ฝีมือล้วนๆ ไม่ใช้ตัวเข้าแลก! 'แอน มิตรชัย' เปลือยชีวิตหลังม่านมายาบอลลีวูด
แอน มิตรชัย หายหน้าหายตาไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศอินเดียมีทั้งผลงานเพลงและภาพยนตร์บอลลีวูด จนเข้าตากรรมการ ได้ร่วมงานกับ ยูนิเวอร์แซล มิวสิค ปล่อยเพลงอินเตอร์ "Live My Life My Way" ออกมา กลับไทยทั้งที บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ ได้จับเข่าพูดคุยกับเธอแบบสุดพิเศษ กับชีวิตในวงการบันเทิงบอลลีวูด ประเทศอินเดีย โดยเฉพาะประเด็นที่หลายคนคาใจ "เอาตัวเข้าแลกเพื่อโกอินเตอร์" อาทิตย์สบายๆ อย่างงี้ แอน มิตรชัย พร้อมเปิดใจทุกเรื่องราว
จุดเริ่มต้นที่ไปอยู่ที่อินเดีย ไปได้ยังไงอยู่ๆ ก็หายจากเมืองไทยไปเลย
"แอนไปในฐานะนักร้อง ต้องบอกก่อนว่าตอนเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตของแอนที่ไทย จะมีโชว์เพลงอินเดียด้วยค่ะ แล้วบังเอิญมีคนอินเดียได้ดู เขาก็ติดตามเรื่อยๆ จนได้มาคุยกัน ซึ่งคนที่ได้เจอคนนี้เขาเป็นนักแต่งเพลง สรุปเขาอยากได้แอนไปทำเพลงสายอินเตอร์เนชั่นแนลที่อินเดีย เพราะในอินเดียสายอินเตอร์เนชั่นแนลกำลังมา เขามองว่าแอนน่าสนใจ เป็นคนไทยที่หน้าเหมือนคนอินเดีย พูดภาษาฮินดีไม่ได้แต่ร้องเพลงได้ เขาอยากจับตรงนี้มาเป็นกิมมิก เรามองว่าเป็นการตลาดที่น่าสนใจ สุดท้ายก็คุยกันจนเราโอเคไป"
จุดเริ่มต้นก็คือเข้าไปทำงานเพลง?
"ใช่ค่ะ แรกเลยที่ไปที่นั่น เริ่มไปทำในเรื่องของเพลง ยังไม่ได้เข้าไปทำหนัง เราตั้งใจกันว่าทางเขาก็จะขายตลาดอินเดีย ทางเราก็ขายตลาดไทย ทีนี้พอเข้าไปทำเพลง แอนได้ไปเจอกับโปรดิวเซอร์ที่เป็น ผจก.แอน ตอนนี้ก็คือคุณแอดดี้ เขาจะเป็นคนที่กว้างขวางที่วงการบอลลีวูด พออัดเพลงไปคนก็เริ่มอยากเอาเพลงเราไปทำเพลงประกอบภาพยตร์ ไปๆ มาๆ คนจากวงการหนังก็ได้มารู้จักเรา เขาก็เอาแอนไปเล่นหนังบอลลีวูด
หลังจากที่มีหนังไปแล้ว ก็ได้มีโอกาสเข้าไปคุยในเรื่องเพลงกับยูนิเวอร์แซลมิวสิค คือคุณแอดดี้เขาทำงานกับยูนิเวอร์แซลอยู่แล้ว ก็เลยมีโอกาสได้เข้าไปเสนองานเพลง"
ตกใจมั้ยกับคำว่าค่ายยูนิเวอร์แซล มิวสิค คือดูอินเตอร์มากนะ
"ไม่นึกไม่ฝันเลยค่ะ (ยิ้ม) งานเพลงกับยูนิเวอร์แซลนี่ต้องยอมรับว่าไม่ได้คิดว่าจะได้ทำเพราะว่าวันที่แอนเข้าไปคุย แอนไม่ได้เอาโปรไฟล์หนังบอลลีวูด ความเซ็กซี่ หรืออะไรเข้าไปขาย แอนเอาโปรไฟล์ของความเป็นลิเกเข้าไปคุย ผลงานอื่นเราก็แค่แนบๆ ไป แต่ผู้ใหญ่ยูนิเวอร์แซลที่ได้ดูผลงานแอนเขาติดใจตรงลิเก เขากลับมาสนใจว่าชุดที่ยูใส่คืออะไร ทำไมมีแบงก์เยอะ คือเขาสนใจมากว่าลิเกคืออะไร วัฒนธรรมไทย ตรงนี้สำคัญมากน้อยแค่ไหน เขาสนใจจนไปศึกษากันมาเลยนะ สุดท้ายด้วยความที่เขาสนใจลิเกแอนเลยได้เข้าไปแคสต์ และได้ทำงานจริงจังในที่สุด
ตอนทางยูนิเวอร์แซลให้เข้าไปแคสต์ดู จุดประสงค์ของแอนก็ยังแค่ลองแคสต์ดู ได้หรือไม่ได้ก็ลองดู ตอนแรกแอนเองมีบริษัททีซีรีส์ของอินเดีย ซึ่งเป็นค่ายเพลงใหญ่ในอินเดียดูแลอยู่ เขาเองก็เวิลด์ไวด์ทั่วเอเชีย เพลงแรกของแอนคือ Belong ก็อยู่กับบริษัทนี้ ซึ่งค่ายนี้ก็อ้าแขนรับแอนอยู่แล้ว แต่เพลงจะเป็นแนวฮินดีซะส่วนใหญ่ อาจมีเพลงภาษาอังกฤษปนบ้าง แต่อาจจะไม่สากลเท่าไหร่
คุณแอดดี้เขาก็เลยเลือกยูนิเวอร์แซล เพราะคุณแอดดี้จะเป็นคนวางแผนว่าเราควรจะทำอะไร เขาจะถามแอนตลอดว่ามีความฝันอะไร แอนน่ะอยากทำคอนเสิร์ต อยากให้ความเป็นลิเกของแอนไปทั่วโลก ถึงแม้ความเป็นลิเกอาจจะเป็นแค่พาร์ทหนึ่ง เป็นเงาของแอน แต่แอนก็อยากให้คนได้รู้จักแอนในจุดตรงนี้ เพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แอนมีวันนี้ ทำให้แอนก้าวไปสู่เวทีอื่นๆ แอนไม่เคยลืมว่าลิเกส่งแอนให้ไปถึงความสำเร็จ เพราะถ้าแอนถืองานที่ใส่บิกินีเซ็กซี่หนังบอลลีวูดเข้าไปเขาอาจจะไม่สนก็ได้
ด้วยความที่แอนคิดไม่ผิดและมีความศรัทธาในส่วนลึกของแอนว่าลิเกจะนำพาแอนไปสู่ความสำเร็จได้ สุดท้ายแอนก็เลยสำเร็จจริงๆ"
มีลิเกด้วยกลัวจะดูไม่อินเตอร์มั้ย
"ไม่ค่ะ เพราะทีมงานเป็นระดับอินเตอร์ แอนเชื่อว่าเขาจะมีวิธีที่ทำออกมาให้ดูกลมกลืน การผสมผสานเราไม่ได้ผสมแค่ลิเก ลิเกไม่ได้มาเต็มเพลง แต่มันเป็นแค่ชอตเล็กๆ ที่ไปแทรกกลมกลืนอยู่ในเพลง ยังมีกลิ่นอายอาหรับ ความเป็นสากลอยู่"
ยากมั้ยคะกว่าจะมาถึงตรงนี้ตั้งแต่เราเริ่มเข้าไปคุยกับยูนิเวอร์แซล
