Inside Dara
ความรัก ไม่เคยทำให้‘คริส’ เปลี่ยนไป

“ที่ผ่านมาคริสไม่เสียดายเวลาเลยค่ะ เรามีความสุขมากคริสว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่ว่าใครที่เข้ามาในชีวิต เขาทำให้เราโตขึ้น ทำให้เราเข้าใจอะไรเยอะขึ้น”

ถึงหัวใจจะไม่เป็นสีชมพู แต่ก็ไม่ทำให้ดีกรีความสดใสของนางเอกสาวหน้าหมวยสุดชิค คริส-ศิริน หอวัง ลดน้อยลง แถมยังถูกจับตามองว่ายิ่งโสด ยิ่งแซบขึ้นอีกต่างหาก วันนี้พอ“ดาวต่างมุม” มีนัดพูดคุยกับเธอ ก็เลยต้องขอถามถึงความรักครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป พร้อมกับอัพเดทเรื่องราวต่าง ๆ รวมไปถึงผลงานภาพยนตร์ “โอ้ มาย โก้ คุณผีช่วย” ที่กำลังจะเข้าฉายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ถามถึงงานภาพยนตร์ “โอ้ มาย โก้ คุณผีช่วย” หน่อย?

“เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เล่นเป็นผีค่ะ ตอนแรกคริสบอกทีมงานว่าไม่รับหนังผี เพราะเป็นคนกลัวผี แต่เขาบอกว่าให้ดูบทก่อนเล่นกับพี่ตุ๊กกี้นะ เราก็เอ๊ะ! หนังผีอะไรเล่นกับพี่ตุ๊กกี้ก็เลยโอเคค่ะ รู้ว่ามันคงไม่ได้น่ากลัว แต่ถ้าให้เราไปเล่นตลกแข่งกับพี่ตุ๊กกี้ทำไม่ได้นะ ต่อให้คริสเล่นตลกหรือพูดเหมือนกันกับพี่ตุ๊กกี้ คนก็ไม่หัวเราะคริส ในพาร์ทของคริสจะเป็นตัวเดินเรื่อง เน้นที่แสดงกับ โย่ง อาร์มแชร์ และพี่ตุ๊กกี้ แต่ก็มีเข้าฉากกับตลกคนอื่น ๆ เวลาคริสเข้าฉากกับ น้าค่อม ชวนชื่น ก็จะรบกวนน้าค่อมว่า จะปล่อยมุกอะไรช่วยบอกก่อนนะ เดี๋ยวจมูกบานกลางซีนคัทไม่ทัน (หัวเราะ) แต่ก็มีหลุด อย่างตอนเข้าฉากกับ พี่โก๊ะตี๋ เขาอัจฉริยะมาก จะเล่นกันแบบสดตลอด เวลาเขาพูดอะไร เราก็ต้องหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากจะหัวเราะ เกรงใจคนอื่นที่ต้องเทคใหม่”

พอได้ร่วมงานกันจริง ๆ แล้วเป็นยังไงบ้าง?

“ทีมงานนี้เป็นทีมที่คริสไม่เคยทำงานด้วย มี พี่ตุ๊กกี้ พี่ต้นหอม น้าค่อม และผู้กำกับ พี่เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนครซึ่งคริสอยากทำงานด้วยอยู่แล้ว แล้วก็มี โย่ง อาร์มแชร์ เป็นพระเอก คริสเคยไปถ่ายเอ็มวีกับโย่งนานมากแล้ว เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เรารู้จักเขาและพี่ก้อย ก่อนที่จะเขาจะเป็นแฟนกันอีก จนตอนนี้เขาแต่งงานกันไปแล้ว และพอมาเล่นเรื่องนี้เราก็ได้เพื่อนสนิทมาอีกคนหนึ่งคือพี่ตุ๊กกี้ เราไม่ได้สนิทแบบที่จะออกไปกินข้าวด้วย หรือไปไหนมาไหนด้วย ด้วยเวลาและเราก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วยไง แต่คริสได้เพื่อนอีกคนหนึ่งที่คิดว่าเวลามีปัญหาอะไร หรืออยากปรึกษาอะไรก็โทรฯ หาเขาได้เลย”

คาดหวังกับเรื่องนี้ไหม เพราะเรามีฉายา “นางเอกหนังร้อยล้านพ่วงท้าย” ?

“คริสว่าอย่าคิดมากดีกว่าค่ะ มันเป็นดวงจริง ๆ หนังดีบางเรื่องก็ได้สตางค์น้อย หน้าที่คริสคือทำแค่ที่กองแค่นั้น หลังจากนั้นพวกคริสทำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ มันหมดหน้าที่ของนักแสดงแล้ว มันยากที่จะทำให้คนออกมากินข้าว ซื้อตั๋วหนัง ซื้อป๊อปคอร์น แต่ก็ยังอยากให้คนออกมาดูเยอะ ๆ เพราะเราก็ตั้งใจทำกันทั้งกอง พี่เพชรเองก็ตั้งใจมาก จะเข้าฉายวันที่ 28 พ.ย. นี้ค่ะ”

นอกจากหนังเรื่องนี้เห็นว่ามีละครติดต่อมา 4 เรื่องเลย?

