Inside Dara
7สีชี้แจงกรณีถูกร้องเรียนยุติฉายละคร 'ฟ้าจรดทราย'

ช่อง 7 สีเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องกรณีละคร "ฟ้าจรดทราย" ถูกมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติเรียกร้องให้ยุติออกอากาศ แจงสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง และตั้งใจที่จะผลิตให้ตรงตามบทประพันธ์มากที่สุด ไม่มีเจตนาหมิ่นหรือกระทบกับศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม...

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 ส.ค. 2556 สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้ส่งจดหมายถึงสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติได้เรียกร้องให้ช่อง 7 สียุติการออกอากาศละคร "ฟ้าจรดทราย" โดยอ้างว่าเนื้อหาไม่เหมาะสม หมิ่นหรือกระทบกับศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม ซึ่งทางช่อง 7 สีได้เรียกประชุมผู้บริหาร ผู้ผลิต ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าจะยังคงออกอากาศต่อไป แต่จะมีการตรวจสอบเนื้อหาของละครตอนที่เหลือก่อนออกอากาศด้วย ทั้งนี้ ทางช่อง 7 สียืนยันว่าละครเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง และตั้งใจที่จะผลิตให้ตรงตามบทประพันธ์มากที่สุด ไม่มีเจตนาหมิ่นหรือกระทบกับศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม พร้อมทั้งขออภัยต่อชาวมุสลิมและจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด

ซึ่งในหนังสือชี้แจงถึงสื่อมวลชนมีข้อความว่า "วันนี้ (23 ส.ค.56) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มีการเชิญผู้ผลิต และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้องมาประชุมเกี่ยวกับกรณีที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ เรียกร้องให้ช่อง 7 สี ยุติการออกอากาศ ละครเรื่อง "ฟ้าจรดทราย"

โดยคุณพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 กล่าวว่า "ละคร ฟ้าจรดทราย เป็นละครสร้างจากบทประพันธ์ของคุณโสภาค สุวรรณ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างชายและหญิง ซึ่งเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเรื่องสมมติขึ้นในเมืองแถบอาหรับ มีจุดประสงค์สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง การผลิตละครเรื่องนี้เราตั้งใจที่จะผลิตผลงานให้ได้ตรงตามบทประพันธ์มากที่สุด โดยมิได้มีเจตนาหมิ่นหรือกระทบกับศาสนาอิสลามและชาวมุสลิมแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ในตอนต้นก่อนเข้าละครได้มีการขึ้นข้อความชี้แจงถึงเจตนาการ ผลิตละครเพื่อความบันเทิงและเมื่อทราบข่าวการร้องเรียนจากสื่อทาง อินเทอร์เน็ต เมื่อเย็นวานนี้ ก็ไม่นิ่งนอนใจ เราได้ทบทวนเนื้อหาและได้รีบติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง"

ส่วนคุณสยาม สังวริบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตละคร "ฟ้าจรดทราย" กล่าวว่า "เมื่อทราบข่าวจากสื่อ อันดับแรกต้องขอขอบคุณ มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ และคุณปราโมทย์ สมะดี ประธานมูลนิธิ มุสลิมเพื่อสันติ ที่ให้คำแนะนำและข้อคิดเห็น ละครเรื่องนี้เราสร้างตามบทประพันธ์ของคุณ โสภาค สุวรรณ ซึ่งเป็นนิยายอมตะมากว่า 30 ปี ก่อนที่เราจะดำเนินการถ่ายทำละครเรื่องนี้ เราต้องส่งบทละครโทรทัศน์ ทั้ง 12 ตอน ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ ให้กับสถานทูตอียิปต์ และกระทรวงวัฒนธรรมของอียิปต์ เมื่อได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว จึงดำเนินการถ่ายทำ ซึ่งการถ่ายทำส่วนใหญ่ถ่ายทำในโรงถ่ายของรัฐบาลอียิปต์ และเราใช้นักแสดงประกอบของประเทศอียิปต์เข้าฉากด้วย เราตั้งใจจะสื่อสารให้เห็นความสวยงามของเมืองสมมุติฮิลฟารา โดยเราไม่มีเจตนาลบหลู่ศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น ต้องกราบขออภัยพี่น้องชาวมุสลิมและจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด".