Inside Dara
พระเอกฆ่าไม่ตาย ไม่ทิ้งลาย 'ติ๊ก'เจษฎาภรณ์

พระเอกที่แฟนๆเรียกร้องถามหาอันดับต้นๆ แน่นอนว่า ต้องมีชื่อเขาคนนี้ "ติ๊ก"เจษฎาภรณ์ ผลดี ซึ่งนานปี ดีหน เขาถึงจะกลับมารับงานแสดงสักเรื่อง แต่ถึงเวลานี้ ความรู้สึกผิดของเขาที่ทำให้แฟนๆต้องคิดถึง จนกระทั่งถึงจุดที่เขาต้องกลับมาหาตามเสียงเรียกร้อง พร้อมกับพูดคุยแบบเปิดอก

ผลงานภาพยนตร์ล่าสุด
บทบาทในภาพยนตร์ล่าสุดอย่าง "ยอดมนุษย์เงินเดือน" เป็นอย่างไรบ้าง

เป็นเรื่องราวของคน ที่ทำงานรับเงินเดือนทุกคน ผมรับบทเป็น "ปั้น" เป็นมิสเตอร์เป๊ะแมนของบริษัท เป็นโปรเจกท์เมเนเจอร์ ที่มีความเข้มงวด ผู้ร่วมงานทุกคน ต้องทำงานตรงตามเวลา วางแผนชีวิตแค่แผนเดียว แต่สุดท้ายล้มเหลวในความรัก บังเอิญได้เจอนางเอกของเรื่อง คือ "หวาย" เป็นเด็กฝากที่ไม่เอาไหน ทำงานไปวันๆ แต่ได้ทำให้ปั้นรู้ว่า คนเราควรวางแผนไว้หลายๆอย่าง

ร่วมงานกับนางเอกป้ายแดง "โบ"ณัฐชลัยย์ สุขะมงคล เป็นอย่างไรบ้าง

เขาเป็นคนน่ารัก และเป็นคนมีความสามารถ จริงๆน้องโบ ถือว่าทำงานอยู่ในวงการบันเทิงเหมือนกัน เป็นครีเอทีฟของบริษัทเอเจนซี่โฆษณา ซึ่งงานต่างๆที่เขาทำ กับงานที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ บุคลิกจะคล้ายกัน ผมไม่ต้องสอนอะไรตัวน้องเลย เพราะน้องเล่นดีมาก แม้จะเป็นเรื่องแรก ผมว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่า เขาอยากจะทำงานแบบนี้ต่อไปหรือไม่

สิ่งที่คนดูจะได้รับจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คืออะไร

ในเรื่องความบันเทิง ภาพยนตร์ให้คุณอยู่แล้ว และได้แง่คิดไปกับมัน ผมว่ามันจะโดนใจ กลุ่มคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน เราอาจจะเหมือนใครบางคนในเรื่อง ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน ดูแล้วจะเข้าใจคนที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเพิ่มมากขึ้น มันอาจจะบอกได้ว่า สิ่งต่างๆที่เรากำลังทำอยู่ทุกวันนี้ เราได้เลือกทางถูกแล้วหรือยัง ซึ่งหนังเข้าฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

การกลับมารับงานละครอีกครั้ง
กลับมารับงานละคร 3 เรื่องรวด ประเดิมด้วยซีรีย์รีเมคชื่อดังจากเกาหลี "ออทัม อิน มาย ฮาร์ท" เป็นอย่างไรบ้าง

เรื่องออทัม อิน มาย ฮาร์ท หรือชื่อไทยว่า รักนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เป็นซีรีย์รีเมคจากเกาหลีที่ของเก่าทำมาดีมากอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้คุณอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม เป็นโปรดิวเซอร์ นางเอก คือ น้องออม (สุชาร์ มานะยิ่ง) พระรอง คือ ปั้นจั่น (ปรมะ อิ่มอโนทัย) เรื่องราวของที่เกาหลีเคยทำเป็นอย่างไร เวอร์ชั่นไทยยังคงเป็นแบบนั้น แต่ผู้กำกับ เขาจะทำให้เป็นธรรมชาติในแบบคนไทย ทั้งชื่อของตัวละครและวิถีชีวิตของคน แต่ยังคงเส้นเรื่องแบบเรื่องเดิม ปีหน้าคงได้ชมกัน ทางช่อง ทรูเอเชี่ยน

กลับมารับละคร 2 เรื่อง กับ ช่อง 3 เรื่อง "อย่าลืมฉัน" และ "มณีมาลา" เป็นอย่างไรบ้าง

ละครอย่าลืมฉัน เป็นละครของพี่ดา (หทัยรัตน์ อมตวณิชย์) และได้ร่วมงานกับ แอน ทองประสม คือ ผมลุ้นอยู่เหมือนกันว่านางเอกของผมจะเป็นใคร เพราะผมมักจะเป็นคนแรกเสมอที่รับปากทำงาน แต่ยังไม่รู้ว่านางเอกคนไหนจะมาเล่นกับเรา แฟนคลับจะคอยเชียร์ให้คู่กับคนนั้น คนนี้ หนึ่งในนั้นจะมี แอนด้วย ผมเชื่อว่าทุกคนเคยสัมผัสงานของแอนมาก่อน เขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือมาก ผมแอบคิดว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับเขามั้ย จนครั้งนี้ได้มีโอกาส แต่เรื่องนี้จะเริ่มถ่ายทำต้นปีหน้า ส่วนละคร มณีมาลา เป็นของพี่ดาว (พอฤทัย ณรงค์เดช) เรื่องนี้ยังไม่ได้วางตัวนักแสดง จึงยังไม่ทราบว่านางเอกเป็นใคร แต่จะถ่ายปีหน้าเช่นกัน แต่คิวถ่ายจะไม่ชนกับเรื่อง อย่าลืมฉัน เพราะผมจะถ่ายทีละเรื่อง

ออกมารับงานละครถึง 3 เรื่องรวด รวมถึงมีหนัง จนมีคนแอบแซวกันว่า ติ๊ก เบื่อป่าแล้ว

เวลาเราทำงานในพื้นที่ธรรมชาติ จะมีคนบอกว่าทำไมไม่ทำงานละคร แต่พอเรากลับมารับงานละครก็มาบอกเราว่า เบื่อป่า บางทีมุมมองการทำงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความพร้อมในช่วงเวลาของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ณ เวลานี้ ผมพร้อมแล้วที่จะทำ ทั้งงานแสดงและรายการเนวิเกเตอร์ไปพร้อมกัน ซึ่งหลังจากผลงานชิ้นสุดท้าย เรื่อง "วนิดา" คนจะถามถึงผมมาโดยตลอด เรารู้สึกผิดว่า ทำไมเราถึงไม่สร้างสรรค์ผลงานให้เขาดู ตอนนี้เหมือนกับว่าความรู้สึกผิดของเรามันถึงขั้นแล้ว (ยิ้ม) และเราอยากให้แฟนๆทุกคนมีความสุข

ความทุ่มเทให้กับ "เนวิเกเตอร์"
หลายคนมองว่า ติ๊ก ทุ่มเททุกอย่างให้ รายการ "เนวิเกเตอร์" อะไรถึงทำให้ทุ่มเทขนาดนี้

ผมเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น จริงจังกับการทำงาน ด้วยการที่เราอยากคุมคุณภาพของตัวเอง ไม่อยากให้ใครมาว่าเราได้ ซึ่งตอนนี้มันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีคนพูดถึงรายการเนวิกเกอร์เตอร์ตามสื่อต่างๆและมีผู้ใหญ่หลายท่าน มอบรางวัลให้ มันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของผมว่า "ติ๊ก เอ็งสามารถทำได้นะ" สิ้นปีนี้รายการเนวิเกเตอร์จะครบ 8 ปีแล้ว กับการผจญภัยของผม ต้องขอบคุณที่ผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ให้โอกาสได้พิสูจน์ตัวเอง และต้องขอบคุณพื้นที่ธรรมชาติ

มีข่าวว่า ติ๊ก พารายการ "เนวิเกเตอร์" บุกรุกพื้นที่ป่าถึง 2 ครั้ง มีผลกระทบกับรายการหรือไม่ และท้อใจบ้างไหม

ข่าวที่ผมไปบุกรุกพื้นที่ป่าที่ดอยเสือ จ.เชียงใหม่นั้น ตอนที่มีข่าวผมยังไม่ได้ไปไหนเลย แค่ทำหนังสือขออนุญาตเข้าไปถ่ายทำรายการ เพราะว่าเราได้รับข่าวสารมาตั้งแต่เด็ก เกี่ยวกับพื้นที่ป่าดอยเสือ และพอค้นหาในอินเตอร์เนต พบว่ามีการจัดระบบท่องเที่ยว มีการนำเสนอการท่องเที่ยวทั้งในรูปแบบภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอ ผมคิดว่ามันสวย จึงตั้งใจจะเข้าไปถ่ายทำรายการให้ผู้ชมได้เห็น แต่กลายเป็นว่าทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นเขตหวงห้าม ซึ่งขัดแย้งกับความจริงที่เราเห็น แต่เราก็ปฏิบัติตามว่าไม่ไปในพื้นที่ที่เขาบอกว่าหวงห้าม ทั้งๆที่มีคนเคยไปพื้นที่บริเวณนั้นมาแล้ว แต่ยืนยันว่าเจตนาของรายการไม่ได้ต้องการให้คนไปบุกรุกพื้นที่ป่า แค่นำเสนอในแง่ของการอนุรักษ์ให้ทุกคนได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติในเมืองไทย

ซึ่งก่อนหน้านี้ในปีที่แล้ว มีข่าวว่ารายการเราไปบุกรุกป่าภูคิ้ง จ.ชัยภูมิ ทุกคนทราบว่าบุกรุก แต่ที่ทุกคนไม่ทราบ คือเราไม่มีความผิดอะไร ยังไม่ได้ไปบุกรุกพื้นที่ป่า ทำเรื่องเข้าไปเช่นกัน อยากฝากบอกว่า อย่ามองว่าการทำลาย เกิดจากรายการสารคดี ดูอย่างสารคดีต่างประเทศมีการเสนอแง่มุมทางธรรมชาติมากมาย เอากล้องไปตั้งในป่าลึกแบบนั้น เพราะต้องการให้เราได้รับรู้ธรรมชาติ ได้เห็นว่าธรรมชาติที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทุกคนต้องใจกว้าง

ชีวิตครอบครัว
หลายคนใจจด ใจจ่อ รอฟังข่าวดีอยู่ตลอดว่า เมื่อไหร่จะมีลูกเสียที

เชื่อว่าทุกคนอยากจะมีลูก แต่เราต้องมีความพร้อมก่อน มีเวลาพอที่จะดูแลสิ่งมีชีวิตที่เติบโตขึ้นมาที่เรียกว่า "ลูก" ในมุมมองของผม มันไม่ง่ายเลย ยิ่งวิถีชีวิตของคนปัจจุบันนี้ มันมีอะไรต่างๆ ทั้งรีบเร่ง มีสิ่งยั่วยุ คือมันต้องคิดเยอะ สำหรับผมไม่ได้ไม่เคยแพลนเรื่องนี้ แต่อย่างที่ผมชอบพูดเสมอว่า พื้นฐานที่ดีที่สุด เริ่มต้นมาจากครอบครัว และตัวผมถูกปลูกฝังมาในครอบครัวที่คุณพ่อ คุณแม่มีเวลาให้เราเต็มที่ ผมจึงอยากมีเวลาเลี้ยงลูกเหมือนอย่างพ่อกับแม่ผมในเวลานั้น ดังนั้นถ้าเกิดยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งมีดีกว่า

ชีวิตครอบครัวกับ "พีช" สิตมน มีหลักเกณฑ์การในการดำเนินชีวิตคู่อย่างไรบ้าง

เราเป็นธรรมชาติ ต่างคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะก่อนที่จะมาเป็นครอบครัว เราต้องเกิดการเรียนรู้ต่างๆที่ผ่านมา เรียนรู้ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของทั้งเขาและเราว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราได้เรียนรู้มาหมดแล้ว มันจึงกลายมาเป็นครอบครัวตรงนี้ได้ ตอนนี้ คือความเข้าใจ ที่จะสามารถประคองและยืนอยู่ได้ เป็นชีวิตที่เรียบง่าย สบาย สงบ ไม่หวือหวา แต่มั่นคง

15 ปี กับชีวิตในวงการบันเทิง
ชีวิตจริงของติ๊ก เป็นคนอย่างไร เพราะหลายคน อาจจะมองภาพว่าเป็น พระเอก มาดนิ่ง ขี้เก๊ก

คนมักจะมองในรูปแบบว่า ติ๊กจะต้องเป็นภาพที่เหมือนกับตัวละครต่างๆที่เคยแสดงมา ดูดี หล่อ รวย เท่ห์ คุณชาย มาดเข้ม ทหาร เพลย์บอย อะไรเหล่านี้ มันล้วนแต่เป็นภาพลักษณ์ของตัวแสดง อาจจะเพราะบังเอิญ บทบาทต่างๆเราดันไปเข้าถึงกับคนดูมาก แต่จริงๆแล้วตัวตนของเรา ทุกคนสามารถรับรู้ได้จากรายการเนวิเกเตอร์

