'เปา เปาวลี' รับ เครียดคนถามเมื่อไรจะมีลูก ย้อนเล่า เคยผิดใจกับแม่เพราะอะไร
"เปา-เปาวลี พรพิมล" นักร้องลูกทุ่งสาวคนสวย ควง "คุณแม่บังอร" เปิดใจย้อนเล่าเหตุการณ์เคยผิดใจกัน เผยสาเหตุเพราะไม่ปลื้มลูกสาวรีบมีแฟน เผยเครียดทุกครั้งที่ถูกถามเมื่อไรจะมีลูก ทุกประเด็นในรายการ "คุยแซ่บ Show" ทางช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
แม่ลูกคู่นี้ตัวติดกันเลย สนิทกันขนาดไหน?
แม่ : สนิทแบบไปไหนไปด้วยกัน
กิจกรรมที่ชอบทำด้วยกันคืออะไร?
เปา : ร้องคาราโอเกะ ครอบครัวเราขายของตามตลาดนัด หลังจากเลิกงานก็ร้องคาราโอเกะกันทุกวัน
แสดงว่าที่ "เปา เปาวลี" ร้องเพลงเก่งขนาดนี้ เพราะว่าฝึกร้องคาราโอเกะกับที่บ้าน โดยเฉพาะกับคุณแม่ เห็นว่าคุณแม่เป็นครูคนแรกในการสอน?
เปา : ตั้งแต่เกิดมาหนูก็ได้ยินเสียงเพลงแล้ว โดยเฉพาะเป็นเพลงลูกทุ่ง คุณตาก็ชอบร้องเพลง แม่เวลากวาดบ้านถูบ้านทำกับข้าวก็ร้องเพลงลูกทุ่ง มันก็ซึมซับด้วย การที่เราได้จับไมค์ร้องเพลงคาราโอเกะด้วยกันทุกวัน เริ่มแรกก็ไม่ได้จริงจัง เป็นการสนุกสนานมากกว่า พอแม่เห็นว่าหนูร้องเพลงได้ มีลูกเอื้อน แม่ก็จับติวเลย
แม่สอนลูกยังไง?
แม่ : ก็ใช้ฟัง ถ้าฟังแล้วไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ใช่นะ เอาแบบแม่นี่
การที่เปามาเป็นนักร้องอาชีพได้เต็มตัวกี่เปอร์เซ็นต์เพราะแม่?
เปา : ให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ หนูว่าได้ดีเอ็นเอจากแม่ จากการที่เราร้องเพลงได้ ร้องเพลงเป็น เป็นพรสวรรค์ด้วย แล้วก็ได้จากแม่ที่สอนเรามาแต่แรกเลย แล้วก็เป็นคนสนับสนุนด้วย เป็นคนที่ฟังปุ๊บ แก้ไขในสิ่งที่เราต้องแก้ไขได้
สิ่งที่แม่สอนเป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการเอาไปใช้?
เปา : ใช่ค่ะ ใช้ได้หมดเลยจริงๆ ทำให้เรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นด้วย
ได้ไปเรียนกับครูเป็นเรื่องเป็นราวบ้างมั้ย นอกจากแม่?
เปา : ในตอนเด็กๆ แทบจะไม่ได้เรียนเลย แต่เวลาประกวดก็จะได้เจอคุณครูแต่ละท่าน ก็ให้คำแนะนำด้วย ส่วนใหญ่จะแม่ ไม่รู้แม่เอาวิธีมาจากไหน ในการวอร์มเสียง การออกกำลังกาย เหมือนเข้าค่ายมวยเลย
แม่จู้จี้มั้ย?
แม่ : ก็พูดไม่หยุด แต่สิ่งที่พูดเราก็หวังดี
เปา : คือสอนตลอดเวลา จะเรียกว่าจู้จี้มั้ย สอนตลอดเวลา เวลาดูประกวดแล้วมีกรรมการพูด ก็จะพยายามโน้มให้เรื่องนั้นมาเป็นเรื่องเราจนได้
ตอนเด็กแม่สอนลูกแม่ยังไง ให้เป็นศิลปินที่น่ารักในสายตาผู้ใหญ่ได้ตลอดเวลา?
แม่ : แม่เลี้ยงลูกแบบถ้าดีทำ ถ้าไม่ดีอย่าทำ จะสอนอยู่สองคำ แล้วเวลาไปทำอะไรที่ไม่ถูกก็จะถามเขาว่า ที่ทำอยู่มันดีไหม ถ้าเขาบอกไม่ดี ไม่ดีแล้วทำทำไม สอนเบื้องต้นแบบนี้
เห็นว่ามีช่วงนึงเคยผิดใจกันด้วย เรื่องอะไร?
เปา : น่าจะเรื่องความรักเนี่ยแหละ ตอนนั้นมีความรู้สึกไม่เข้าใจกับแม่มากๆ ช่วงที่เริ่มเล่นหนังเรื่องพุ่มพวงแล้ว เจอกับเอิร์ธพอดี เพิ่งเข้าวงการมาใหม่ๆ แล้วเอิร์ธก็เข้าทางคุณแม่ด้วย เราก็แนะนำว่าคนนี้คุยกันอยู่ แต่แม่เหมือนไม่แน่ใจว่าเราสามารถแยกแยะเรื่องรักกับเรื่องทำงานได้หรือเปล่า ก็เลยผิดใจกัน
ผิดใจกันนานมั้ย?
แม่ : ก็เรื่อยๆ (ไม่คุยกันเลยเหรอ) คุยๆ ก็คุยตลอดว่า หนูอย่าเพิ่งมีแฟนได้มั้ยล่ะ เพราะยังเด็กมากเลย เพิ่งจะเข้ามาเป็นนักร้อง เพิ่งเริ่มเลย
น้องเอิร์ธเขาก็เข้าทางแม่ ดูแลแม่ เอาใจแม่นะ?
แม่ : แต่ยังเด็กไง
แล้วตอนนั้นทำยังไงถึงโอเคกัน เอิร์ธถึงเข้ามาอยู่ในชีวิตได้?
เปา : ต้องขอบคุณเอิร์ธที่มีความมุมานะแล้วก็มีความอดทนมากๆ ในตอนแรก เท่าที่จำได้เอิร์ธเข้าบ้านทุกครั้ง ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งพี่ชาย นั่งตัวตรงกันมาก ดูว่าคนนี้มายังไง ไม่คุยกับเขา ดูเชิงก่อน คนนี้เป็นคนแรกเลยที่เข้าบ้านเรา เอิร์ธเขาก็พูดกับหนูว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวสักวันแม่เขาก็เห็นว่าเอิร์ธจริงใจ มาดี
แล้วเขาทำยังไง?
เปา : ทุกๆ ครั้งเขาก็ทำสม่ำเสมอ เวลาพาไปกินข้าว แม่ก็จะออกกฎว่าห้ามกลับหลังจาก 6 โมง
เป็นกฎเหล็กของที่บ้านเลยมั้ย ที่เปาต้องกลับก่อน 6 โมง?
แม่ : ไม่ได้เป็นกฎเหล็กหรอก เป็นที่แม่คนเดียว ไปก็อยากจะให้รีบกลับ
ทำไมแม่ไม่คุยกับน้องเอิร์ธ เขาน่ารักมากๆ เลยนะ?
แม่ : ก็รู้นะเขาก็น่ารัก แต่บอกไม่ถูก กลัวไปหมดทุกอย่าง
เอิร์ธเขาทำอะไรถึงชนะใจเราในสายตาของแม่?
แม่ : พอคิดว่าเขาต้องคบกัน ก็บอกว่าให้เป็นเพื่อนกัน คุยแล้วลูกเราก็มีความสุขที่ได้คุยกัน ก็ไม่ได้ถึงกับห้าม
ดูใจกันนานแค่ไหน แม่ถึงจะพูดคำนี้ออกไป?
เปา : ก็เป็นปีที่ยอมให้คุยเป็นเพื่อนกันไปก่อน ตอนที่แม่เปิดใจรับเอิร์ธเป็นลูกรักเนี่ย น่าจะเป็นตอนที่เอิร์ธกลับจากอเมริกา มาหาบ่อยๆ เอากับข้าวมาให้แม่ แม่เริ่มใจอ่อน
เวลามีคนมาถามว่าเมื่อไรจะมีเบบี๋ ทำไมต้องเครียด?
เปา : ถามทั้งวัน ทุกวัน เจอหน้าก็จะถามเรื่องนี้ ทุกคนละกันที่เจอหน้าเรา ทุกไลฟ์ทุกคอมเมนต์ส่วนใหญ่จะถาม
ต่อจากนี้ไปอยากให้เขาถามไหม หรือไม่อยากให้ถาม?
เปา : ถามได้ แต่ก็จะบอกว่าถ้าเรามีเราก็จะรีบบอกเลย เพราะมันเป็นเรื่องที่ดี ตอนนี้มีหลายข่าวมากเลยว่าท้องแล้ว ท้องแรก ก็จะเข้าใจผิดกันไป บางครั้งข่าวออกไปคนมาแสดงความยินดีกับเรา เราไม่อยากไปช็อตฟีลเขา
ถ้าเกิดไม่ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ได้ไหม?
เปา : ก็คุยกันแล้วว่าเราจะไม่ไปทางนั้น อยากลองธรรมชาติต่อไป ถ้าเกิดน้องไม่มาจริงๆ ก็ไม่เป็นไร
วิทยาศาสตร์คือไม่เอาเลยเหรอ?
เปา : ก็เคยไปตรวจสุขภาพ เคยไปหาหมอแม๊ะ หามาหลายอย่าง มันยิ่งรู้สึกกดดัน
มีอะไรอยากจะบอกลูกไหม?
แม่ : ดีใจและภูมิใจที่ลูกประสบความสำเร็จ เดินตามที่แม่อยากได้แบบนี้ เดินตามที่แม่บอกแม่สอน
เปา : ดีใจ มีทุกวันนี้เพราะว่าคำสอนของแม่ด้วย ดีใจที่แม่อยู่ในทุกๆ โมเมนต์ในชีวิตเลย ผ่านอะไรมาด้วยกันหลายๆ อย่าง แม่เป็นคนที่เก่งและเป็นตัวอย่างที่ดีกับหนูมากๆ อยากให้แม่รักษาสุขภาพ
