Inside Dara
"มุก-วรนิษฐ์" เปิดโลกใบใหม่กับการแสดงหนังครั้งแรกใน "Postman ไปรษณีย์ 4 โลก"

เผยบทบาทสุดหลากหลายในละครและซีรีส์สุดปังมากว่า 10 ปี นักแสดงสาว “มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์” ผ่านมาหมดไม่ว่าจะบทสุดแซ่บ น่ารักวัยใส หวานเรียบร้อย ไปยันบทเมียน้อยชีวิตสุดดราม่า แต่ล่าสุดสาว “มุก” ได้เปิดโลกใบใหม่กับการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกใน “Postman ไปรษณีย์ 4 โลก” ภาพยนตร์ ดราม่า ตลก ไซไฟ จากค่ายหนัง M39 ผลงานการกำกับของ “ตุ๋ย-พฤกษ์ เอมะรุจิ” เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชีวิตเวียนวนอยู่ใน 4 ยุค คือยุคหิน, ยุคบ้านระจันแตก, ยุควิกฤติต้มยำกุ้ง, ยุคโลกอนาคต ทำหน้าที่ส่งต่อ ส่งสาร ส่งความคิดถึง ทำให้ก่อเกิดความผูกพันระหว่างมนุษย์ ที่มีทั้งสุข เศร้า คลุกเคล้าความตลกร้ายแต่น่าประทับใจ เข้าฉาย 31 ส.ค.นี้

สาว “มุก–วรนิษฐ์” รับบท หมอเมย์ คุณหมอมือใหม่ไฟแรง ประกบคู่หนุ่ม เป้–อารักษ์ อมรศุภศิริ ใน “ยุควิกฤติต้มยำกุ้ง” เล่าบทบาทว่าเป็นเรื่องราวของ “โด” บุรุษไปรษณีย์ที่มีความสุขกับการส่งจดหมายและพัสดุตามบ้านต่างๆ ได้เจอกับ “หมอเมย์” ตอนแรกที่มุกรู้คาแรกเตอร์ว่าเป็นหมอ เราก็คิดว่าเราจะทำได้มั้ย เพราะเราเป็นผู้หญิงค่อนข้างกะเปิ๊บกะป๊าบ โก๊ะๆ และก็ไม่เคยรับบทคุณหมอ แต่เรื่องนี้พี่ตุ๋ย-พฤกษ์ บอกว่าอยากได้หนูมาเล่นเพราะต้องการความสดใสแบบนี้ ไม่ได้ต้องการหมอที่เป็นโปรเฟสชันนอลแบบทำงานมานาน แต่เป็นคุณหมอมือใหม่ที่ยังลองผิดลองถูก แต่มีใจอยากช่วยคนไข้ ดูแลป้าเพ็ญและหลายๆคนที่บ้านพักคนชรา

สำหรับหนูเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกเราไม่เคยเล่นหนังมาก่อนเลยตื่นเต้น แต่พอไปถ่ายจริงกลับรู้สึกสบายใจ มันสนุก มีเอเนอร์จี้เต็ม การดีไซน์ตัวละครก็คุยกับพี่ตุ๋ยได้เลย พอเป็นหนังเราจะเล่นเป็นธรรมชาติ การแต่งหน้าแต่งตัวเป็นคุณหมอจริงๆที่เป็นธรรมชาติ เรื่องนี้มุกแทบไม่แต่งหน้า ไม่มีคอนแทกเลนส์ ไม่มีขนตา ไม่มีอะไรเลย มัดผมง่ายๆเป็นแบบนี้ทั้งเรื่อง เป็นเรื่องแรกที่แต่งหน้าบางมาก แล้วปากหนูเป็นคนที่ธรรมชาติปากชมพูแดง ต้องทาปากลบลงไป ด้วยค่ะ หนูกับพี่เป้ก็แซวกันนะว่ากดความสวยหนูยาก (หัวเราะ) ในเรื่องพี่เป้เค้าจะเป็นบุรุษไปรษณีย์มาส่งจดหมายที่นี่ เราเป็นหมอดูแลที่นี่ เลยเจอกันบ่อย มีการคุยกันบ่อยแล้วค่อยๆ ก่อเกิดความสัมพันธ์ เป็นฟีลหมามองเครื่องบิน”

