Inside Dara
“แอนน่า กลึคส์” ภูมิใจทำให้ “แม่-ยาย” มีความสุข ยอมรับมีหนุ่มเข้ามาจีบแต่แค่เพื่อน

ไม่ได้มาเล่นๆ แต่พกพาความมั่นใจมาเกินร้อย แอนน่า กลึคส์ นางเอกป้ายแดง จากละครเรื่อง “สาวน้อยร้อยไมค์” ทางช่อง 7HD กด 35 วีกนี้ “คนดังนั่งคุย” ถือโอกาสพามาทำความรู้จักตัวตนจริงๆของสาวแอนน่า ที่มาพร้อมความฝันตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นจะอยู่ในจอทีวีให้ดู ส่วนสถานะหัวใจจะโสดหรือไม่ มาฟังคำตอบไปพร้อมๆกัน

ขอทำความรู้จักแอนน่า มีที่ไปที่มายังไง

“แอนน่าเป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมันค่ะส่วนใหญ่แอนน่าจะบอกกับทุกคนว่าเป็นลูกครึ่ง หนองคาย-เยอรมัน เพราะแอนน่าเกิดและเติบโตที่หนองคาย อำเภอรัตนวาปีค่ะ ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้แอนน่าจะพูดภาษาอีสานกับที่บ้าน คือคุณยาย คุณแม่ และพี่ชาย ตลอดค่ะ จะเน้นภาษาอีสานเป็นหลัก ตอนเด็กๆที่บ้านจะเรียก แอนน่าว่า หยองค่ะ เพราะว่าผมหยิกและฟูมาก (ยิ้ม) ส่วนเพื่อนๆ ส่วนใหญ่จะออกเสียงนาม สกุลของแอนน่าผิด ตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ที่จากกลึคส์ จะกลายเป็นกริ๊งบ้าง กลึกบ้าง คุณครูบางคนก็จะมาถามว่า นามสกุลต้องออกเสียงว่าอย่างไร ส่วนคาแรกเตอร์แอนน่าเป็นคนร่าเริงค่ะ เป็นคนสนุก ชอบคุย ชอบเล่น อยากให้คนที่อยู่ใกล้ๆมีความสุขและแฮปปี้”

ทราบว่าแอนน่ามีความฝันอยากเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก

“ใช่ค่ะ ตั้งแต่เด็กคือที่บ้านจะชอบดูละครกันมาก คุณแม่ คุณยายนี่คือพอถึงเวลาละครมาก็จะมานั่งหน้าทีวีกันแล้ว หนูก็เลยบอกกับคุณยายคุณแม่ว่า วันหนึ่งหนูจะต้องเล่นแบบนี้ให้ได้ จะต้องอยู่ในทีวีให้ได้ ตอนนั้นคือน่าจะช่วงประถม ครูก็ถามว่าอาชีพที่อยากเป็นคืออะไร หนูก็จะเขียนว่านักแสดงมาตลอดค่ะ ไม่เคยเขียนถึงอาชีพอื่นเลย มีครั้งหนึ่งที่หนูเสิร์ชในอินเตอร์เน็ต เจอกระทู้ตามเว็บไซต์ถึงช่อง 7HD หนูก็เข้าไปเขียนคอมเมนต์แนะนำตัวเองว่าหนูชื่อแอนน่า กลึคส์นะคะ อยู่ที่หนองคาย หนูอยากเป็นนักแสดงมากๆ แล้วก็ใส่เบอร์โทร.ติดต่อคุณแม่ กับอีเมลเอาไว้ด้วย คือหนูอยากเข้าวงการมากๆ เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีโอกาสที่จะได้เข้ามาแคสงานเลย ดังนั้นก็ใช้วิธีนี้เลยค่ะ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อนะคะ”

