Inside Dara
แฉวงการพริตตี้สายดาร์ก N V กรุ๊ปลับ เซ็กซ์วิตถาร 4 พันยัน 2 หมื่น!

จากปัญหาการค้าน้ำกามในสมัยก่อนที่มีเพียงซ่องโสเภณี ที่คอยให้ชายเปลี่ยวหนีเที่ยวหาความสุขชั่วข้ามคืน หรือไม่กี่ชั่วโมง แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนา สิ่งอำนวยความสะดวกสามารถส่งถึงมือได้เพียงแค่ปลายนิ้ว เช่น การส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ แต่ที่น่าตกใจ คือ "การค้าบริกาม” ก็สามารถสั่งและส่งสาวสวยแบบเดลิเวอรี่ถึงที่ได้แล้ว เพียงแค่มีกรุ๊ปลับเฉพาะ ก็สามารถสอดส่อง คัดสรรสาวหน้าตาดี พร้อมเสิร์ฟความสุขีได้ถึงที่ห้องนอนเลย

ปีที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่สะเทือนวงราชการ คือ คดีแก๊งนกฮูก บ้านน้ำเพียงดิน เจ้าหน้าที่ได้มีการเดินหน้าจับกุมผู้เกี่ยวข้อง แต่..การทำนาบนหลังคน หากินกับหญิงสาวกลับไม่หมดไปจากสังคม และยังคงดำเนินต่อเนื่องมาโดยตลอด

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการเปิดเผยเรื่องราวน่าตกตะลึง ว่า การค้าประเวณียังถูกสอดแทรกในทุกวงการ แม่เล้าที่ทำอาชีพนี้กลับมีอายุน้อยลงทุกวัน ไม่เว้นวงการขายความสวยงามในวงการ “พริตตี้”

ทีมข่าวได้พบกับ พริตตี้สาวคนหนึ่ง สวยใส วัยเพียง 30 ปี ที่ยอมเปิดเผยเบื้องลึกว่าช่วงชีวิตหนึ่งเธอเองก็เคยเป็น “แม่เล้า” ส่งเด็กสาวสวยวงการพริตตี้ให้บริการแขกกับวงสังคมชั้นสูง กลุ่มราชการ หรือไม่เว้นแต่วงการบันเทิง!

จากพริตตี้กลายเป็นแม่เล้า เรต 4,000 ยัน 20,000 เป็นเพื่อนเที่ยวถึงขั้นมีเซ็กซ์

ไอซ์ (นามสมมติ) อดีตแม่เล้าที่ยึดอาชีพเป็นหน้าฉากพบปะผู้คนมากมายในสังคม ยอมรับว่าเธอเคยเป็นโมเดลลิ่งส่งเด็กสาวเสิร์ฟกามให้กับเสี่ยๆ กระเป๋าหนัก คนมีหน้ามีตาในสังคมมานานเกือบ 5 ปี เปิดเผยว่า การหาความสุขจากเด็กสาวสักคน วิธีการนั้นไม่ยาก... ก็แค่พยายามหาเข้ากลุ่ม(ไลน์)ลับ แล้วบอกสเปกมาว่าต้องการสาวแบบไหน เราก็พร้อมจะหาสาวสวย น่ารัก มาเสิร์ฟให้ถึงที่

“ก่อนที่จะมาทำงานด้านนี้ ไอซ์ทำงานพริตตี้มาตั้งแต่อายุ 19 จนกระทั่งอายุ 25 ปี มีคนมาชักชวนให้หาเด็กมาขายบริการ จึงตัดสินใจทำเป็น “อาชีพเสริม” รายได้เดือนนึง ประมาณ 5-7 หมื่นบาทต่อเดือน”

จากนั้นเธอได้สาธยายขั้นตอนการทำงานของเด็กสาวที่หวังได้เงินทางลัดว่า..

การหาเด็ก จะเริ่มจากที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาผ่านกลุ่มไลน์ลับที่เปิดขึ้นมา ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลับๆ แบบนี้หลายกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มมากกว่า 300 คน ซึ่งสมาชิกในกลุ่มจะเป็นสาวๆ ร้อนเงิน หรือที่ต้องการรวยทางลัด โดยไม่มีการบังคับหรือล่อลวงแต่อย่างใด

เมื่อมีลูกค้าติดต่อเข้ามา เช่น กำหนดสเปกที่ต้องการ คือ ขาว สวย หมวย อึ๋ม ตัวเล็ก หน้าอกใหญ่ เราก็จะเอาสิ่งที่ลูกค้าต้องการประกาศหาเด็กลงในกลุ่มลับ หากเด็กคนไหนสนใจและคิดว่าตรงตามสเปก ก็จะส่งโปรไฟล์ตัวเอง ประกอบด้วย รูป ชื่อ สัดส่วน ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ และเบอร์โทรติดต่อกลับ ส่วนเรตราคานั้น ลูกค้าจะเป็นคนเสนอมาให้ เช่น ราคาสำหรับ VIP จะคิด 5,000 บาท พร้อมระบุรายละเอียดของงานว่าจะทำอะไรได้บ้าง เช่น ประตูหน้า ประตูหลัง เป็นต้น

VIP หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์ หรือเรียกอีกแบบว่า “การขึ้นงาน” ราคาจะอยู่ในเรต 4,000-20,000 บาท

“เอ็นเตอร์เทน” หรือ เพื่อนเที่ยว การกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ ราคาตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป

อดีตแม่เล้าสาว เผยอีกว่า เมื่อลูกค้าเลือกเด็กได้แล้ว ลูกค้าต้องโอนเงินมาให้โมเดลลิ่งก่อนที่จะเจอเด็ก เพื่อทำการหักหัวคิว ซึ่งการหักหัวคิวจะได้น้อยหรือมากขึ้นอยู่กับงาน ถ้าได้เงินมากก็หักมาก เงินน้อยก็หักน้อย เช่น ได้มา 4,000 บาท จะหักหัวคิว 1,000 บาท โดยโมเดลลิ่งจะเป็นคนพาเด็กไปส่งถึงที่ หรือนัดแนะสถานที่เพื่อให้เด็กมาหาลูกค้าเอง

ปัญหาที่พบคือ “เด็กไม่ตรงปก” อ้างว่าตัวเองตรงกับที่ลูกค้าต้องการ แต่เมื่อมาพบกันจริงๆ กลับไม่ใช่ แม่เล้าก็จะเป็นคนไล่ให้เด็กคนนั้นกลับทันทีโดยที่ไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว

แฉลูกค้าหลายประเภท นักธุรกิจ ข้าราชการ ดารา! ก็มีมาใช้บริการ

พริตตี้สาว อดีตเจ้าของโมเดลลิ่ง กล่าวต่อว่า ลูกค้าที่ติดต่อกับ ไอซ์ ส่วนใหญ่เป็นคนรู้จัก หรือบางครั้งจะเป็นการรับงานต่อจากโมเดลลิ่งใหญ่ ที่รู้กันเป็นเครือข่าย ส่วนลูกค้าขาประจำ ก็มีจากหลากหลายอาชีพ ส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจ มีบ้างที่เป็นข้าราชการ หรือแม้กระทั่งดารา ซึ่งเป็นคนดังระดับประเทศ ถ้าเอ่ยชื่อมาทุกคนรู้จักแน่ๆ (ไอซ์กล่าวพรางหัวเราะแบบมีเลศนัย) ส่วนจะเป็นใครนั้นไม่สามารถบอกได้ เพราะถือเป็นความลับของทั้ง 2 ฝ่าย ข้อมูลลูกค้า หรือแม้กระทั่งเด็กไซด์ไลน์ เราก็พูดไม่ได้ เพราะถือเป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย

“พริตตี้ที่รับงานในกลุ่มของไอซ์ มีทั้งนักศึกษา หรือคนที่เรียนจบแล้ว หรือคนทำงาน อายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไป มากสุดก็ประมาณ 34-35 เดี๋ยวนี้เขาโกงอายุกันได้ สวยด้วยมีดหมอ เรียกว่า อายุก็ประมาณ 30 ทั้งนั้น แต่หน้าตายังเด็กอยู่ ส่วนอายุน้อยๆ 15-16 นั้น ไม่มีมาทำ เพราะพริตตี้ส่วนมากก็อายุเกิน 20 ปีแล้วทั้งนั้น คนที่ยอมทำงานนี้ สาเหตุหลักคือต้องการเงินเพื่อใช้จ่าย บ้างก็มีปัญหาทางครอบครัว ความยากจน ทำให้ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องเอาตัวเองมาขาย” ไอซ์ กล่าวอย่างเศร้าๆ

เมื่อถามถึงความโหดเหี้ยมของการทำงานสายนี้ โมเดลลิ่งสาวที่เคยทำอาชีพนี้มายาวนาน 5 ปี บอกว่า ลูกค้าที่ชอบความรุนแรงทางเพศก็มีเข้ามาเหมือนกัน เด็กบางคนรับได้ แต่บางคนก็ขอบาย แต่ลูกค้าบางคนก็ไม่ยอมบอกว่าชอบซาดิสต์ เด็กบางคนไปเจอหน้างาน เจอลูกค้าซาดิสต์ หรือขอเข้าประตูหลัง หรือบางทีไปเจอการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การเสพยาเสพติดชนิดต่างๆ แล้วเชิญชวนให้เด็กร่วมเสพยาระหว่างมีเพศสัมพันธ์ แต่..ถ้าเด็กรู้สึกว่า ลูกค้ากระทำการเกินขอบเขตที่ตกลงกัน เด็กสามารถโทรหาโมเดลลิ่งเพื่อต่อรองกับลูกค้าได้ ถ้าไม่ยอมจริงๆ ทางโมเดลลิ่งใหญ่ที่เป็นคนดูแลกรุ๊ป จะส่งคนมาเคลียร์ปัญหาให้

ศีลธรรม มีในใจไหม..ส่งเด็กค้ากาม ทีมงานถาม ไอซ์ตอบสวนอย่างรวดเร็วว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นคนรับงานเอง จึงรู้สึกเฉยๆ ใช้ชีวิตตามปกติ ครอบครัวก็รู้ก็ไม่ได้ว่าอะไร วงการนี้ก็รู้กันอยู่แล้ว เป็นวงจำกัด “ไม่ใช่ว่าจะดึงใครเข้ากรุ๊ปได้ คนภายนอกก็ไม่รู้” ถ้ามองแบบคนโลกสวย ถามว่าผิดศีลธรรมมั้ย ยังไงก็ผิด แต่ไอซ์เป็นคนมองโลกปกติ เลยไม่รู้สึกอะไร เพราะคนที่มาทำก็ไม่ได้โดนบังคับ เขาจะรู้กันในวงการพริตตี้ คงไม่มีใครแอ๊บใสๆ เข้ามาทำ คนที่จะเข้ามาในกรุ๊ปนี้ได้ ต้องเป็นคนเจนจัดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า กลัวโดนจับหรือไม่ แม่เล้าสาว ตอบว่า มีกลัวบ้าง แต่เราเป็นโมเดลลิ่งเล็กๆ คนที่จะเครียดน่าจะเป็นกลุ่มโมเดลลิ่งใหญ่มากกว่า โดยเฉพาะคนที่สร้างกลุ่มนี้ขึ้น เชื่อว่ามีการจ่ายเงินส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงบางคน ซึ่งถามว่าปลอดภัยแน่ๆ หรือไม่ ก็ตอบยาก เพราะบางครั้งการจะดึงคนเข้ากลุ่มก็อาจจะมีการแฝงตัวเข้ามาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว...

อดีตแม่เล้าสาว กล่าวเตือนไปยังคนที่คิดจะทำงานนี้ว่า “ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่าการมาเป็นเด็กไซด์ไลน์ ก็ทำอย่างอื่นเถอะ เพราะงานแบบนี้ได้เงินเยอะจริง แต่มันคุ้มมั้ยกับร่างกายที่ต้องเจอ ต้องทนกับสิ่งที่เข้ามา”

เปิดงานวิจัย ค้าบริการทางเพศ เงินหมุนเวียนนับแสนล้าน

หากพูดถึงคนที่เชี่ยวชาญและเป็นกูรูด้านนี้ ทุกคนคงนึกถึง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดชื่อดัง เรียกว่าเขานี่แหละ รู้ลึกรู้จริง

ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ เคยให้สัมภาษณ์ประเด็นการค้าบริการ เมื่อปี 2558 ว่า คนที่มาค้าบริการทางเพศมีมากถึง 229,000 คน และมีการประมาณการถึงรายได้การค้ากามในประเทศไทยมีรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านต่อปี และรายได้ขั้นต่ำเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 3,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้มากกว่าคนที่เรียนจบปริญญาตรี เสียอีก

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดชื่อดัง ได้เคยทำงานวิจัย เรื่อง ธุรกิจนอกระบบ : ศึกษากรณีการค้าบริการทางเพศในสังคมไทย (2550) ซึ่งผลวิจัยระบุว่า สถานบริการที่เอาไว้เสพสุขทั้งประเทศมีทั้งสิ้น 13,954 แห่ง และผู้ให้บริการทั้งหมด 60,641 คน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยในปี Rossalind C. Morris (2002) ศาสตราจารย์มานุษยวิทยา ได้ศึกษาเรื่อง Speculations on Globality, Economy, and the Sex of Excess in Thailand และยังได้ประมาณการรายได้จากการขายบริการทางเพศไว้ที่ 2.5 พันล้าน – 4 หมื่นล้าน ดอลลาร์สหรัฐ (ในปี2002) นอกจากนั้น ทางเว็บไซต์ Havocscope ซึ่งเป็นผู้รวบรวมสถิติจากแหล่งข่าวต่างๆ ได้ระบุว่า ประมาณการเม็ดเงินหมุนเวียนในตลาดมืดของประเทศไทยอยู่ที่ 1.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทย 4.5 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นเงินที่มากกว่าที่ภาครัฐเก็บภาษีจากประชาชนทั่วประเทศ ราว 3.12 แสนล้านบาท เสียอีก

จากตัวเลขดังกล่าวนี้เอง จึงเป็นการสะท้อนสาเหตุว่าทำไม “การค้าประเวณี” หรือ การเกิดอาชีพ “แม่เล้า” มันถึงมีอยู่ในสังคม ภาครัฐควรตระหนักและหาวิธีแก้ปัญหาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ไม่ใช่ทำเป็น เปิดตาข้างหนึ่ง ปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยให้เด็กรุ่นใหม่ เติบโตกับสังคมที่อาจเลวร้ายขึ้นกว่านี้