สวยครบเครื่อง “เจนนี่-ชยิสรา” ชิมลางบทบู๊ครั้งแรก ใน “คนกล้าท้าชน”
สวย เก่ง ครบเครื่อง เจนนี่-ชยิสรา วัฒนะนาวิน นางเอก “คนกล้าท้าชน” ทางช่อง 7HD ค่ายโคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป พร้อมเปิดโหมดซิง ชิมลางบท “บู๊” ครั้งแรก โชว์สกิลบู๊สนั่นจอ กับเรื่องราวกำลังสนุกเข้มข้นมีให้ลุ้นทุก EP วีกนี้เลยชักชวน สาวเจนนี่ ขึ้นปก “มาลัยไทยรัฐ” ขอสลัดลุคสาวห้าว มาเป็นสายหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ เซ็กซี่หน่อยๆ โดยมี Make up @tonnow_mua และ Hair @dollaret_hair89 มาเนรมิตความสวยเป๊ะปัง บวกกับลีลาท่าโพสแบบสับๆ สมเจ้าของตำแหน่ง “ไทยซูเปอร์โมเดล 2019” การันตีความจึ้ง!
จากนั้นสาว เจนนี่-ชยิสรา เล่าถึงบท “พลอยสวย” จอมบู๊แหลก แต่กว่าจะได้ท่าสวยๆ โดนเคี่ยวเข็ญอย่างหนักหน่วงจนเจ้าตัวถึงกับร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว แต่พอกระแสละครปัง ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง “ฟีดแบ็กดีเลยค่ะ คนชมเยอะมาก บอกว่าเล่นบู๊เรื่องแรกก็เตะต่อยดี ดูทะมัดทะแมงดี ท่าสวย ตอนที่รู้ต้องเล่นบู๊ ยอมรับมีกังวล แอบกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ พอเราไปเรียนบู๊ก่อนถ่าย ก็โอเค ทำได้ ตอนนั้นอาศัยไปเรียนกับอาทองก้อน (ทองก้อน ศรีทับทิม) ก่อนเปิดกล้อง 3 เดือน” ต้องฝึกอะไรบ้าง โดนเคี่ยวเข็ญยังไง “ก็มีแบบว่า เอาเป็นแบบพื้นฐานก่อนอย่างนี้ค่ะ มีเตะกระสอบทราย แล้วก็สอนท่ายืนว่าต้องยืนยังไง มีสอนใช้มีด จับปืนบ้าง” สภาพหลังเข้าฉากบู๊ครั้งแรกล่ะ “แรกๆก็คือลากขากลับบ้าน (หัวเราะ) เพราะว่าเราไม่เคยใช้ร่างกายหนักขนาดนี้ ออกกำลังกายก็ไม่ขนาดนี้ คือมันตึงไปหมดเลยค่ะ แบบเส้นมันตึงมาก ร่างกายก็คือไม่ไหว ลุกนั่งก็คือลำบากอยู่ค่ะ ช่วงแรกๆ มันปวด มันโอ๊ย ไปหมดเลย เวลาเข้าห้องน้ำก็ต้องค้ำกำแพงไว้ในการนั่งลง ไม่งั้นมันจะทิ้งลงไปเลยทั้งตัว (หัวเราะ) สภาพไม่ได้เลยช่วงแรกๆ”
ตอนซ้อมว่าหนักแล้ว แต่ถ่ายจริง ทั้งโหด ทั้งเหนื่อยไม่เบา “เป็นคนจำคิวบู๊ไม่ค่อยเก่งด้วย พอเป็นคิวบู๊หลายๆคิว ก็จะเริ่มจำท่าไม่ได้ เล่นๆ ถ่ายๆ ก็จะแบบอ๊องนิดหนึ่งว่าท่าต่อไปคืออะไร ครูที่เขามาสอนคิวบู๊เขาก็เลยต้องมาช่วยสอนต่อท่าทีละนิดให้” เวลาเข้าฉากบู๊ๆกับ ยูโรยศวรรธน์ หรือพี่ๆสตันต์แมนแซวเราว่ายังไงบ้าง “ก็มีคุณครูที่สอนคิวบู๊ แล้วก็ผู้กำกับ บอกว่าพี่ขออีกนิดได้ไหม ให้มันดูแข็งแรงกว่านี้อะไรอย่างนี้ค่ะ (ยิ้ม)” มันเหมือนสะกิดใช่เปล่า “ใช่ค่ะ คือเป็นคนที่ไม่กล้าเตะแรงๆ แต่พี่เค้าบอกให้เตะจริงๆ เลย เพราะว่าเราไม่ได้ออกแรงเยอะขนาดนั้น กลัวเขาเจ็บ แต่พี่ๆทุกคนก็บอกว่าเตะมาเลย เตะมาเลย พี่ไม่เป็นไร”