แล้วแอนน่าเข้ามาจุดนี้ได้อย่างไร

“พอเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ก็เริ่มลองแคส งานต่างๆ จนมีโอกาสได้เข้ามาแคสที่ช่อง 7HD แล้วพอทราบผลว่าเราได้เป็นนักแสดงในสังกัดคือดีใจมากค่ะ เหมือนเป็นของขวัญชิ้นหนึ่งที่เราฝันมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราทำได้ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมาถึงตอนนี้ ต้องขอบคุณทางช่อง 7HD มากๆนะคะ ที่ให้โอกาสหนูได้ทำในสิ่งที่รัก ทำให้หนูได้เล่นละคร คุณยายได้ดูละครที่หนูเล่น เหมือนกับที่เคยบอกกับคุณยายไว้ แล้วพอทราบว่าได้เล่นละคร ตอนนั้นคือโทร.หาคุณแม่บอกเลยว่าได้เล่นละครแล้วนะ ทุกคนจะได้ดูละครของหนูแล้วนะ ทุกคนคือดีใจ ร้องไห้ไปกับเราค่ะ เพราะทุกคนรู้ว่านี่คือความฝันของหนูตั้งแต่เด็กๆแล้ว”

ผลงานเรื่องแรก สาวน้อยร้อยไมค์ ฟีดแบ็กและเรตติ้งดีมากๆ

“ใช่ค่ะ ต้องขอบคุณแฟนๆละครทุกคนมากนะคะ หนูตั้งใจและเตรียมตัวกับละครเรื่องนี้หนักมาก เพราะเป็นละครเพลงด้วย ปกติหนูร้องเพลงเล่นกับเพื่อนบ้าง แต่ไม่เคยร้องแบบจริงจัง ก่อนถ่ายทำพี่เติ้ล (ตะวัน จารุจินดา) ผู้จัด ก็ส่งไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้นด้วยค่ะ แล้วตอนเข้าห้องอัด ก็โชคดีที่ได้ไปห้องอัดซำบายใจ ของครูสลา (สลา คุณวุฒิ) ครูก็คอยสอน แล้วความที่เป็นละครเรื่องแรก ตอนแรกหนูกดดันตัวเองมาก กลัวว่าแฟนละครดูแล้วจะไม่รู้สึกอินไปกับตัวละคร หล้า ของเรา หนูอ่านบทหลายรอบมาก อ่านเพื่อเก็บรายละเอียดว่าหล้าเป็นอย่างไร มีตรงไหนใกล้เคียงกับเราบ้างไหม แล้วเราจะถ่ายทอดความเป็นหล้าออกมาให้ดีที่สุดยังไง ตอนนี้พอฟีดแบ็กกลับมาดีมากๆ แบบที่หนูไม่กล้าคิด มันก็ทั้งดีใจ ทั้งตื้นตันเลยค่ะ”

หล้ากับแอนน่าใกล้เคียง และแตกต่างกันในเรื่องไหนคะ

“ใกล้เคียงเลยค่ะ เพราะหล้ากับแอนน่า เป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกัน หล้ามีความฝันอยากเป็นนักร้อง ส่วนแอนน่าก็มีความฝันอยากเป็นนักแสดง และเราก็เดินทางตามหาความฝันนั้น พยายามทำความฝันให้สำเร็จ หล้าเป็นเด็กบ้านนา แอนน่าก็เหมือนกัน หนูเคยดำนา เกี่ยวข้าว เคยทำทุกอย่างมาหมดแล้ว ดังนั้น พอต้องเข้าฉากที่อยู่นา อยู่สวน หนูไม่กังวลเลย แต่ที่กังวลหนักมาก คือเรื่องการร้องเพลง เพราะหล้าเขาต้องร้องเพลงเพราะมากๆ อันนี้คือยากอยู่ค่ะ”

