Inside Dara
“เบญ” งง! เป็นดาวรุ่งติ๊กต่อกดังแซงหน้าดารานักแสดง แขวนป้ายสถานะ “โสดแต่มีคนคุย”

ขึ้นแท่นนักแสดงสาวมากฝีมือตีบทแตกมาตลอด นางเอกสาว เบญ–เรวิญานันท์ ทาเกิด สร้างความปังกับละคร “ใต้หล้า” ที่ผ่านมา ล่าสุดได้มาเล่นละครเรื่อง “มณีพิศวาส” ช่องวัน 31 กับบทผีสาวถ่ายทอดความรักความแค้นข้ามภพชาติ ทำเอา เบญ ดีใจที่ได้รับบทบาทท้าทายสุดๆ เผยในวันบวงสรวงละครที่ตึกแกรมมี่ว่า

“ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะหนักค่ะ แต่ทุกครั้งที่เล่นไปถามว่าเหนื่อยมั้ย มันเหนื่อย แต่ก็สนุกมาก และเป็นเรื่องที่ท้าทายเรื่องนึงในชีวิตเลย มันยากที่สุดแล้ว เพราะตอนเรื่องใต้หล้าผลตอบรับออกมาดี คนคาดหวังเรา พอมาเล่นเรื่องนี้เรายิ่งต้องทำให้มันดี ไม่อยากให้คนดูผิดหวังค่ะ”

ความคาดหวังเป็นแรงกดดันมั้ย?

“ไม่ได้กดดันนะคะ แต่มันทำให้หนูพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น”

แต่ละเรื่องที่จะรับก็ต้องคิดเยอะมั้ย?

“คิดเยอะค่ะ เพราะหลังจากจบใต้หล้ามา แต่เรื่องนี้โชคดีที่ได้รับโอกาสดีๆจากทางผู้ใหญ่ คือพอจบใต้หล้าเค้าก็ส่งบทเรื่องนี้มาให้เลย พอเราอ่านแล้ว เฮ้ย มันสนุก และเป็นบทที่ใหญ่มาก เป็นตัวดำเนินเรื่องของเรื่องทั้งหมดเลย มันเหมือนเป็นเรื่องของเราเลย ก็ตกลงรับเลย แล้วพี่ป้อน-นิพนธ์ ก็บอกว่าอีก 2 อาทิตย์เปิดกล้องนะ คือมันแทบจะไม่ได้เตรียมตัว ก็กึ่งดีใจกึ่งตกใจ ตอนแรกคิดว่าเป็นผีที่น่ากลัวกว่านี้ แต่พอถ่ายไปๆมันไม่ได้น่ากลัวเลย เป็นผีหน้าตาดีด้วยซ้ำ”

เรื่องนี้มีหลายอารมณ์?

“เราไม่เคยเล่นเป็นผี พอเป็นผีที่มีพลังอำนาจมีของในตัว มันต้องเล่นทั้งตัว ด้วยคำพูดต้องดัดอีกเสียง ต้องคุมตัวเองทั้งร่างกาย สรีระต่างๆด้วยมันเกร็งไปหมด มีเล็บติดเล็บ โลเกชันก็ต้องไปป่าไปเขาอีก ที่สุดแล้ว”

เรื่องความรักบ้าง มีข่าวว่ากำลังคุยกับหนุ่มผู้ประกาศข่าว?

“ก็อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไป ก็ยังคุยกันอยู่ค่ะ ยังไม่ได้เขยิบสถานะค่ะ เค้าก็ยังไม่ได้พูดอะไร ก็คุยกันมาสักพักแล้วค่ะ แต่ด้วยเรื่องนี้หนูทำงานค่อนข้างจะหนักมาก เอาง่ายๆไม่ได้เจอกันเลย”

แต่ก็ยังคุยกัน?

“มีค่ะ ก็ยังมีคุย เวลาเหนื่อยๆก็มีคุยกันบ้าง แต่ที่ยังไม่มีการพัฒนา เพราะยังไม่มีเวลาที่จะมาเรียนรู้จริงจังกัน”

เค้าเข้าใจเรามั้ย?