“ตอนนี้ดูอยู่ค่ะ เป็นช่วงที่เขากำลังเขียนบทอยู่ คือผู้จัดการคริสบอกว่ามีติดต่อมา 4 เรื่อง แต่เราคงรับไม่ได้ทั้งหมด คงได้ทีละเรื่อง น่าจะเปิดกล้องประมาณ มี.ค. ปีหน้า คริสเองก็อยากลอง คิดว่ามันเป็นบทเรียนสำหรับตัวเองทุกครั้งที่ได้ทำงานกับคนใหม่ ๆ ทีมใหม่ ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรค่ะ”

คริสลองงานในวงการมาเกือบครบแล้วเหมือนกันนะ?

“ใช่ค่ะ ดีเจก็เป็นมาแล้ว ครูสอนเต้นก็เป็นแล้ว ร้องเพลงก็เคยแล้วนิด ๆ ละครเวทีลองแล้ว เลยรู้ว่าเราเก่งไม่พอ คริสทำให้มันรู้สึกจริงทุกครั้งไม่ได้ มันกลายเป็นแอ๊คติ้งอัตโนมัติไปแล้วว่าต้องทำหน้าดีใจ เสียใจ เหลือละครโทรทัศน์ที่ยังไม่เคย คริสรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่มีคนเข้ามาถามว่าอยากลองทำงานนี้ดูไหม แต่คือถ้าคิดว่าเราอยากทำอะไรก็นึกไม่ออก เหมือนเราไม่ได้คิดว่าเราจะเป็นดารา แล้วอยู่ดี ๆ มันก็เป็น ที่ผ่านมาเราไม่เคยตั้งเป้าหมายอะไรไว้เลย มันก็มาถึงตรงนี้ คริสเลยไม่อยากตั้งเป้าหมายอะไร เดี๋ยวมันจะไม่ถึง ให้ทุกอย่างมันดำเนินของมันไปเองดีกว่า”

ตอนนี้ธุรกิจกระเป๋าร้าน “ซีเครท เวพอน” เป็นยังไงบ้าง?

“ดีเลยค่ะ การที่ร้านเราไม่ได้ขึ้นห้างหรือขึ้นอยู่กับใคร มันดีตรงที่เราทำตามใจตัวเองได้ ร้านก็เปิดทุกวันที่ตึก 8 ทองหล่อ พอมีกระเป๋าใหม่ออกมาทีนึงเราก็จะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น แต่ลูกค้าเก่าที่เคยใช้ของเราแล้วชอบก็จะกลับมาซื้อ คริสรู้สึกภูมิใจที่เดี๋ยวนี้คนหันมาใช้งานของดีไซเนอร์ไทย อาจเป็นเพราะผู้หญิงเราหันมาแต่งตัวเยอะขึ้น ของเรานอกจากจะดีไซน์เองแล้วยังเน้นใช้งานได้จริง อย่างแต่ก่อนเราซื้อกระเป๋าแบรนด์อื่น ๆ เรารู้สึกว่าแพงซะเปล่า แต่ประโยชน์ใช้สอยไม่เยอะเท่าไหร่ เรื่องราคาเราพยายามคิดให้โอเคที่สุด ร้านเสื้อผ้า “ฮิม แอนด์ เฮอร์” ของพลอย น้องสาวคริสก็เหมือนกัน เราพยายามตั้งราคาที่ทุกคนซื้อได้”

แล้วหัวใจตอนนี้ยังไงบ้าง หลังเลิกรากับไฮโซหนุ่ม จูเนียร์ วัชร วัชรพล?

“ดีค่ะ ปกติ เรื่อย ๆ ค่ะ หัวใจแข็งแรงดี คริสมานั่งวิเคราะห์แล้วว่าทำไมทุกคนต้องรีบเชียร์ให้เรามีคนโน้น คนนี้ เพราะคริสจะบอกตลอดว่าเรามีแฟน คุยกับใครบ้าง พอไม่มีปุ๊บ ทุกคนเลยคิดว่ามันควรจะต้องมี สำหรับที่ผ่าน มาคริสไม่เสียดายเวลาเลย เรามีความสุขมาก คริสว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่ว่าใครที่เข้ามาในชีวิตเขาทำให้เราโตและเข้าใจอะไรเยอะขึ้น กับคนนี้คริสเคยคุยกันเมื่อ 8 ปีที่แล้ว คุยกันรอบหนึ่งแล้วก็เลิกไป แล้วพอกลับมาเจอก็มาเป็นแฟนกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้คริสก็มีโอกาสได้ไปทำงานที่ออฟฟิศเขา แต่ไม่ได้เจอกันค่ะ เขาประชุม เราก็ฝากโน้ตไว้ แล้วเขาก็ข้อความกลับมา”

ล่าสุดมีข่าวกับหนุ่มเกาหลี?