มีเพลงพิเศษที่ครูสลาแต่งเพื่อให้เราร้องในละครเรื่องนี้ “ใช่ค่ะ คือเพลงสาวน้อยร้อยไมค์ ชื่อเดียวกับละครเลย มันเป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ใช่แค่ชีวิตของหล้าที่อยู่ในเพลงนี้ แต่เป็นชีวิตของหนูด้วย เพราะเนื้อหาของเพลงคือจะทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เราตามหาความฝันและทำความฝันนั้นให้สำเร็จ เป็นเพลงที่ดีมากๆ เนื้อเพลงแบบ หยิบข้าวโพดขึ้นมาเป็นไมค์ร้องเพลง แล้วพอวันหนึ่งมีโอกาสได้จับไมค์ มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆ เหมือนกับตัวแอนน่าเองที่วันนี้ เราได้ทำตามความฝัน ได้มาเป็นนักแสดงจริงๆ”

ร่วมงานกับบอม–พงศกร โตสุวรรณ เป็นอย่างไรบ้าง

“เจอกันครั้งแรกวันถ่ายฟิตติ้งค่ะ เกร็งมาก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไง ตอนถ่ายคู่กัน หนูก็ไม่รู้ว่าจะต้องวางมือตรงไหน แต่พี่บอมน่ารัก พอเขาเห็นว่าเราค่อนข้างเกร็ง พี่บอมก็จะคอยบอกว่าไม่ต้องกังวลนะ หรืออย่างตอนแรกที่เริ่มถ่ายทำแล้วหนูไม่เข้าใจตรงหน้าเซต พี่บอมก็จะคอยอธิบายให้ฟัง พี่เขาใจเย็นมากค่ะจะคอยสอนและแนะนำเราทุกเรื่อง”

เข้าฉากกุ๊กกิ๊กกันค่อนข้างเยอะด้วย เขินไหมเนี่ย “เขินมากค่ะ จะมีอยู่ซีนหนึ่งที่หนูจะต้องจับหน้าพี่บอม แล้วค่อยๆเช็ดให้ หนูก็เขินมากแล้วไม่รู้ว่าจะต้องจับท่าไหน ไม่รู้มุมกล้อง หนูก็จับเลยเอามือประกบแก้มพี่เขา แล้วก็เอานิ้วโป้งถูๆ พอทุกคนเห็น ทุกคนขำหมดเลย คือมันเหมือนผู้ชายจับหน้าผู้หญิง ไม่ใช่ผู้หญิงจับหน้าผู้ชาย (หัวเราะ) จนพี่เติ้ลมาแซวว่า นี่ดูซีรีส์วายอยู่หรือเปล่า คือเราดูแมนมากค่ะ ส่วนพี่บอมก็ขำค่ะ อย่างเวลากอดแรกๆ หนูก็กอดไม่เป็น คือเวลากอดหนูก็เอามือหนูไปตบหลังพี่เขา จนพี่หมู (ภูดิท พฤกษะวัน) ผู้กำกับถามว่า นี่คือเพื่อนกันเหรอ พี่เขาก็ต้องมาสอนอีกว่าเวลากอดจะต้องเอามือวางตรงไหน คือหนูก็ไม่รู้จริงๆ ทุกคนแซวว่าฉากที่ควรจะโรแมนติก หนูทำออกมาเป็นคอมเมดี้หมดเลย (หัวเราะ)”

ต้องบอกว่าตอนนี้ละครประสบความสำเร็จ เรตติ้งดีทุกวัน ครอบครัวให้กำลังใจได้บอกกับแอนน่าว่าอย่างไร

“อย่างที่เล่าเลยค่ะ คือวันแรกที่ละครออกอากาศคุณยาย คุณแม่ร้องไห้หมดเลย แอนน่าโทร.หาคุณยาย คุณยายก็บอกว่าภูมิใจมาก ส่วนคุณแม่ตอนวิดีโอคอลไป คุณแม่ไม่เปิดกล้องในโทรศัพท์ให้เราเห็นเลยค่ะ แต่จากเสียงเรารู้เลยว่าคุณแม่ก็ร้องไห้เหมือนกัน ทุกคนรู้ว่านี่คือความฝันที่เราทำสำเร็จ ขอบคุณแฟนละครที่ซัพพอร์ตแอนน่าแล้วครอบครัวคือกำลังใจที่สำคัญมากๆ อย่างช่วงที่ประกาศว่าละครจะได้ออกอากาศ คุณแม่ คุณยาย พี่ชายแอนน่า ทุกคนช่วยกันกระจายข่าวไปทั้งอำเภอเลยค่ะ มีทั้งทำป้ายไปติดรถสามล้อที่วิ่งประจำในอำเภอ ทำป้ายโปสเตอร์ไปติดตามร้านค้าในหมู่บ้าน ในตลาดไทย-ลาว แล้วก็มีเสียงตามสายประกาศทุกวันว่าแอนน่าลูกหลานบ้านเรา เป็นนางเอกละครแล้วเด้อ มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ข้างในไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเลยค่ะ คือทุกคนพร้อมซัพพอร์ตแอนน่ามากๆ ทำให้แอนน่ายิ่งต้องสู้ ยิ่งต้องตั้งใจทำโอกาสที่เข้ามาให้เต็มทีและดีที่สุดค่ะ”

แอบถามเรื่องหัวใจบ้างดีกว่า สถานะตอนนี้ยังไงคะ

“ก็มีคนที่เข้ามาคุยบ้างค่ะ แต่เรายังไม่ได้ก้าวไปไกลกว่าคำว่าเพื่อน คือแอนน่าไม่ได้ปิด ไม่ได้ห้ามกับเรื่องความรักนะคะ เพียงแต่ว่าเราเพิ่งเข้ามาทำงาน และเป็นช่วงที่เราได้รับโอกาสเยอะมาก เราทำงาน 7 วันเลย ดังนั้นเราแทบจะไม่มีเวลาในส่วนอื่น”

สเปกล่ะ “ถ้าเป็นลุค แอนน่าชอบคนที่ดูแลตัวเอง ออกแนวเนี้ยบ เป็นสุภาพบุรุษ สิ่งสำคัญคือรักครอบครัวค่ะ เพราะ เราเป็นคนที่ดูแลครอบครัว รักครอบครัว มากๆ รวมถึงเราทำงาน เขาต้องเข้าใจว่าเราจะไม่มีเวลาให้เขาแน่นอน”

คุณแม่กังวลเรื่องนี้ไหมคะแอนน่า “(หัวเราะ) ก็นิดหนึ่งค่ะ คุณแม่ก็ถามเหมือนกันว่ามีคนมาจีบไหม แต่เวลาหนูมีอะไร หนูก็เล่าให้คุณแม่ฟังหมดค่ะ อยากให้ท่านสบายใจ คือเราเป็นคนที่สามารถคุยกับคุณแม่ได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ”

แอนน่าคิดว่าตัวเองทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ครบหรือยัง

“ต้องบอกว่าทำตามความฝันที่เคยตั้งใจไว้ได้ แต่เป็นแค่เป้าหมายเริ่มต้นของเรา แต่เราก็มีเป้าหมายอื่นๆอีก อย่างเรื่องการเรียน ตอนนี้หนูเรียนจบปริญญาตรี บริหารธุรกิจ ม.หอการค้าแล้ว และกำลังเรียนปริญญาโทต่อ หนูก็อยากทำให้สำเร็จด้านการแสดง หนูก็อยากเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นได้หลายบทบาท เป็นนักแสดงที่คนดูดูละครแล้วเชื่อในทุกตัวละครที่หนูเล่นค่ะ”

อยากฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนๆ

“แอนน่าอยากฝากผลงานละครของแอนน่าด้วยนะคะ ตอนนี้ที่กำลังออกอากาศคือ สาวน้อย ร้อยไมค์ และในอนาคตจะมีละครเรื่องสัจจะในชุมโจร (เสือสั่งฟ้า 3) และละครเรื่องรักในรอยลวง ที่กำลังถ่ายทำอยู่ ฝากติดตามผลงานต่อๆไปของหนูด้วยนะคะ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน