Inside Dara
มรสุมชีวิตครอบครัว สไมล์ เดอะสตาร์ 8 คิดฆ่าตัวตาย หนีกองละคร หลบบวชชี!

หากย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน บนเวทีประกวดเดอะสตาร์ เชื่อว่าถ้าใครเป็นแฟนคลับเวทีนี้ คงจำสาวน้อยน้องเล็กสุดของเวทีเดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาวปี 8 เมื่อปี 2555 ได้ สาว สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ หรือชื่อเดิม โสรญา ฐิตะวชิระ โดยเธอได้ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย มาวันนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว ชีวิตของเธอได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กสาวเสียงใส เคยมีงานในวงการบันเทิงที่ผู้ใหญ่ป้อนให้ อีกทั้งด้วยรูปร่างและหน้าตาที่เปลี่ยนไปจนเกือบจำไม่ได้อีกด้วย แต่มาวันนี้เธอได้เปิดใจกับ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ถึงเรื่องทุกอย่างที่เธอตัดสินใจทำ ทั้งการหนีจากกองละคร ทอฝันกับมาวิน หนีจากครอบครัว เพื่อไปบวชที่เชียงใหม่ และความคิดที่จะฆ่าตัวตาย

อ้วนขึ้นกี่กิโลฯ? “10 กิโลฯ ค่ะ คือมันมีช่วงหนึ่งที่หนูเครียดๆ น่ะค่ะ หนูเลยกินเยอะ มันก็เลยอ้วนขึ้นค่ะ” เห็นว่าไปทำจมูกมา? “ใช่ค่ะ เพราะหนูอยากสวย ไม่ได้เกี่ยวกับโหงวเฮ้งอะไร แต่เค้าบอกว่าถ้าทำจมูกจะทำให้หน้าชัดขึ้น ก็เลยไปทำมาค่ะ แต่หนูว่ามีส่วนเกี่ยวกับเรื่องความอ้วนนะ พอมันอ้วนปุ๊บ ดั้งจมูกมันจะลดลง เราก็เลยคิดว่าอีกนานไม่รู้ว่าน้ำหนักจะลดลงรึเปล่า ก็เลยไปทำจมูกมาค่ะ” แฟนคลับหรือคนรอบข้างงงไหม เพราะหน้าเราเปลี่ยนไปเยอะมากจนจำไม่ได้? “เปลี่ยนเยอะไปเลยค่ะ คือก็มีคนที่จำหนูไม่ได้ว่าเป็นสไมล์ และหนูไปทำจมูกมา เพราะมันโด่งขึ้นด้วย แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันโอเครึเปล่าค่ะ” ที่ทำเพราะอยากได้งานมากขึ้น ในลุคที่โตขึ้นรึเปล่า? “ไม่น่าเกี่ยวค่ะ หนูทำเพราะเป็นความสุขที่เราอยากสวยขึ้นนิดนึงค่ะ”

ย้อนกลับไปถามเรื่องที่เราเครียด เห็นว่าไปบวชชี? “โห ตอนนั้นหนูเครียดมาก มันมีปัญหาเกี่ยวกับครอบครัวค่ะ คือหนูก็ไม่สามารถเล่าให้ทุกคนฟังได้ ตอนนั้นน่ะมันแย่มากๆ ที่หนูไปที่เชียงใหม่ คือหนูไปบวชจริงค่ะ” เราหนีไปคนเดียวใช่ไหม? “ใช่ค่ะ” เห็นว่าเพื่อนดาราไม่สามารถติดต่อได้เลย? “ตอนนั้นมันมีปัญหาทุกทางเลยค่ะ ตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเพื่อน แต่ไม่มีความรักนะคะ และเรื่องครอบครัวค่ะ คือถ้าหนูเล่าให้ฟังมันจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก แต่ก็พูดไม่ได้ค่ะ มันทำให้หนูเป็นอย่างนั้น จากคนที่รับผิดชอบงานมากๆ หนูเป็นคนที่รับผิดชอบงานมากๆ ค่ะ เป็นคนสนุกสนานตลอดเวลา จนมาถึงจุดหนึ่งที่มันแย่มากๆ จนมันแย่เกินไป มันสะสมมาเรื่อยๆ เหมือนเราอยู่กับครอบครัว แต่เราก็ไม่ได้สนิทอะไรมาก มันเลยทำให้เราไม่ได้คุยกับใครเลยค่ะ คือที่หนูไปเชียงใหม่ หนูอยากจะไปบวช”

