เสรีพิศุทธ์ แสดงจุดยืน “จะให้ผมไปรวมกับเผด็จการ อย่าให้พูดว่าเสียคนเลย เสียหมาเลยดีกว่า”
“พรรคเสรีรวมไทย” ย้ำจุดยืนจะร่วมกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ร่วมกับพรรคที่สืบทอดอำนาจเผด็จการแน่นอน โดยไม่ตั้งเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลและให้เกียรติพรรคเพื่อไทยซึ่งได้คะแนนเสียงเป็นลำดับที่ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมทั้งแนะพรรคพลังประชารัฐว่าควรมีมารยาททางการเมืองเพียงพอด้วยการไม่ตั้งรัฐบาล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาแถลงจุดยืนพรรคหลังเลือกตั้ง ณ อาคาร BBO ถ.วิภาวดีรังสิต ย้ำจุดยืนไม่สืบทอดอำนาจเผด็จการ ประกาศสนับสนุนพรรคเพื่อไทยพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล ย้ำชัดคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก และพรรคพลังประชารัฐก็ควรเคารพกติกาให้พรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล
“พรรคเสรีรวมไทยคิดถึงประชาชนเป็นหลัก เรามีจุดยืนที่ชัดเจนต้องคำนึงถึงประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก อย่าไปคำนึงถึงตัวเองหรือพรรคการเมืองของตัวเองซึ่งเราควรจะเก็บไว้ทีหลัง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วการจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนที่เลือก ส.ส.เข้ามามากที่สุดให้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล”
“ส่วนพรรคที่มีคะแนนอันดับ 2 อันดับ 3 หรือลำดับต่อมา ไม่ควรจะไปแย่งจัดตั้งรัฐบาล ถือว่าเสียมารยาทเป็นอย่างยิ่ง การพรรคที่ 2 หรือพรรคที่ 3 ไปชิงตัวพรรคอื่นเข้ามาเพื่อแย่งการเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ผมถือว่าเสียมารยาทมากและไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
การที่อยู่ดีๆ พรรคที่สองจะไปดึงพรรคอื่นๆ มาและมีการเสนอผลประโยชน์ให้หรืออาจจะมีผลประโยชน์อย่างอื่นตอบแทน เพราะฉะนั้นไม่ควรทำอย่ายิ่ง อาจจะทำให้เกิดความบาดหมางใจกันและหาความสามัคคีไม่ได้ ควรเคารพกติกาให้พรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลพรรคที่ได้จำนวน ส.ส.เป็นอันดับที่ 2 ควรที่จะมีมารยาทหยุดการเคลื่อนไหว
พรรคเสรีรวมไทยยินดีให้ฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคที่ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด ไดยไม่ต้องมีข้อเสนอใดๆ เพราะถ้ามีข้อเสนอจะทำให้การจัดตั้งลำบาก”
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า “จะให้ผมไปรวมกับเผด็จการอย่าให้พูดว่าเสียคนเลย เสียหมาเลยดีกว่า เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญได้ คำพูดของผม 10 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้ก็เป็นอย่างนั้น”
นอกจากนี้ยังทิ้งทายถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้แสดงถึงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะร่วมกับฝ่ายไหน และยังเชิญชวนให้มาร่วมฝั่งประชาธิปไตยซึ่งนายอนุทินอาจจะได้เป็นนายกฯ ก็ได้