“หนุ่มเกาหลีเป็นเพื่อนค่ะ เจอกันเพราะเขามาเที่ยวเมืองไทย แล้วล่าสุดที่คริสไปทำงานที่เกาหลีกับพลอย ก็ได้เจอกันค่ะ แต่คริสก็ไม่ได้ชอบเขา แล้วเขาก็ไม่ได้พิเศษอะไร เขาแค่ชื่นชมเราว่าเราสวย น่ารัก แต่คริสเฉย ๆ ไม่ได้สปาร์กอะไร”

เพื่อน ๆ ในแก๊งนางฟ้าอย่าง พอลล่า เทเลอร์, เจน-เจนสุดา และ วุ้นเส้น-วิริฒิพา มีช่วยหาหรือแนะนำใครให้ไหม?

“กระตุ้นกันสุด ๆ เพราะทุกคนมีแฟนหมด เราก็บอกว่าขอพักก่อน อยู่เฉย ๆ ก่อน แล้วคริสไม่ได้รีบที่จะสรรหาอะไร ตอนนี้ก็ชิลไป คริสแค่ขอเวลาเลือกบ้าง คนที่คุยมันก็มี แต่คริสยังไม่ได้ถูกใจใครเป็นพิเศษ ถ้าเราเจอแล้วใช่ มันก็สปาร์กกันเอง เราไม่อยากเสียเวลาไปกิ๊กกับใคร เฉย ๆ ไม่รู้จะทำไปทำไม เราอยู่เองก็ได้ สบายดี”

พอโสดแล้วหลาย ๆ คนมองว่าคริสเปรี้ยวขึ้น?

“เหมือนเดิมเลยค่ะ ยังแต่งตัวเหมือนเดิม ไม่ได้เปรี้ยวขึ้น ตอนที่ถ่ายงานรูปเปลือยหลัง ตอนนั้นยังเป็นแฟนเขาอยู่แล้ว คริสยังไปให้เขาดูเลยว่าโป๊ไปหรือเปล่า เขาก็บอกว่าสวยดี ๆ ลงไปเลย แต่ภาพมันมาออกตอนเลิกกันแล้วไง ทุกคนเลยคิดแบบนั้น อย่างพาดหัวข่าวบางอันที่แรง ๆ คือคริสว่ามันเป็นภาษาพูด พอมาเขียนแล้วเลยดูแรง ก็มีนักข่าวมาถามเหมือนกันว่าโกรธไหม เราก็บอกว่าไม่โกรธหรอกค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คนก็ลืมกันแล้ว แล้วมันไม่ใช่เรื่องจริงด้วย คนอื่นเจอข่าวหนักกว่านี้มาก เขายังยืนหยัดอยู่ได้เลย เราเจอแค่นี้แล้วร้องไห้เพื่อนคงด่า (หัวเราะ)”

สเปกผู้ชายตอนนี้เปลี่ยนไปไหม?

“ไม่เคยมีสเปกเลยค่ะ ตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตมา แต่มีอย่างหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน แต่จะมีเยอะมีน้อยคือความเป็นสุภาพบุรุษ ความเป็นลูกผู้ชาย เราก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นยังไง มันไม่ใช่การวิ่งไปเปิดประตูรถให้ทุกครั้ง แต่ต้องเป็นสิ่งที่เรารู้สึกได้”

คติที่ใช้ในชีวิตของ “คริส หอวัง” ?

“คริสพยายามคิดว่าความสุขมันหาง่ายนิดเดียว มันอยู่รอบ ๆ ตัวเรา มันไม่ต้องเป็นตามที่ทุกคนมโนภาพขึ้นมาว่าต้องอย่างนี้ถึงจะดี เราไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นหรือแข่งขันกับใคร แค่เราเป็นตัวเราก็มีความสุขแล้ว คริสให้ความสำคัญกับ ครอบครัว เพื่อน แล้วก็ตัวเอง เท่า ๆ กัน ในชีวิตคริสก็มีเท่านี้ จริง ๆ ถ้ามีคนรักเขาก็อยู่ในอันดับพวกนี้ แต่ตอนนีมันไม่มี เราก็เอาเท่านี้ ก็แค่ตัดออกไป แต่เราไม่ได้ลดลำดับใครลง”

ความรักทุกครั้งที่ผ่านมาคือประสบการณ์ที่ดี ถ้ารู้จักรักให้เป็น นี่คือสิ่งที่ คริส หอวัง กำลังบอกทุกคน และเราก็ยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป มีเพียงความคิดที่เติบโตขึ้นเท่านั้นเอง...