เราเลือกเองศึกษานานไหมกว่าจะตัดสินใจไปเชียงใหม่? “ไม่ค่ะ เราชอบบวชอยู่แล้วค่ะ คือหนูอยากจะหายไปเลย พูดตรงๆ ว่ามันตลกมาก คือหนูไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ถ้าอยากตายก็อยากตายที่โน่น ไม่อยากตายที่บ้าน แต่พอมาคิดอีกทีว่าชีวิตมันมีค่า ก็เลยไปบวช” เราโกนหัวไหม? “ไม่ถึงขั้นโกนค่ะ ตอนนั้นเราตัดผมสั้นไปเลยค่ะ แล้วก็เข้าบวชค่ะ ประมาณเดือนหนึ่งค่ะ” คนมองว่าเราบวชเพราะโดนปลดจากละครเรื่อง ทอฝันกับมาวิน เลยไปบวชประชดชีวิต? “มันไม่ใช่หรอกค่ะ มันผิดที่หนูเอง หนูคงยังเด็กมาก และหนูไม่สามารถที่จะแยกทุกเรื่องออกจากกันได้ หนูเป็นคนจ่ายค่าเทอมเองตั้งแต่เด็ก ทำทุกอย่างเองตั้งแต่เด็กมันเลยทำให้หนูติดการคิดคนเดียวค่ะ ตอนนั้นหนูแย่มาก และคิดว่าหนูจะไม่มีงานอีกแล้ว เพราะว่าหนูหนีจากกองละครมาเลยค่ะ” ตอนนี้ได้ไปขอโทษทางผู้ใหญ่รึยัง? “หนูไปกราบผู้ใหญ่แล้วค่ะ ไปกราบทุกคนเลยที่เกี่ยวข้อง คือรู้สึกผิดจริงๆ ที่หนูทำไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเลย ตอนนั้นใจหนูมันแย่มาก คนเรามันไม่มีทางออก ห้องมันแคบๆ มันต้องกระโดดออกทางหน้าต่าง”

ตอนนั้นผู้ใหญ่เค้าได้ให้ใครมาตามเราไหม? “ไม่มีค่ะ ไม่มีใครตามตัวหนูได้ เพราะว่าหนูปิดหมดทุกอย่าง ทิ้งโทรศัพท์ไว้นานจนมาเปิดอีกทีถึงรู้ค่ะ” แล้วผู้ใหญ่เค้าว่ายังไงบ้างตอนที่เราเข้าไปขอโทษ? “คือเค้าเข้าใจว่าพื้นฐานเราปกติแล้วเราเป็นคนรับผิดชอบงานมากๆ ค่ะ หลายคนเค้าก็จะคิดว่าหนูท้อง หนูไม่ได้ท้อง หนูไม่มีแฟนด้วยซ้ำ” คนเค้าเลยคิดว่าเราหนีไปเพราะท้อง? “ไม่ใช่ค่ะ คือหนีมาเพราะว่าไม่ไหวกับสิ่งที่เป็นอยู่ค่ะ เราทำทุกวันเพื่อครอบครัว แต่มาวันหนึ่งสิ่งที่เป็นหัวใจเรามันแตก คนที่ควรจะภูมิใจกับเรา เค้าไม่ภูมิใจในตัวเราทั้งๆ ที่เราทำเต็มที่เพื่อเค้า มันทำให้เป้าหมายที่เราหวังไว้พังลง” เราไปบวชที่ไหน? “เชียงใหม่ค่ะ แต่ไม่ใช่วัดนะคะ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมน่ะค่ะ ค่อนข้างเคร่งมากๆ” บวชนานไหม? “เป็นเดือนค่ะ กลับมาแล้วก็ยังไม่เหมือนเดิมค่ะ จิตใจก็ยังไม่ปกติ” ที่เราหนีไป ทางบ้านว่ายังไง เค้าสงสัยไหมว่าเราหายไปไหน? “หนูไม่บอกทางบ้านค่ะ เพราะว่าเค้าไม่มีทางเข้าใจเค้าเป็นผู้ใหญ่ เค้าไม่มีทางเข้าใจว่าเราทำอะไร เค้าไม่มีทางเข้าใจว่าเค้าทำอะไรเราถึงเป็นแบบนี้ เค้าคิดแต่แค่ว่าเรื่องที่เค้าทำคือทำดีแล้ว ซึ่งหนูก็ไม่สามารถไปบอกอะไรได้ค่ะ เพราะหนูเองก็ไม่ได้โตกับแม่ หนูไม่ได้โตมากับแม่ค่ะ แต่เค้าเพิ่งมาเลี้ยงเรา มาอยู่กับเค้าตอนที่เราเป็นเดอะสตาร์ค่ะ เอาจริงๆ คือก่อนหน้าที่จะเป็นเดอะสตาร์ หนูอยู่กับครอบครัวฝั่งพ่อค่ะ”

ตอนที่เราเป็นเดอะสตาร์ เราก็มาอยู่กับแม่ เพราะพ่อติดคุก? “ใช่ค่ะ ประมาณนั้น” เรื่องเป็นมายังไง? “คือจริงๆ หนูมาอยู่กับพ่อ แม่หนูไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับหนู หนูเลยอยู่กับยาย แม่มาเลี้ยงหนูตอนที่หนูเป็นเดอะสตาร์แล้ว” หรือเค้าอยากให้เรามีงาน แต่เราไม่มีงานให้เค้า? “คือครอบครัวหนูคาดหวังในตัวหนูมาก อยากให้หนูมีงาน แต่ถ้าหนูไม่มีงาน ครอบครัวหนูก็จะเข้าใจไปอีกแบบว่าหนูเป็นคนหัวรั้น ทั้งๆ ที่เอาจริงๆ หนูเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนมาก เวลาอยู่กับผู้ใหญ่ หนูเป็นคนปกติ ที่บ้านเค้าก็จะไม่เข้าใจ เพราะเค้าไม่ได้รู้จักเราดีจริง ที่หนูบอกว่าหนูอยู่กับยาย หนูก็ไม่ได้อยู่กับยาย แต่หนูอยู่กับพ่อ”

แล้วตอนนี้พ่อพ้นโทษยัง? “พ้นโทษแล้วค่ะ แต่พ่อเค้าเข้าคุกมานาน เค้าดูเหมือนเปลี่ยนไปในทางจิต เค้าเคยมีเงิน แล้วอยู่ดีๆ วันหนึ่งที่เค้าไม่มีเงินแล้วเค้าต้องไปทำงานเป็นลูกจ้าง เค้าก็เลยแย่รับไม่ได้ในตัวเองในสิ่งที่เค้าเป็นค่ะ หนูก็เลยอยู่กับเค้าไม่ได้ เพราะว่ายังเรียนที่นี่แต่ก็ไปหาพ่อค่ะ เค้าก็โทรมาบอกคิดถึง ปีใหม่นี้อยากจะไปหาพ่อ แต่ทางครอบครัวหนูเค้าก็จะไม่ให้ไป เพราะเค้าเลี้ยงเราอยู่ในกรอบค่ะ แต่ว่าไม่ซัพพอร์ตเราในบางเรื่อง หนูก็เลยเครียดมาก” แล้วแม่เรารู้เรื่องนี้ไหม? “หนูไม่บอกเค้า เพราะว่าเค้ายังเป็นวัยรุ่นอยู่ และเค้ายังมีเพื่อน มีการมีตติ้งอยู่ทุกวัน หนูเข้าใจว่าวัยรุ่นบางทีไม่สามารถเสียสละได้” แม่อายุเท่าไร? “35 ค่ะ ปกติโดยพื้นฐานเค้าเป็นคนแซ่บอยู่แล้วค่ะ” แล้วตอนนี้สไมล์อายุเท่าไร? “19 ค่ะ ซึ่งเค้ามีลูกเร็วค่ะ อีกอย่างการที่เค้ามีลูกเร็ว ทำให้เค้าเลี้ยงเราไม่ได้”

ทำไมเราไม่ไปอยู่กับยาย? “เพราะยายหนูเป็นหัวหน้าครอบครัวค่ะ มีคนขอพึ่งยายเยอะ เป็นครอบครัวใหญ่ แม่มีน้องเยอะแต่คนละพ่อ ยายหนูต้องดูแลทุกคนในบ้าน” แล้วฝั่งย่าเราล่ะ? “ย่าหนูตั้งแต่เรื่องคดีของพ่อก็ไม่ได้ติดต่อเลยค่ะ เค้าเสียใจ และเค้าย้ายไปอยู่อีกบ้านนึง เราก็ตามหาเค้าไม่เจอ” และตอนนี้เราใช้ชีวิตยังไง งานก็น้อยลง? “หนูจะไปลาออกจากเอ็กซ์แซ็กท์แล้ว” และเค้าให้ไหม? “หนูว่าเค้าให้ เพราะว่าหนูไม่มีงาน และหนูก็เห็นว่าเค้าไม่สามารถให้งานหนูได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริง หนูก็ต้องบอกเค้าว่าจะทำยังไง เพราะมีหลายสิ่งเข้ามา ซึ่งหนูไม่สามารถรับอะไรได้เลย” และเราต้องกินอยู่ เราเอาเงินมาจากไหน? “หนูทำครีมขายค่ะ ก็ขายดีค่ะ ลงทุนเอง เงินเก็บที่มีมา พยายามทำทุกอย่างค่ะ ด้วยความที่เราไม่ได้โตขึ้นมากับใคร เราเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็ก จ่ายค่าเทอมเองตั้งแต่เด็ก เราไม่เคยได้รับอะไรที่เหมือนครอบครัวอื่นเค้ามี แต่ว่าหนูไม่ได้รู้สึกขาดค่ะ ต้องดิ้นรน”

ตอนนั้นไม่มีงานเข้ามาเลย เราอยู่ยังไง? “หนูขายครีมอย่างเดียวเลย” แล้วก่อนที่จะขายครีม เรารับงานคอนเสิร์ตต่างจังหวัดบ้างไหม? “ก็มีค่ะ” ถ้าเราขายครีมไม่ได้เราทำยังไง? “คือหนูขายมาตั้งแต่ ม.1 แล้วค่ะ ตอนนี้คือเราไม่ต้องทำก็ได้ เราให้ใครทำแทนก็ได้ แบบมีตัวแทนขายเหมือนที่เค้าทำกันค่ะ หนูก็ทำไปเรื่อยๆ เอาจริงๆ บางคนก็ไม่รู้ว่าเป็นครีมเรา เพราะเราทำให้หลายๆ คนค่ะ” แสดงว่าเราต้องมีเงินเพราะครีมขายดี? “ก็มีค่ะ แต่ว่าเราไม่ได้มีเยอะค่ะ ก็มีในระดับที่เราไม่ได้ลำบากค่ะ หนูรู้ว่าความจริงแล้วเราไม่ได้มั่นคงค่ะ ก็ต้องรีบหาแต่ตอนนี้”