"ทั้งหมดแอนว่าเป็นขั้นตอนที่พิถีพิถันมาก ความยากมันมีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องภาษาเพราะไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษอย่างเดียว ต้องมีฮินดี อูรดู มีภาษาอิสลามด้วย ซึ่งแอนเรียนภาษาฮินดีกับอิสลามมาตั้งแต่ตอนเล่นหนังแล้วก็จริง แต่พอมาเป็นเพลงก็ยากไปอีก เพราะบทพูดเราพูดอีกอย่าง พอเป็นเพลงมันก็จะต้องเรียนเพิ่มอีกเพราะการร้องก็จะใช้อีกทักษะ หรืออย่างภาษาอังกฤษก็ต้องเรียนจริงจัง"
จาก แอน มิตรชัย น้องสาวไชยา มิตรชัย ชีวิตพลิกไปเป็นดาราดังบอลลีวูด รู้สึกยังไง
"จะบอกว่าทุกวันนี้แอนยังรู้สึกเซอร์ไพรส์ ตื่นเต้นกับมันตลอด นี่ก็ไปมา 3 ปีแล้ว ไปตั้งแต่ปี 2012 แต่ตอนนั้นยังไปๆ มาๆ แต่ 2013 นี่เต็มตัวเลย ทุกอย่างไปเร็วมาก ตั้งตัวไม่ทัน ไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองจะมาได้ขนาดนี้ จริงๆ เคยคิดแค่ว่าเราอยากทำโอกาสที่ได้ให้ดีที่สุด แค่ได้เล่นหนังบอลลีวูดก็ดีใจแล้ว เพราะใครหลายคนอยากจะทำแต่ไม่มีโอกาสนั้น เพราะแค่ดาราอินเดียเองยังต้องรองานกันหลายปีมาก ขนาดได้ตำแหน่งมิสอินเดียยังไม่ได้หมายความว่าคุณจะเล่นหนังอินเดียได้"
ที่ว่ายาก นี่ยากขนาดไหนกับวงการบอลลีวูด
"มันยากจริงๆ ถ้าคุณเป็นคนต่างชาติแล้วอยากเล่นหนังบอลลีวูด คุณต้องมีเงินถึง 250 ล้าน เพื่อที่จะไปขอเล่นกับเขา ไปถามดูก็ได้ ไปถามนักลงทุนที่ดูแลดาราจะรู้ว่ามันยากมากๆ กับการเข้าไปในบอลลีวูด เพราะฉะนั้นการที่แอนเข้าไปถึงตรงนั้น ถึงต้องมีบอดี้การ์ดไง การที่ได้ไปเล่นประกบกับดาราดังบ้านเขาเนี่ยค่าตัวจะสูงมาก ตอนที่แอนถ่ายทำหนังอยู่ มีหนังติดต่อมาอีก 3 เรื่องทั้งที่เรายังไม่มีผลงานออกไป เพราะที่นี่เขารู้ว่าถ้าหนังเรื่องที่เล่นกับดาราดังออกไป ค่าตัวเราจะอัพขึ้นไปอีกมาก
เคยมีหนังติดต่อมา บทดีมาก แต่ผู้จัดการไม่รับ แอนก็งงว่าทำไมบทดีไม่รับ เราถึงได้รู้ว่าบอลลีวูดจะมีเรื่องของเกรดดารา ถ้าคุณอยู่ในท็อปเท็นแล้ว คุณต้องเล่นกับท็อปเท็นเท่านั้น เกรดจะลดลงไม่ได้ ต้องเล่นกับพระเอกที่เหมาะสมเท่านั้น ผู้จัดการจะคอยสกรีนงานให้"
แอนมีข้อแม้ในการรับงานที่บอลลีวูดมั้ย
"แอนเจองานบิกีนีอันแรก ก็ต้องคุยกันยาวแล้ว เขาต้องดูแอนมากๆ ว่าโพสท่าอย่างไรให้ดูเป็นนางเอก ภาพลักษณ์ที่ออกมาห้ามดูถูกผู้หญิงไทย แอนต้องไปเรียนท่าโพส และแอนจะบอกเขาเสมอว่าแอนเซ็กซี่ได้เท่านี้ ไม่มากไปกว่านี้"
ค่าตัวตอนนี้ของ แอน ถามจริงๆ เท่าไหร่