“เค้าก็เข้าใจค่ะ เพราะก่อนที่เค้าจะมาคุยกับเบญ เค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราทำงานค่อนข้างที่จะหนัก เรื่องนี้มันหนักด้วย หนูทำงาน 4 วัน 7 โมงถึง 4 ทุ่ม แทบจะทุกวัน ด้วยงานของเค้าด้วย ถึงได้บอกว่าไม่มีเวลา เพราะด้วยเค้าก็ทำงานทุกวัน เยอะกว่าเราอีกด้วยซ้ำ คือ 7 วันเลย”

เป็นการคุยกันแบบโตขึ้น?

“ใช่ค่ะ เหมือนผู้ใหญ่คุยกันมันไม่ใช่เด็กๆแล้วที่ต้องเจอ ต้องนู่นนี่”

จากระยะเวลาที่คุยกันพัฒนาขึ้นบ้างมั้ย?

“ก็นิ่งๆค่ะ แต่ก็ยังไปต่อได้ เพราะด้วยตอนนี้หนูไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องมีความรัก ตอนนี้หนูโฟกัสที่งาน”

มีใครเข้ามาเพิ่มมั้ย?

“ยังไม่มี ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ทำงานหนักแล้ว ไม่ได้ไปเจอเพื่อน”

แต่ก็เปิดรับใครเข้ามาได้อยู่?

“เปิดนะ แต่มันยังไม่มีใครที่ชัวร์”

สถานะก็เรียกว่าสาวโสด?

“ค่ะ โสดแต่มีคนคุย (หัวเราะ)”

ถามเรื่องที่ตอนนี้กลายเป็นดาวติ๊กต่อกไปแล้ว?

“ดาวติ๊กต่อกค่ะ ดีค่ะ ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็มีคนเข้ามาทัก ล่าสุดมีวันนึงไปร้านกาแฟก็มีคนเดินเข้ามาทัก ถามว่าพี่เป็นดาวติ๊กต่อกป่ะ เดี๋ยวนะ ฉันเล่นละครมา 7-8 ปี เป็นนักแสดง จำฉันได้มั้ย (หัวเราะ) ก็เลยบอกเค้าไปว่า อย่าเรียกว่าดาวติ๊กต่อกค่ะพี่ เรียกว่าเล่นติ๊กต่อกก็พอ คือมันเป็นช่วงที่เราคลายเครียดได้ อย่างว่างจากถ่ายละคร 2-3 วันไม่รู้จะทำอะไร ก็นั่งสไลด์ดูติ๊กต่อก เห็นคลิปนี้น่าเล่นก็ทำตาม และหนูตั้งเป้ากับตัวเองว่า ถ้าใครอยากดูสวยไปดูในไอจี แต่ถ้าใครอยากคลายเครียดไปดูในติ๊กต่อก จะได้มีหลายแบบให้คนดู ทุกวันนี้คนหันมาเล่นติ๊กต่อกมากขึ้น มีคนจำหนูได้จากติ๊กต่อกคือเยอะมากๆ อันนี้ต้องยอมรับจริงๆ เวลาไปต่างจังหวัดหนูยังอึ้งอยู่เลยว่าทำไมเค้าจำได้ เค้าบอกหนูติดตามพี่ในติ๊กต่อกนะ หรือป้าๆที่อายุค่อนข้างที่จะเยอะเค้าก็ยังดูเลย ก็แสดงว่าติ๊กต่อกมันทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น”

แบบนี้เวลาจะทำคลิปแต่ละครั้งเราคิดหนักมั้ย?

“หนูไม่ค่อยคิดหนัก เวลาเลื่อนเจออะไรจะเซฟไว้ พอว่างก็จะอัดทีวันละ 3-4 คลิป เราก็ไม่ได้เล่นทุกวันนะ ทำสต๊อกไว้ ก็มีบางอันที่หลายเทกอยู่นะ อันที่เป็นคอนเทนต์ยาวๆ”

ตั้งเป้าไว้มั้ยว่าอยากมียอดคนฟอลโล เยอะแค่ไหน?

“หนูตั้งเป้าว่าหนูต้องได้ล้านฟอลโลแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ 9 แสนแล้ว อีกหนึ่งแสนนะคะ(ยกมือไหว้)”.