อีฟ อภิสร์ญา ดีใจมูฟออนจาก เสก โลโซ ได้ ลั่นไม่คิดกลับไปอยู่จุดเดิม
ยังคงเป็นเรื่องคาราคาซังไม่อยู่เหมือนเดิม สำหรับครอบครัวของ เสก โลโซ ที่ กานต์ วิภากร ท้าให้ แซนวิช ปภาดา ตรวจDNA ของลูก โดยล่าสุด บันเทิงไทยรัฐ ได้มีโอกาสเจอกับ อีฟ อภิสร์ญา อดีตคู่หมั้นของ เสก โลโซ ผู้ที่ กานต์ เคยแท็กทีม แซนวิช มาไล่ออกจากบ้านไป โดย อีฟ บอกว่า ถ้าให้กลับไปหา เสก เหมือนเดิมก็ไม่ไปแล้ว เพราะตัวเองได้หลุดพ้นและออกมาจากจุดนั้นได้ ส่วนเรื่องตรวจ DNA ของลูกแซนวิชนั้น อยากให้เคลียร์กันให้จบ เพราะอนาคตน้องโตจะต้องมาเห็นข่าวที่ไม่ดีของตัวเอง
“กลับมารับงาน กลับมาอยู่คนเดียว แล้วก็ดูแลคุณแม่อยู่ที่บ้าน”
หลายคนคิดว่าเราไปอยู่กับ เสก โลโซ เพราะไม่มีที่อยู่?
“ใช่ค่ะ แต่จริงๆ แล้วมีบ้านอยู่แล้ว ก็คืออีฟซื้อมาแล้ว 12 ปีแล้ว ซื้อจากน้ำพักน้ำแรงเราค่ะ อยู่กับแม่ 2 คน”
เราเป็นเสาหลักของบ้าน?
“ก็คือตั้งใจเต็มที่ทำเพื่อแม่ค่ะ”
อยู่กัน 2 คนไม่เหงาเหรอ?
“ไม่ค่ะ อยู่กันมาตั้งแต่เกิดแล้วไม่เหงา อยู่กับแม่ตลอด”
ตอนนี้โสดมั้ย?
“โสดค่ะ”
คนจีบเยอะมั้ย?
“ก็มีบ้างค่ะ”
เป็นคนในวงการมั้ย?
“มีบ้างค่ะ แต่เราก็คุยๆ ไม่ได้จริงจัง”
เข็ดมั้ยที่ผ่านมา?
“จริงๆ เรื่องความรักมันก็ไม่เข็ดหรอกเนอะ ไม่มีใครเข็ดหรอกถ้ามันมีเข้ามา แต่เราก็ไม่ได้ปิดนะ แค่ไม่ได้เปิดใจ”
ต้องเคลียร์ก่อนว่า เสี่ยโป้ ไม่ได้มาจีบ?
“ไม่ค่ะ คือพอจบงานไปก็ไม่ได้อะไรเลย อีฟติดต่อทางแม่บาน (แม่เสี่ยโป้) มากกว่าค่ะ”
มีไลน์คุยกันมั้ย?
“ไม่มีค่ะ ส่วนมากจะคุยกับแม่มากกว่าค่ะ”
ไม่เข็ดความรัก แล้วยังคิดถึงพี่เสกอยู่มั้ย?
“ในฐานะคนเคยรักก็ยังมีคิดถึงมีอะไรอยู่บ้างค่ะ”
ได้คุยกับพี่เสกมั้ย?
“มีคุยบ้างค่ะ แต่อีฟจะไม่ทักไปหาเค้าก่อน พอตั้งแต่เราทักไปเค้ามีการโพสต์ขึ้น เราเลยบอกว่า เราไม่ทักแล้วนะ แล้วเค้าจะเป็นฝ่ายทักมา”
ส่วนใหญ่ พี่เสก จะทักอะไรอีฟบ้าง?
“ส่วนใหญ่เค้าก็จะทักว่าทำอะไร เป็นยังไงบ้าง มีงานมั้ย ก็เหมือนถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไปค่ะ”
เอาจริงๆ แกก็เป็นห่วงเสมอ?
“ใช่ค่ะ”
ได้มีโอกาสเจอกันอีกมั้ย?
“ถ้าเกิดนัดเจอกันโดยตรงคงยาก เพราะเราไม่อยากมีปัญหา เหมือนเราออกมาจากตรงนั้นแล้ว เหมือนเราไม่อยากจะกลับไปอยู่ตรงนั้น และทำให้คนอื่นมีปัญหากันรวมถึงตัวเค้าด้วย”
ตอนนี้ถอยจากพี่เสก 100% แล้ว?
“ใช่ค่ะ แต่ว่ายังเป็นห่วงในฐานะคนเคยรู้จักกัน เป็นในฐานะอื่นมากกว่า แต่ถ้าจะคุยก็คุยแบบเป็นพี่น้องกันแค่นั้นค่ะ ไม่ได้กลับไปเหมือนเดิม”
ไม่เสียดายความรู้สึกที่รู้จักกันมา?
“ค่ะ ใช่”
ยังห่วงเรื่องสุขภาพพี่เสกอยู่มั้ย?
“ใช่ค่ะ ยังห่วงเหมือนเดิม แต่ล่าสุดเห็นเค้าไปหาหมอ ก็โอเคค่ะ เบาใจไป”
ก็ยังรักในฐานะอื่น?
“ใช่ค่ะ ในฐานะพี่ชาย เราไม่กลับไปแย่งชิงอะไรแล้ว”
ถ้าย้อนกลับไปมองตอนนี้เรารู้สึกยังไง?
“เหมือนเราโชคดีที่เราหลุดออกมาแล้ว”
ถ้าพูดตรงๆ เหมือนเป็นวิบากกรรมมั้ย?
“ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะตอนที่เราอยู่กับเค้า เราก็รักและมีความสุขตรงนั้น”
กับข่าวของ แซนวิช เรื่องตรวจ DNA เรามองว่ายังไงบ้าง?
“คือเรามองว่ามันก็คือปัญหาของผู้ใหญ่ค่ะ อยากให้เค้าคุยเคลียร์ให้จบค่ะ ถ้าเกิดปล่อยไว้อย่างนี้ มันก็คาราคาซังเนอะ แล้วเรื่องเด็กด้วย เรามองว่าถ้าวันหนึ่งเด็กโตขึ้นไป เค้าก็ต้องมาเห็นข่าวตัวเอง มันดูไม่ดี”
อีฟ เคยบอกว่า จริงๆ ก็มองรูปการณ์ออก เพราะเค้าอยู่ด้วยกัน 2 คน วันหนึ่งมันอาจจะแตกหัก เพราะด้วยความใจร้อน?
“ก็ด้วยค่ะ อีฟว่าคงไม่ใช่แค่อีฟคนเดียวมั้งคะ คนอื่นก็น่าจะมองออก”
ส่วนตัวไม่อยากพูดถึงแล้ว?
“ใช่ค่ะ แต่ก็อยากให้เคลียร์ เพราะตอนที่คุยกับพี่เสกล่าสุด พี่เสกเค้าก็แบบเออทำอะไรบ้าง เพราะยังไงพี่เสกเค้าก็คนกลางค่ะ คนที่จะจบปัญหานี้ได้ก็คือพี่เสก”
หลายคนสงสัยว่า เวลามีปัญหาอะไร พี่เสกเค้ามักจะลอยตัว?
“ใช่ค่ะ อาจจะไม่ลอยตัว แต่เค้าเหมือนจะป่วยมั้งคะ เค้าไม่อยากรับรู้ปัญหาอะไร เพราะเค้ามองว่า แก้อะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้”
ที่น้องเสือโพสต์เป็นห่วงมั้ย?
“คือพื้นฐานน้องเสือเค้าเป็นคนจิตใจดีนะคะ เท่าที่เคยรู้จักในระยะเวลาหนึ่งที่เราเคยได้คุยนะคะ ก็คิดว่าน้องเค้ามีส่วนช่วยพ่อเค้าได้”
ถ้าสมมติมีโอกาสได้มาเจอกัน เจอกันได้มั้ย?
“โหย ถ้าแบบนั้นเราหลุดมาแล้ว เราคงไม่กลับไปแล้วนะคะ”
อยากฝากอะไรถึงชาวโซเชียลมั้ย?
“คือบางคนเค้าจะมองประเด็น บางคนเค้าเห็นเราคุยกับพี่เสกอยู่ เค้าก็จะบอกว่า ไหนจะ Move on ไม่ Move on จริงนี่นา แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ที่เราคุยเราไม่ได้คุยเพื่อจะกลับไป หรือเรายังโหยหาเค้าอยู่ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ คือเราก็ชัดเจนตามที่เราพูด เราออกมาแล้ว เราไม่มีกลับไปอยู่แล้วค่ะ แต่อย่างโลกโซเชียล เราก็มองว่า อย่างการบูลลี่เด็ก อีฟมองว่ามันแรงเกินไป อยากจะขอตรงนี้ด้วยค่ะ”.