ตอนที่เราเข้าไปหาผู้ใหญ่ เค้าว่ายังไง? “เค้าเข้าใจค่ะ” และเค้าให้งานเราอีกไหม? “เค้าไม่ได้พูดเรื่องงานนะคะ แต่ตัวหนูเองยังไม่กล้าที่จะรับเลยค่ะถ้าหนูได้งาน คือเราทำไม่ดีกับเค้า เค้าไม่ควรจะให้งานหนูเลยด้วยซ้ำ หนูไม่อยากจะรับอะไรเลยค่ะ แล้วเรารู้สึกว่าเราจะมีหน้าไปของานเค้าได้ยังไง ในเมื่อเค้าให้โอกาสเรามาแล้ว แต่เราดันฉีกโอกาสนี้ทิ้งค่ะ หนูเข้าใจเค้าและหนูก็ไม่นอยด์ค่ะ” และเราเหลือสัญญาอีกกี่ปี? “น่าจะปีกว่าค่ะ เพราะหนูเซ็น 5 ปี และหนูคิดว่ายังไงเค้ามีหนูไว้ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรเหมือนกัน เราออกๆ ไปให้เค้าได้มีคนอื่นเข้ามาดีกว่าค่ะ”

แล้วเราคิดว่าจะลดความอ้วนไหม? “จะลดแล้วค่ะ เพราะน้ำหนักขึ้นมาเป็นสิบกิโลฯ เลย” แล้วเราไม่คิดจะเดินสายร้องเพลงตามผับเหรอ? “หนูน่ะอยากเดินสาย แต่ความจริงที่หนูอยากออกจากที่เก่าเพราะหนูอยากไปประกวดเดอะวอยซ์ปีหน้า ซึ่งหนูมาเรียนร้องเพลงเพราะพยายามฝึกตัวเองเต็มที่ค่ะ คือหนูไม่หยุดฝันเพราะตอนที่หนูเข้าเวทีเดอะสตาร์ หนูร้องเพลงห่วยมากและยังเด็กมาก หนูอยากไปพิสูจน์ให้ใครเค้าเห็นว่าเราเปลี่ยนไปพอสมควร อาจจะไม่ได้เก่งแต่หนูเปลี่ยนไป หนูพัฒนานะ ความฝันของหนูยังไม่หยุดเลยค่ะ ตั้งแต่ปีหน้าไปจะเริ่มเปลี่ยนตัวเองแล้ว”

แล้วเราจะเข้าไปหาผู้ใหญ่ขอยกเลิกสัญญาอีกเมื่อไหร่? “น่าจะต้นเดือนมกราฯ ค่ะ เพราะว่าหนูกำลังจะมีละครเวทีกับที่อื่นค่ะ และก็กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายๆ อย่างค่ะ” ไปทำหน้าอกเหรอ? “หนูพูดจริงๆว่าไม่มีหน้าอกเลย ก็เลยคิดว่าจะไปทำค่ะ (ยิ้ม) หนูก็อยากจะทำนมนิดนึงค่ะ ดันยังไงมันก็ไม่ขึ้น เราเป็นผู้หญิงมันก็ต้องมีบ้าง อาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ขอให้มันใหญ่เป็นรูปนมหน่อยนิดนึง” ไม่กลัวคนจะว่าเหรอว่าเราเสพติดศัลยกรรมไปแล้ว ทั้งทำจมูกและจะทำนมอีก? “ไม่ค่ะ แต่เค้าก็งงกันนะคะว่าหนูทำจมูกทำไมถ้าไม่อยากได้งาน แต่หนูอยากสวยเฉยๆ เหมือนเราก็อยากเป๊ะน่ะค่ะ” แล้วแฟนคลับเราชอบไหม? “ก็คงไม่ชอบมั้ง เค้าชอบหนูที่เป็นธรรมชาติ เค้าไม่ได้เห็นไงว่ามันเป็นแบบไหน หนูก็อยากจะทำ หน้าเราไม่ทำอะไรแล้ว ขอทำหน้าอกอย่างเดียว เอาแบบพอดีๆ ค่ะ” จากเดอะสตาร์จนวันนี้ผ่านมากี่ปีแล้ว? “3 ปีแล้วค่ะ” แล้วจะหนีไปทำอะไรอีกไหม? “ไม่หนีแล้วค่ะพี่ หนีจนเหนื่อยแล้ว (หัวเราะ)”