"(ยิ้ม) เอาหนังเรื่องแรกที่ไปเล่นก่อน Ishk Actually ได้ 30 ล้านบาท (หมายถึง 30 ล้านบาท!!) ใช่ค่ะ แต่เราไม่ได้ 30 ล้านหมดนะ (หัวเราะ) เพราะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์อะไรอีกเยอะมาก (เรื่องแรก 30 ล้านบาท เรื่องต่อไปล่ะ) ก็ได้เพิ่มมาอีกเยอะ เนี่ย เดี๋ยวภาษีก็ถามหา (หัวเราะ) เอาเป็นว่าครึ่งๆ 9 หลัก (50 ล้านบาท?) ก็ประมาณนั้น"
ชีวิตความเป็นอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง
"ทางค่ายเขาดูแลอย่างดี มีอสังหาริมทรัพย์ให้ คอนโดฯ ที่อินเดียคุณต้องมีเงินอย่างต่ำ 50 ล้านบาทถึงจะซื้อได้ คือทุกอย่างหรูหมด คือบางทีแอนก็คิดว่าหรูจนเราจะอยู่ได้มั้ย (หัวเราะ)"
ค่าตัว 50 ล้าน!!
เริดมากดูเก๋
เห็นว่าอยู่ที่นู่น ดังจนออกไปข้างนอกไม่ได้ จะโดนคนรุมทึ้ง
"คือตอนเราอยู่ไทย เราสามารถใช้ชีวิตปกติจนเคยชิน อยากไปไหนก็ไป แต่ไปอยู่ที่นู่นเราไม่รู้ ทีมงานบอกแล้วว่าเป็นดาราอย่าออกไปนะ คือที่อินเดียเนี่ยการเป็นนักแสดงเขาจะไม่ไปเดินตามถนน ซื้อของอะไรพวกนี้ เพราะแค่นักแสดงไม่ดังยังโดนรุมหนักมาก
ไปแรกๆ เราก็ไม่เชื่อหาว่าทีมงานเขาเว่อร์อะไรจะขนาดนั้นและด้วยความไม่รู้เรื่องว่าตัวเองออกสื่อบ้านเขาไปแค่ไหนแล้ว ก็ไปเดินเที่ยว ซื้อของ ปรากฏคนมารุมกันเยอะมากๆ จนแอนงง ทีมงานก็อธิบายว่ายูน่ะ ลงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับนะ คนที่นี่รู้จักยูหมดแล้ว ยูไม่รู้ตัวว่าดัง แต่คนที่นี่เขารู้
มีครั้งนึงเคยหนีไปให้ทาน คือเราเบื่อๆ รู้สึกคิดถึงบ้านเลยออกไปทำบุญที่วัด เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น ปรากฏว่าได้เลือด เจอข่วน คนรุมกันเกือบเป็นลม จนคนขับรถพาตัวออกมาได้ สุดท้ายต้องเชื่อทีมงานเลยว่าคนอินเดียเวลารุมดาราเขามาเป็นร้อยจริงๆ"
ทราบมั้ยว่าทำไมคนอินเดียถึงถูกใจเรา เพราะก็มีดาราไทยนะที่ไป แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าแอน