อยู่วงการนี้มานาน วงการนี้ได้ให้สิ่งที่ดีอะไรกับชีวิตของเราบ้าง

ปกติ ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่พอได้เข้ามาอยู่ตรงนี้ ทำให้ผมเป็นคนที่สามารถถ่ายทอดอะไรออกมาจากกระบวนการความคิดของตัวเองได้ และได้เรียนรู้ในเรื่องการทำงาน ทำให้เราได้เจอผู้คนมากมาย หลากหลายรูปแบบ การที่เราได้ทำงานและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า กว่าที่เราจะได้เงินมา มันไม่ได้หามาได้ง่ายดาย ฉะนั้น เราจะใช้เงินอย่างระมัดระวัง และทำให้ผมจากเป็นคนที่ใจร้อน กลายเป็นคนที่ใจเย็น

หลายคนตั้งฉายาให้กับติ๊กว่า เป็นพระเอก "Never die" เพราะออกมากี่ครั้ง ยังหล่อเหมือนเดิม

พระเอก "Never die" ทำให้ผมนึกถึง "อาแอ๊ด" สมบัติ เมทะนี (ยิ้ม) คือ ผมมองว่าอย่างนั้นมากกว่า เราไม่รู้หรอก ไม่เคยตั้งว่าเราจะเป็นอะไร อยู่ในระดับฐานะไหน เพียงแต่ว่า เวลาที่ผมทำงานแล้ว คนที่ทำงานกับผม น่าจะแฮปปี้ เพราะมันคุ้มกับค่าจ้างที่เขาจ้างผม น่าจะเป็นตรงนี้ที่ทำให้ผมอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ตราบที่ยังมีคนจ้างผมอยู่ เพราะผมคิดว่านักแสดงมีคนให้เลือกเยอะแยะมากมาย ผมว่าอยู่ที่ว่าคุณทำงานกับใคร แล้วสบายใจดีกว่า

เคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าเกิดเราไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง ตอนนี้เราจะกำลังทำอะไรอยู่

คงทำงานในสิ่งที่ผมเรียนมา คือ วิศวกร ถ้าไม่ได้ทำงานในวงการ ผมคงจะเป็นวิศวกรอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมไหนสักที่หนึ่งที่เหมือนกับเพื่อนของผมในตอนนี้ เพราะมองจากเพื่อนๆของผมเป็นหลัก บางคนเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องยนตร์ต่างๆ บางคนยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ แต่มีตำแหน่งหน้าที่การงานเติบโตกันเยอะ

ข้อคิดดีๆจากรุ่นพี่ ที่อยากจะฝากบอกถึงรุ่นน้องนักแสดง คืออะไร

ผมคิดว่า เราต้องตั้งใจทำงานที่เราได้รับมอบหมายให้ดีๆ และอยากให้คิดว่าสิ่งที่เราจะทำหรือว่างานนั้นๆ เป็นสิ่งที่เราชอบ เพราะถ้าเกิดเราชอบมันแล้ว มันจะเป็นแรงบันดาลใจ ให้เราอยากจะทำงานนั้นๆให้ดี เราต้องรับผิดชอบต่องาน มีความเป็นตัวของตัวเอง ที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน มีความสุขกับงานที่ทำ คนที่ได้ทำงานกับเราก็จะมีความสุขไปด้วย ซึ่งผมมีข้อคิดประจำใจว่า "เจ้าจงมีความสุข บนความสุขของผู้อื่น จงอย่ามีความสุข บนความทุกข์ของผู้อื่น" ถ้าเกิดว่าเรามีความสุขและทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย ผมว่ามันยิ่งดับเบิ้ล กลายเป็นว่าเราจะมีแต่มิตรภาพดีๆต่อกัน

สมกับฉายา "ติ๊ก" เจษฎาภรณ์ พระเอกไม่มีวันตาย ขวัญใจของแฟนๆ จริงๆ
เขาคนนี้ชื่อ : เจษฎาภรณ์ ผลดี
ชื่อเล่น : ติ๊ก
เกิดวันที่ : 5 มิถุนายน 2520
การศึกษา : ปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ ม.หอการค้าไทย
ผลงานที่ผ่านมา : ภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง, ภาพยนตร์สตรีเหล็ก, ภาพยนตร์รักฉันอย่าคิดถึงฉัน, ละครโซดากับชาเย็น ละครปริศนา, ละครวนิดา ฯลฯ
ผลงานล่าสุด : รายการเนวิเกเตอร์, ภาพยนตร์ยอดมนุษย์เงินเดือน