มุกเล่าความ “ฟีลกู๊ด” ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของมิตรภาพ เป็นโรแมนติกดราม่าที่มีความคอมเมดี้นิดๆ ย้อนกลับไปในยุค 90 ซึ่งมันมีความวินเทจ แต่มันก็ไม่ไกลตัวเรามาก เป็นยุคพ่อแม่เรา ยุคนั้นคือเขียนข้อความหากันจริงๆมันเลยมีความน่ารักที่เราไม่ได้เจอในยุคนี้ ถามว่ากับหนังเรื่องแรกให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ ถ้าคะแนนความตั้งใจของตัวเองให้เต็มร้อย คะแนนความกดดันก็ให้เต็มร้อยเหมือนกัน แต่พอมาทำงานจริงๆความกดดันเหลือศูนย์เลย ทุกคนค่อนข้างไว้ใจเรา และเคารพกันในฐานะนักแสดง เป็นอีกเรื่องที่ฟีลกู๊ดทั้งในจอและนอกจอ

สั่งสมประสบการณ์ 10 ปี ตอนนี้ขึ้นแท่นตัวแม่ตัวมัม GMMTV ไปแล้ว “มุก” เปิดใจว่า “มันเร็วมากเลยนะคะ ไม่นานนี้ยังเป็นน้องใหม่ GMMTV ตอนนี้เป็นรุ่นพี่แล้วเพราะเซ็นสัญญาใบที่ 3 แล้ว อยู่มา 10 ปีแล้วปีนี้ จากที่เรามีแต่รุ่นพี่ที่เราต้องเข้าไปไหว้ทุกคน ตอนนี้ก็มีแต่คนไหว้”

ทำไมถึงรู้สึกว่า 10 ปีเร็วมาก? “ที่มุกรู้สึกเร็วคงเหมือนกับที่คนเค้าบอกว่าถ้าอยู่ตรงไหนแล้วมีความสุขเวลาจะ ผ่านไปเร็ว มันก็มีส่วน สบายใจเป็นเหมือน บ้าน เพื่อนพี่น้องที่ร่วมงานที่นี่เป็นเหมือนเพื่อนจริงๆ ในชีวิตของมุกด้วย พี่เต-ตะวิน พี่นิว-ฐิติภูมิ พี่ลี-ฐานัฐพ์ หรือแก๊งน้องๆก็เป็นแก๊งเดียวกันกับที่ไปกินข้าว ไปตีแบด มันเลยรวดเร็ว รวมถึงเจ้านาย พี่ถา-สถาพร ก็ดีกับมุกมาตลอด ต่อปี 5 ปี เซ็นแล้วก็จะอยู่ที่นี่ 15 ปี ถึงตอนนั้นมุกก็อายุ 32 ปีค่ะ”

10 ปีที่เติบโตทั้งตัวเราและบทบาทการแสดง? “ใช่ค่ะ สำหรับมุกก็จะพูดตลอดว่าที่นี่ให้อิสระกับเรามาก อยากทำอะไรก็สามารถเสนอได้ บทบาทที่มุกได้รับอาจจะไม่ได้โด่งดังทุกเรื่อง แต่มันมักจะเหมาะกับเราในเวลานั้นเสมอ ทุกบทก็เติบโตขึ้นและได้เปลี่ยนแปลง อย่างหนังเรื่องนี้พอบทมาถึงก็อยากรับเลย”

การเติบโตของตัวมุก ณ วันนี้ล่ะ? “ก็แกร่งขึ้น จริงๆถ้าตอนเด็กๆมุกจะมีปัญหาเรื่องความเครียดบ่อย ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้หญิง แต่ ณ วันนี้เวลาที่เราเจอคอมเมนต์อะไรแรงๆเราก็ยังรู้สึกอยู่นะ คงไม่มีใครไม่รู้สึก มันก็ปล่อยวางได้เร็วขึ้น และตัวมุกก็โตขึ้นด้วย แกร่งขึ้นด้วยเพราะเป็นพี่คนแล้วเริ่มรู้สึกว่าเรามีมุมอ่อนแอได้ แต่เราก็มีมุมที่แข็งแรงด้วย ดูแลคนอื่นๆด้วย”