ขึ้นแท่น “นางเอกบู๊” ทำให้สาวเจนนี่ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดความกลัวหลายๆ อย่าง แต่พอถามว่าทำให้ติดอกติดใจละครแนวบู๊แอ็กชันขนาดไหน เจ้าตัวรีบส่ายหัวทันที “น่าจะยังไม่ติดใจค่ะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเกิดว่ามีละครบู๊เข้ามาอะไรอย่างนี้ก็ไม่ได้เกี่ยงว่าจะไม่เล่น อาจจะต้องมีเว้นๆ บ้าง ไปเล่นแนวอื่นมา แล้วก็กลับมาเล่นบู๊ใหม่” ทางหนุ่มยูโรเค้าชื่นชมเราเป็นขาลุยๆ นอนกลางดิน กินกลางทรายได้ มีเหตุการณ์อะไรยังไงเกิดขึ้น “คือมันก็จะมีซีนที่แบบหนูจะต้องลงไปนอน เพราะว่าเราโดนคนร้ายตี แล้วเราต้องลงไปนอนสลบที่พื้น กล้องจับภาพคนอื่นที่ยืนอยู่ แต่เราก็คือนอนอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ลุก เพราะว่าถ้าลุกแล้วถ้ามันต้องลงมานอนใหม่ กลัวว่าเราจะจำมาร์กจุดไม่ได้ก็เลยนอนยาวๆไปเลย นอนเล่นกับใบไม้ เล่นกับหญ้าค่ะ (หัวเราะ)” ยูโรในสายตาเราเป็นยังไงบ้าง “เขาดูเป็นคนที่มีเอเนอร์จีอยู่ตลอดเวลา แล้วก็พวกทีมงานที่อยู่ในกองถ่ายทั้งหมดคือเป็นเพื่อน เป็นพรรคพวกเขาหมดเลย เป็นทีมเขาหมดเลย เขามีเพื่อนเยอะมาก แล้วเขาก็แบบดูไม่เคยว่าง คือหน้าเขาดูเหนื่อย แต่เขาก็ไม่เคยให้ตัวเองได้พัก ก็งงเหมือนกัน คือแบบเหมือนเขาเป็นหมดทุกหน้าที่ เป็นนักแสดง เป็นช่างไฟ เป็นตากล้อง เป็นโน่นเป็นนี่ เขาทำหมดเลยทุกอย่าง ทุกหน้าที่ที่มีในกอง เขาทำหมด เหมาหมดเลยค่ะ (หัวเราะ) ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ยูโรรับจบคนเดียว”
นอกจากโชว์บู๊เดือดๆทุกอีพี พระนางเจอกันทีไรเป็นต่อปากต่อคำเถียงกันตลอดๆ ทำให้มีแฟนๆละครสงสัยจะมีฉากสวีต...หวานหยดกี่โมง?! งานนี้สาวเจนนี่แอบกระซิบ ฉากสวีตๆมีน้อยแต่มีนะไม่ต้องห่วงเลย!...เรียกว่าพอมีให้ฟินกรุบกริบๆ แน่นอน “เท่าที่จำได้ ฉากเลิฟซีนฉากเดียวเลย น้อยมาก แต่ก็เขินอยู่นะคะ เพราะมันเล่นแค่ฉากเดียวเอง ถึงเขินแต่ไม่เขินเท่ายูโร คือเขาถึงขั้นกลั้นหายใจ เขาไม่อยากหายใจใส่เรา แต่เราก็หายใจปกตินะ เพราะรู้สึกว่าถ้ากลั้นหายใจเดี๋ยวมันจะถ่ายต่อไม่ได้ เพราะว่ามันไม่ได้แบบว่าถ่ายแป๊บเดียวเสร็จ มันต้องใช้เวลา ต้องถ่ายหลายมุม เลยรู้สึกว่าถ้าเรากลั้นหายใจตลอด แต่คือยูโรกลั้นหายใจ กลัวกลั้นแล้วตุย จะถ่ายต่อไม่ได้ แล้วจะทำยังไง แบบเห็นอีกทีพระเอกก็คือหน้าเขียวแล้วแบบนี้ ไม่ได้ เขาก็บอก เขาเกรงใจ ไม่กล้าหายใจใส่เรา ก็บอกหายใจมาเลย ไม่เป็นไร เราโอเค เขาคงกลัวเราได้กลิ่นที่ไม่ควรจะได้กลิ่นอะไรหรือเปล่า อย่างนี้ ก็คือเราไม่ติด ก็คือหายใจเถอะ ดีกว่าตุยนะ”
มาอัปเดตงานเรื่องใหม่ๆกันบ้าง สาวเจนนี่แย้มๆให้ฟังว่า...“ตอนนี้ที่ถ่ายอยู่เรื่องพรหมพยศ ก็เหนื่อยเหมือนกัน เพราะโลเกชันหลักมันจะเป็นบ้านเรือนไทย ช่วงนี้อากาศร้อนระอุ แถมบทเรื่องนี้ต้องพูดเยอะมากจนรู้สึกว่าทำไมเขาพูดกันยาวจังเลย ซึ่งขัดกับตัวเองสุดๆ ที่จะพูดให้สั้นที่สุด กับ พรหมพยศ มันยากตรงที่ต้องทำการบ้านหนัก เพราะว่ามันต้องใช้ความจำเยอะ แล้วก็มีดราม่าหนักๆ พอเห็นบทยาวจะรู้สึกต้องทำการบ้านหนักกว่าฉากร้องไห้ กลายเป็นว่าฉากร้องไห้ เราสบายๆ กับมันมากกว่า พอเห็นฉากที่บทยาวทีไรจะตื่นเต้น กลัวลืม อะไรอย่างนี้ค่ะ”
ส่วนความรัก สาวเจนนี่ ยอมรับแบบเขินๆว่าสถานะหัวใจไม่ว่าง โสดไม่ 100% “ก็มีคุยบ้างค่ะ ไม่ได้โสดสนิทร้อยเปอร์เซ็นต์ มีบ้างกรุบกริบนิดหน่อยค่ะ” ถึงขั้นเรียกว่าแฟนได้มั้ย “ยังค่ะ ยังแค่แบบคุยๆ เรียนรู้ เป็นที่สบายใจของกันและกัน ยังไม่ถึงขั้นนั้น” ทำไมยังไม่ถึงขั้นนั้น คำจำกัดความของคำว่าแฟนของเจนนี่คืออะไร “คำว่าแฟนเหรอคะ น่าจะเป็นทุกอย่างให้เรา เป็นทั้งเพื่อน เป็นพี่ เหมือนเราอยู่กับเขา แล้วเราสบายใจ ที่แบบว่าเราสามารถที่จะคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง เราก็พร้อมซัพพอร์ตกัน ช่วยเหลือกันค่ะ” แล้วคนนี้ที่คุยๆ เขามาอยู่ที่สักประมาณกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว “ใกล้แล้วนะคะ ใกล้เต็ม 100 แล้ว ใกล้จะใช้คำว่าแฟน แต่ตอนนี้ใช้คำว่าเฟก่อน หรือจะเฟรนด์ ยังไม่ชัวร์ค่ะ (หัวเราะ)” แต่มีแนวโน้มไปในทางที่ดี “มีแนวโน้มไปในทางที่ดีค่ะ” เขามีคู่แข่งไหม “ไม่มีคู่แข่งค่ะ จะเป็นคนแบบ ถ้าคุยก็คือคุยทีละคน จะมาคุยสองคนพร้อมกันไม่ได้ เพราะมันจะมีคนหนึ่งที่เราจะรู้สึกมากกว่า แล้วอีกคนหนึ่งเราจะไม่อยากคุย เลยคุยทีละคน มันรู้สึกเท่ากันไม่ได้หรอก”
คนที่เราคุยๆอยู่ แล้วบอกว่าเขายังไปไม่ถึง 100 คะแนน ขาดเหลืออะไร “มันเป็นที่ตัวเราเอง มันไม่ใช่ที่ตัวเขา คือเป็นคนที่ไม่กล้าพูดทุกเรื่อง เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าวันหนึ่งมันไปถึงจุดที่ โอเคเราสบายใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เลยว่า เราจะคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง เหมือนคนในครอบครัว ถ้ามันไปถึงจุดนั้นแล้วก็น่าจะแบบโอเค เพราะเหมือนทุกวันนี้ยังมีบางเรื่องที่เรายังไม่กล้าคุยกับเขาค่ะ” ที่บ้านรู้ไหมว่าเรามีคนคุย พาไปเปิดตัวกับที่บ้านหรือยัง “รู้ค่ะ ก็มีเปิดแล้วนิดหน่อย ได้พอเจอกันบ้าง แวบๆ ผ่านๆ ทางบ้านเขาก็โอเค เขาก็แล้วแต่เราค่ะ ว่าเราจะเอายังไง” เป็นคนนอกวงการหรือในวงการ “ว้าย! ขออุบไว้ก่อน รอแบบชัวร์ก่อน พร้อมก่อน ถ้ามั่นใจว่าเป็นคนนี้แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ค่อยว่ากัน เพราะถ้าจะต้องเปิด อาจจะต้องมานั่งคุยกันก่อนว่าทางเขาเองโอเคไหม”.