"แอนว่ามาจากการร้องเพลงฮินดี เพราะคนต่างชาติที่จะร้องเพลงอินเดียเนี่ยมันยากจริงๆ คนอินเดียไม่เชื่อว่าแอนเป็นคนไทย เชื่อมั้ยสื่ออินเดียทุกวันนี้ยังพยายามให้แอนเป็นเม็กซิโก หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะให้เป็น เขาถามแอนตลอดว่ายูลูกครึ่งอะไร แอนก็บอกทุกครั้งว่าคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งสิ่งที่แอนคิดว่าแอนเปิดใจคนอินเดียได้ ทั้งที่คนอินเดียเปิดใจรับดาราต่างชาติยากมาก การจะตีตลาดเขาได้นี่หินมาก ก็คือการที่เราร้องเพลงภาษาเขาได้และค่อนข้างชัด เริ่มแรกแอนไม่ได้ร้องเพลงโมเดิร์นด้วยนะ แอนร้องเพลงที่เปรียบเมืองไทยก็ร้องเพลงลูกทุ่งค่ะ ซึ่งยากกว่าร้องสตริงนะ สองที่เขารับเราก็คงเพราะเราเต้นอินเดียได้ทั้งแนวเก่าแนวใหม่ ที่แม้แต่นักแสดงอินเดียบางคนการเต้นแบบเก่าเขายังไม่ค่อยได้เลย เขาคงงงปนชื่นชม (หัวเราะ)"
อยู่มานานพอตัว บอกได้มั้ยว่าวงการบันเทิงไทย กับอินเดียต่างกันอย่างไร
"โห้ เมืองไทยแอนว่าแข่งขันกันแล้ว ไปอยู่บอลลีวูด แข่งขันกัน 100 เท่า แรงกดดันเยอะมากเพราะตลาดเขาใหญ่ ประชากรเขาเยอะจริงๆ แต่นักแสดงหลักๆ ที่เป็นบิ๊กสตาร์ ผู้ชายเนี่ยไม่ถึง 10 คน ซึ่งแสดงหนังกันจนอายุ 50 ก็ยังมี แต่นางเอกยังพอมีเวียนๆ มา แต่ก็ไม่ถึง 20 คน คนที่เป็นบิ๊กสตาร์เป็นควีน เป็นคิงส์ จองคิวกัน 4-5 ปีนะกว่าจะได้เขาไปเล่นภาพยนตร์สักเรื่อง คนที่รองานในบ้านเขาเยอะมาก บางคนรอ 6-7 ปี ไม่ได้เล่นทั้งที่เป็นระดับมิสอินเดีย แอนถือว่าโชคดีมากที่ได้คนดีๆ ดูแล บวกกับโชคชะตาที่ทำให้เราเข้าไปทำงานได้เรื่อยๆ ตรงนั้น"
เจออะไรหนักๆ เหนื่อยๆ บ้างมั้ยไปอยู่ที่นู่น
"เอาเมืองไทยก่อนดีกว่าค่ะ (หัวเราะ) ที่เมืองไทยก็จะมีคนไม่เข้าใจว่าทำไมทิ้งเมืองไทย ทำไมทิ้งเวที ทิ้งพี่เอ (ไชยา มิตรชัย) ซึ่งตรงนี้บั่นทอนจิตใจมากเพราะเราไปทำงานตรงนั้นต้องการกำลังใจ แต่ต้องมาเจอแบบนี้ แต่ก็พยายามทำใจ ให้เวลาพิสูจน์ตัวเรา
ส่วนที่อินเดียที่หนักๆ คือตอนไปอินเดียแรกๆ จะเจอคนที่มาหลากหลายรูปแบบ อย่างผู้กำกับที่ต้องให้เราไปนู่นนี่ด้วย แอนไม่รู้นะว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า แต่เราเลือกไม่ทำ โชคดีที่เราได้คนดูแลดีเราก็ผ่านมาได้
แอนว่าที่แอนผ่านมาได้เพราะแอนมีจุดยืนของเรา แอนไม่เคยรู้สึกเป๋ แอนบอกตัวเองว่าฉันต้องอยู่ได้โดยต้องไม่ทำอะไรที่ไม่โอเค ถ้าต้องทำอะไรไม่ดีฉันไม่เอา การที่แอนไปอยู่ตรงนั้นแอนระลึกเสมอว่าถ้าสิ่งดีๆ เกิดขึ้นแปลว่าพระเจ้าเป็นผู้ลิขิตมา เพราะฉะนั้นเขาจะมองดูเราตลอด ถ้าเราพลาดทำอะไรไม่ดี พระเจ้าจะไม่ช่วยเรา