น้องๆในค่ายมาปรึกษาพึ่งพิงทางความรู้สึกกับเราเยอะมั้ย? “น้องๆเพิ่งเข้าวงการใหม่ก็จะทำตัวไม่ถูกในหลายๆเรื่อง และยังรับมือกับความเครียดไม่ค่อยได้ เราก็เคยเจอมาก่อน เราก็ทำได้แต่ให้คำปรึกษาและส่วนตัวเรา เราก็ได้พบจิตแพทย์ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลก เราเป็นนักแสดง ต้องไปเข้าบทบาทเป็นคนโน้นคนนี้ เราต้องเจอหลายเรื่อง อย่างเรื่องเมียน้อย เราต้องโดนข่มขืนแล้วรู้สึกจริงๆ ต้องร้องไห้ใจสลาย ถ้าเราไม่มีที่พึ่งช่วยดูแล ช่วยเอามันออกไปจากใจคงแย่ จริงๆอาชีพอื่นๆก็เหมือนกัน ถ้าใครเครียดก็ไปคุยกับจิตแพทย์ได้”

หลายๆครั้งมุกก็รับบทพี่สาวออกโรงปกป้องน้องๆ เวลาเจอปัญหา? “เค้าก็มาขอบคุณนะ จริงๆน้องๆช่วยมุกหลายอย่าง เหมือนเป็นเพื่อนกับมุก มีรอยยิ้ม มองโลกในแง่สดใสและน่ารักกับเรา การอยู่กับเด็กๆมันทำให้เราสดใสไปด้วย จริงๆในมุมที่เป็นน้องเราก็ได้รับการดูแลที่ดีจากพี่ๆเสมอเหมือนกันค่ะ”

เติบโตเป็นสาวแกร่งเรื่องชีวิต แต่เรื่อง “ความรัก” ตอนนี้ “มุก” เผยหัวใจยังว่าง “ไม่มีใครเลยค่ะ ดีที่เราอยู่กับแก๊งที่เค้าก็ไม่มีเหมือนกันก็ไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อน ตอนนี้ชีวิตเราก็ลงตัวกับการทำงาน หลังจากนี้ถ้าจะมีใครเข้ามา เค้าต้องมาเติมเต็มชีวิตเรา ทำทุกอย่างให้มันดีขึ้นไปด้วยกัน ขอให้คนที่เข้ามาไม่ทำร้ายเรา ธงหลักๆเลยตอนนี้ คือมุกรักตัวเองมาก พอเรารักตัวเองแล้วเราก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว เรื่องราวที่ผ่านมาก็เป็นประสบการณ์ เราได้เรียนรู้ จริงๆ เราทุ่มเต็มที่กับความรัก เราเลยรู้สึกว่ามันต้องคู่ควร และคุ้มค่ากับการทุ่มเท”

สเปกหนุ่มตอนนี้เป็นแบบไหน? “จริงๆก็ยังเหมือนเดิมคืออยากเจอคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นคนที่ส่งเสริมกัน ถามว่ามีคนมาจีบมั้ยก็มีบ้างค่ะ แต่ตอนนี้ว่าง”

ว่างเพราะไม่เลือกเองหรือเพราะยังไม่เจอคนที่ใช่? “ยังไม่เลือกเองมากกว่าค่ะ อยู่ไปอยู่มาอยู่คนเดียวแล้วโอเค แต่ยังไงชีวิตนี้ก็ต้องมีครอบครัวเพราะเราอยากมีลูก เราโตมากับการมีพี่ชายที่น่ารัก มีครอบครัวที่น่ารัก เราก็อยากมีแบบนั้นแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะยังไม่เจอ ถ้าเจอเราก็เปิดใจค่ะ แต่ว่าพอมีใครเข้ามา เรากลับไม่ได้เหมือนตอนเด็กๆที่พอว่าง พอมีเวลาก็อยากไปเจอ เพราะตอนนี้ถ้ามีเวลาก็อยากพัก อยากทำงาน ไม่ได้รู้สึกเหมือนตอนเด็กๆแล้วเพราะตอนนี้เราเอาตัวเองเป็นหลักค่ะ”.

ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต