Inside Dara
โควิดทำพิษหนัก เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ตัดใจยอมให้ศิลปินในค่ายฉีกสัญญาได้

ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักเลยทีเดียว สำหรับค่ายเพลงดัง ได้หมดถ้าสดชื่น ของ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ ทำให้รายได้ตอนนี้ลดน้อยลงอย่างมาก

ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจประกาศให้น้องๆ ศิลปินในค่ายได้ทราบว่า หากใครต้องการที่จะมีทางเดินของตัวเอง ทางค่ายก็พร้อมยกเลิกสัญญา ไม่อยากบีบบังคับจิตใจใครเพียงเพราะยังมีสัญญาผูกมัด แม้ที่ผ่านมาเรื่องส่วนตัวของตนเองจะกระทบกับค่าย แต่เรื่องงานก็ไม่เคยหยุดพัก รับน้องๆ ทุกคนเข้ามาเพราะความเมตตา ไม่อยากให้ทุกคนต้องผิดหวังและร้องไห้กลับบ้าน

ซึ่งในแชตนั้น หลังจากที่ เจนนี่ ได้แจ้งให้เด็กๆ ในค่ายได้ทราบ ทุกคนก็พร้อมใจกันบอกว่า ยังคงสู้กันต่อ เพราะมีความฝันของตัวเอง ถ้าไม่มีโอกาสวันนั้นก็คงไม่มีวันนี้

ด้าน เจนนี่ ก็ได้บอกกับเด็กๆ ทุกคนในค่ายว่า ไม่ต้องกลัวว่าตนเองจะเสียใจ เพราะวันหนึ่งต้องจากกันอยู่ดี และจะทำให้เต็มที่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าตอนนั้นมันติดสถานการณ์โควิด ต้องอดทนกันอีกนิด แล้วจะผ่านไปได้

"จะช้าหรือเร็วทุกคนก็ต้องจากกันอยู่ดี ในสถานการณ์แบบนี้ อย่าเอาเรื่องสัญญามาผูกมัด คนจะอยู่ต้องอยู่ด้วยความเต็มใจ ใครจะไปก็ขอให้โชคดี ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เราภูมิใจเพราะอย่างน้อยที่ผ่านมาเราได้มอบโอกาสที่ดีที่สุดให้กับทุกคนแล้ว"

ซึ่งคนที่ติดตามต่างก็เข้ามาให้กำลังใจ เจนนี่ และเด็กๆ ในค่ายกันเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบอกว่า นับถือในน้ำใจของ เจนนี่ มากจริงๆ แม้จะมีข่าวด้านลบเยอะ แต่ เจนนี่ ก็เก่งมาก สามารถก้าวข้ามมันไปได้.

แม่แจงยิบ เจนนี่ดูแลเด็กในค่ายเหมือนครอบครัว ให้ทุกอย่างที่ทำได้ แต่ทำไมโดนโจมตีสารพัด

วันต่อมาหลังจาก เจนนี่ รัชนก ประกาศว่าจะยอมฉีกสัญญาให้ศิลปินในสังกัด หากใครต้องการออกจากค่าย

ในด้านของแม่เกตุ แม่ของเจนนี่ ล่าสุดก็โพสต์ เฟซบุ๊ก ให้กำลังใจลูกสาว บอกว่าที่ผ่านมาเจนนี่ทำดีที่สุดแล้ว ดูแลเด็กทุกคนเหมือนคนในครอบครัวพร้อมยกตัวอย่างสิ่งเจนนี่ทำให้ ซึ่งในตอนท้ายของข้อความเธอยังเผยใจด้วยว่า ‘ลูกให้เขาทุกอย่างเหมือนคนในครอบครัว แต่มาวันนี้ทำไม่น้องๆเล่านี้ มาด่า มาว่า สระพัด โจมตีทุกอย่าง

“พี่สาวของน้องๆ อายุเพียง 25 ปี ทำได้แค่นี้มันสุดแล้วค่ะ แม่ยังนับถือหัวใจของลูกเลย สู้ต่อไปนะ

รัชนก ของแม่ฝากลูกๆที่ออกจาก ค่าย แล้วด้วยค่ะ ช่วยจดจำสิ่งที่ดีๆครอบครัวนี้ด้วย อย่าทำร้ายกันเลยนะต่างคนต่างอยู่ สู้ต่อไป’

สำหรับรายละเอียดเต็มๆที่เธอเขียนไว้มีอยู่ว่า‘เธอคือนักสร้างนะลูกไม่มีใครทำเหมือนเธอ เข้ามาวันแรกลูก

ต้อนรับอย่างดี รอยยิ้มของนักสู้ทุกคน สอนให้พวกเขาร้องเป็น สอนให้เขาเต้นเป็น สอนให้เขาแสดงเป็น ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับเด็ก กินข้าวพร้อมเด็ก ให้กำลังใจเด็ก คุยกันอย่างมีความสุข ให้เด็กนอนในค่ายถึง 40 คน พอเด็กนอนไม่พอ ต้องไปเช่าบ้านให้นอนหน้าค่าย 4 หลัง หลังละ 8000 บาท รวมเดือนละ 32000 บาท บางห้องใช้พัดลมบางห้องใช้แอร์ แม่ยังจำได้ช่วงน้องๆร้อน ลูกมาบอกแม่ขอแอร์ให้เด็กทุกห้องนะคะแม่จัดการให้เด็กๆ ค่าไฟรวมเดือนละ 20000 – 30000 บาท

สั่งแม่ทำอาหารให้น้องกินให้ดีที่สุด ให้พวกเขาอยู่กับเราให้ได้เพราะน้องมาจากต่างจังหวัด ต้องดูแลน้องๆให้ดี แม่บ้าน 3 คน คนขับรถ 3 คน ช่วยกันดูเหมือนลูกของตัวเอง สอนบาง ตักเตือนบาง ให้น้องๆมีระเบียบวินัย อย่าให้ใครว่าน้องๆได้ ทุกอย่างที่ลูกทำให้ทำด้วยใจ ไม่เคยแสแสร้ง ทำเพื่อน้องทุกคนที่ออกไปมีคุณภาพสอนให้ใช้ชีวิตอย่าประมาท รักกันเหมือนคนในครอบครัว ฟรีทุกอย่าง เพื่อให้น้องมีงาน มีเงิน ยิ้มดีใจมีความสุขทั้งคนรับ และคนให้

พอ แม่บอกอยากไปเที่ยวลูกบอกไปกันเลย แต่แม่ต้องพาน้องๆไปด้วยนะ ลูกให้เขาทุกอย่างเหมือนคนในครอบครัว แต่มาวันนี้ทำไม่น้องๆเล่านี้ มาด่า มาว่า สระพัด โจมตีทุกอย่าง

“พี่สาวของน้องๆ อายุเพียง 25 ปี ทำได้แค่นี้มันสุดแล้วค่ะ แม่ยังนับถือหัวใจของลูกเลย สู้ต่อไปนะ

รัชนก ของแม่ฝากลูกๆที่ออกจาก ค่าย แล้วด้วยค่ะ ช่วยจดจำสิ่งที่ดีๆครอบครัวนี้ด้วย อย่าทำร้ายกันเลยนะต่างคนต่างอยู่ สู้ต่อไป’