และถ้าแอนยอมไปทำอะไรไม่ดีกับผู้กำกับ คนไม่ได้มองแค่แอนไม่ดี เขาจะมองผู้หญิงไทยไม่ดี แอนว่าเราไปเพื่อสร้างชื่อเสียงไม่ใช่ชื่อเสีย เวลาคนอินเดียจะพูดถึงเราต้องพูดถึงเรื่องดีๆ ยกย่อง ไม่ใช่บอกว่าผู้หญิงไทยคนนี้ดังได้เพราะอย่างอื่น ถ้าดังด้วยวิธีนั้นแอนอาจจะเลิศลอยได้ แต่ก็แป๊บเดียว และความภูมิใจของแอนเองก็จะไม่หลงเหลืออยู่เลย แอนไม่แลกอยู่แล้วค่ะ พ่อแม่เราสอนมา
สุดท้ายการที่เราไม่เอาตัวเข้าแลกเพื่อชื่อเสียง ก็ทำให้เราได้รับสิ่งดีๆ กลับมาจริงๆ นะ เราไม่ต้องทำงานกับที่ที่ให้แอนแลกตัว แอนได้บริษัทดีๆ เข้ามาดูแล ส่งให้เราอยู่ได้นานจนทุกวันนี้
ที่แอนพูดมานี้ไม่ได้หมายถึงคนอินเดียไม่ดีนะ แอนเชื่อว่าเรื่องพวกนี้ในวงการบันเทิงมีอยู่ในทุกประเทศ เพราะหลังจากเจออะไรไม่ดี แอนก็เจอคนดีๆ มาตลอด"
จะได้เห็นกลับมารับงานเมืองไทยมั้ย
"รับค่ะ แต่คิวต้องแจ้งกับทางบริษัท"
เรตค่าตัวล่ะ เมืองไทยไม่สู้นะ 50 ล้านบาท
"(หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ เรตที่นู่นที่เยอะ เพราะประชากรเขาเยอะ ไทยเราประชากรไม่เยอะขนาดนั้น จะมาเก็บอย่างนั้นคงไม่ได้ รับอย่างนั้นคงอยู่ในไทยไม่ได้หรอกค่ะ (หัวเราะ) แอนไม่ได้อัพค่าตัวนะคะ จ้างได้เหมือนเดิม อยู่เมืองไทยเราไม่สามารถเรียกค่าตัวเหมือนอยู่บอลลีวูดอยู่แล้ว"
ทำงานมากๆ ความรักล่ะ หนุ่มอินเดียมีมาจีบมั้ย หรือหนุ่มไทยยังมาวิน
"ไม่ๆ ไม่ได้ฟิกซ์ว่าต้องเป็นชาติไหน ถามว่ามีคนมาจีบมั้ยก็มี มีมาเรื่อยๆ แต่คนไทยไม่ค่อยจีบ ไม่เข้าใจเหมือนกัน (หัวเราะ) อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ทางโน้นมั้งคะ ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งเข้ามา แต่ยังไม่มีใครเป็นฐานะแฟน ทุกคนเป็นเพื่อน แต่แอนขอทุ่มให้งานก่อน ใครจะจีบก็ต้องตามคิวงานนิดนึง ความรักตอนนี้ให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิตเลยค่ะเพราะตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้ ขอแค่เขารักเราจริง แต่ตอนนี้งานก่อนค่ะ ความรักมีเมื่อไหร่บอกแน่นอน"
ส่งใจให้เธอดังดี ดังไกล ดังยิ่งๆ ขึ้นไป ในบอลลีวูด อินเดีย สู้ๆ "แอน มิตรชัย".
