหลังละ 4 ล้าน แม่บอกว่าหลังนี้สวยกว่า ทั้งๆ ที่แม่ไม่รู้ราคาเท่าไหร่ เราก็ถามแม่อยากได้เหรอ เขาก็บอกใช่อยากได้ เราก็ซื้อเลย ผ่อนค่ะ แต่ก็โชคดีอีกที่เขาให้กู้เต็มร้อยเลย ไม่ดาวน์สักบาท ใช้หน้าอย่างเดียวไม่ต้องใช้อะไรเลย แล้วก่อนหน้านี้บ้านหลังแรกก็ขายได้เร็ว เพราะเราจุดธูป 16 ดอกไหว้กลางแจ้ง บอกว่าถ้ามีบุญซื้อบ้านหลังใหญ่ ขอให้ขายบ้านหลังนี้ได้เร็วๆ เดือนเดียวขายได้เลย มันคือดวง”

จำฝังใจ แม่นั่งขายขนมเหมือนขอทาน

“ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงขนาดนี้ ถือเป็นบุญของเรา ของพ่อแม่ เพราะไม่ได้คิดว่าเราจะได้สัมผัสคำนี้ เพราะตอนแรกที่เข้ากรุงเทพมาใหม่ๆ มีเงินหมื่นเดียว เอามาเรียน 4 ปีจบ ไม่เคยขอใครสักบาท ผ่านคำดูถูกมาเยอะมากค่ะ อันแรกที่รู้สึกว่าเราทำสำเร็จแล้วคือตอนที่เราเรียนอยู่ แม่ก็ไปนั่งขายขนมอยู่หน้าบันไดเหมือนขอทานมาก เราเห็นแล้วน้ำตาไหลร้องไห้ทุกวัน สงสารแม่ (ร้องไห้) จนคิดว่าคอยดูนะ เราจะไม่ให้แม่เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ทำได้แล้ว แม่มีเงินเดือนๆ ละหมื่นทุกเดือน"

“เชื่อว่าคนดีเท่านั้น ดีไม่อิจฉาคนอื่น เป็นผู้ให้เยอะๆ แล้วจะทำให้เราดีขึ้นๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ใครจะมาใส่ร้าย ทำร้ายก็ทำไม่ได้ พี่น้องรอบข้างพยายามจะทำร้ายเราก็ทำไม่ได้ คือพยายามจะใส่ร้ายแล้วไปบอกผู้ใหญ่ว่า เราเป็นแบบนั้นแบบนี่ ก็ทำไม่ได้ ผู้ใหญ่เห็นเองว่ามันไม่เป็นเรื่องจริง เพราะกว่าจะผ่านตรงนั้นมาได้ เราต้องเข้มแข็งให้ได้ และได้แฟนที่ดี เขาคอยให้คำแนะนำ ไม่ว่าอะไรไม่ดี อะไรออกนอกลู่นอกทางก็พยายามดึงเรากลับมาตลอด ตั้งแต่เข้าวงการ ไม่งั้นเราคงลาออกไปนานแล้ว คือ อยากจะบอกว่ามายืนอยู่ตรงนี้มันยากมากนะ เข้ามามันเครียดมาก เราทำไม่ได้เพราะเราไม่มีพื้นฐานตลก เราเป็นคนจนๆ ธรรมดาเรียนก็ไม่เก่ง แต่ขยันและเป็นคนดีแค่นั้น และตอนเข้ามาเล่นก่อนบ่ายคลายเครียดครั้งแรกร้องไห้ทั้งปีเลย 1 ปี ถ่ายทุกวันพุธ ร้องไห้ทุกพุธ มันเล่นไม่ได้ เป็นตัวถ่วงเขา พวกพี่นุ้ย ผู้ใหญ่เขาก็ว่า ว่าเล่นไม่ได้ก็น่าจะลาออกไปซะ ก็ทำให้เรายิ่งเครียด แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่เขาดุหรือว่าเรา สุดท้ายมันเป็นครูทำให้เราเข้มแข็งได้ทุกวันนี้ (แล้วถ้ามองย้อนไป ถ้าวันนั้นลาออกชีวิตจะเป็นยังไง?) ถ้าวันนั้นลาออกไปชีวิตคงเป็นแค่พนักงานบริษัทแล้วก็อาจจะทำโรงงานที่สงขลา พ่อแม่ก็คงจะไม่มีวันที่จะมีบ้านหลังใหม่ คงไม่มีความสุขแบบนี้”

“ทุกอย่างไม่เคยลืมเลยตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการ ภาพที่แม่นั่งเหมือนขอทาน เห็นทุกอย่างที่แม่ลำบาก อันนี้มันเป็นภาพความทรงจำ ถ้าเราเห็นใครยากจนเราต้องยื่นมือให้ถ้าเราให้ได้ ทุกวันนี้ใครอยู่ข้างถนนเรายื่นให้ตลอด ไม่เคยบอกใคร ไม่เคยถ่ายรูปลงไอจี พอเรามีโอกาสก็อยากแบ่งปัน บางทีแฟนก็ทักว่าทำไมต้องให้เยอะแยะ เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปทำงานก็ได้แล้ว ตรงนี้ที่เรามีอยู่พันสองพันก็ให้ไปก่อน คิดว่าบุญก็น่าจะส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ทุกคนทำดีเป็นคนดี คิดดีมันจะค่อยๆ มาเอง แล้วก็ทำโดยที่ไม่ต้องหวังผลตอบแทน เพราะอย่างที่บอกว่าทุกวันนี้โอเคกับชีวิตมาก ไม่อยากจะเชื่อ เหมือนเราฝันไม่เคยคิดว่าจะมีบ้านหลังเป็นสิบล้าน มีรถมินิขับ ดีใจมากๆ”

“ชีวิตตอนนี้ไม่ต้องการอะไรแล้วค่ะ อยากผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ ส่วนเรื่องแต่งงาน ก็อยากแต่งปีหน้าแต่บอกแม่ว่าไม่แต่งได้ไหม แม่ก็บอกไม่แต่งก็ได้เพราะมันจะเปลืองเงิน แม่รับได้ แต่สำหรับเราก็ก่อนที่จะอยู่ด้วนกันเราต้องทำพิธีก่อน ต้องหมั้นต้องไหว้พ่อแม่เขาและพ่อแม่เรา แค่นี้ก็น่าจะโอเคแล้ว แต่ความฝันของผู้หญิงก็อยากแต่งงานนะ แต่ว่าเราไม่ชอบปาร์ตี้ เป็นคนไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ก็เลยคิดว่าสมมุติแต่งปีหน้า ก็แค่อยากจะทำบุญบ้านให้เจ้าที่เจ้าทางเทวดา แล้วก็รดน้ำสังข์แค่นั้น ไม่ต้องจัดใหญ่ เพราะยังเคยคุยกับพี่ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ ว่าเรามีลูกพร้อมกันเอาไหม เพราะเผื่อว่าลูกจะได้เป็นตลกจะได้เล่นด้วยกัน อยากให้ลูกเป็นเหมือนเรา พี่ชมพู่ก็บอกเออๆ เอาๆ (หัวเราะ) ก็หน้าจะเป็นปีหน้าแน่นอนค่ะ เพราะแฟนหนูอยากมีลูกมาก”