Inside Dara
ก้าวผ่านความยากแค่ลงมือทำ ฉีกกฎความซ้ำฉบับ'อนันดา'

หากพูดถึงนักแสดงชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างร้ายกาจ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ในฐานะหนุ่มในฝันของสาวๆ แม้หัวใจจะไม่ว่าง แต่คงมีคนอยากสิงร่างนักแสดงสาว "โดนัท" มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล อยู่ไม่น้อย ผู้ชายคนนี้ทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในวงการบันเทิงมามากมาย พร้อมทัศนคติบางอย่าง ที่ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร ฉะนั้น "บันเทิง คมชัดลึก" ไม่พลาดที่จะคว้าตัว หนุ่มเจ้าเสน่ห์มาสะท้อนความคิดของผู้ชายมาดเซอร์

ตัวพ่อวงการหนัง
เล่นหนังห้องหุ่นเป็นอย่างไรบ้าง น่ากลัวขนาดไหน

เรื่องนี้เป็นแนวหนังผีหลอน ไม่ใช่อีโรติก ไม่ใช่เรื่องห้องหุ่นแบบที่เคยดูกัน แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับเรื่องห้องหุ่นที่เคยทำในเวอร์ชั่นละคร เรียกว่าเป็นคนละเรื่องเลย คนละช่วงเวลา ครั้งนี้จะเป็นห้องหุ่นที่พูดถึงครอบครัวของขุนเดช มีความน่ากลัว แต่จะเล่าเรื่องให้เป็นปัจจุบัน มันจะเป็นอีกยุคหนึ่งไปเลย เป็นหนังของเด็กรุ่นใหม่

โปสเตอร์นู้ดโปรโมทหนังหวือหวามาก

มันเป็นคอนเซ็ปต์ของเรื่อง ที่ว่าต้องคลายปมของตัวเอง ผมเลยเสนอไอเดียจากหน้าปกหนังสือเล่มหนึ่งของเจเน็ต แจ็คสัน แต่นานมาแล้วที่นู้ดหมดเลย ผมลองเสนอดูว่าเอาแนวนี้ไหม แต่ทำเป็นแนวอาร์ต ตอนแรกผมตกใจไม่คิดว่าจะนู้ดขนาดนี้ เพิ่งมารู้ว่านู้ดทั้งเซต ตอนจะถ่าย ถามว่าผมรู้สึกยังไง ตัวผมไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่ เพราะถอดมาหลายเรื่องแล้ว (หัวเราะ) ส่วนพลอย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) เป็นคนแมนๆ อยู่แล้ว เขาไม่ได้แคร์กับสิ่งเหล่านี้เท่าไหร่ งานคืองาน เอาจริงๆ คนในบริษัทผม อยากรักษาภาพลักษณ์ให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นเทพ เทพดีนัก ผมเลยแก้ผ้าถ่ายนู้ดเลย (หัวเราะ)

มีโปรเจกท์หนังเรื่อง "โอที"

ผมไม่เคยเล่นหนังแนวนี้มาก่อน เป็นแนวคอมเมดี้ เป็นการเล่นหนังคอมเมดี้ครั้งแรกของผมด้วย เป็นการนำ ตอน "โอที" ในหนัง "ตี 3" มาทำเป็นหนัง ที่สมบูรณ์แบบ เพราะคนเรียกร้องเข้ามาเยอะว่ามันสนุก เป็นสไตล์ที่น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว อย่างพวกแนว 4 แพร่ง 5 แพร่ง ที่จะเน้นตลก แต่ความน่ากลัว ก็มีเพื่อให้ดูลุ้น และผมอยากทำงานกับพี่เรย์ (เรย์ แมคโดนัลด์) เลยอยากเล่น มันลุ้นดีว่าสุดท้ายแล้วใครตาย มุกสับขาหลอกก็เพิ่มเข้ามาอีก

เล่นละครในรอบ 10 ปี
ละครเรื่อง “เสือ” เป็นอย่างไรบ้าง หลายคนรอคอยการกลับมาของอนันดา

โอเคนะ แต่ผมไม่ได้มั่นใจอะไรพิเศษ เพราะไม่ได้เล่นละครมานานมาก 10 กว่าปีได้ ละครที่เล่นเรื่องล่าสุด คือ "ในฝัน" ของหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) ซึ่งตอนนั้น อายุ 20 แต่ละครของหม่อมก็จะไม่เหมือนละครอยู่แล้ว พอกลับมาเล่นเลยงงๆ ยิ่งเรื่องนี้เป็นซีรีส์ 5 เรื่อง "เสือ สิงห์ กระทิง แรด หงส์" และผมต้องรับผิดชอบเรื่องเปิดตัวเลย ปวดหัวมาก ตอนแรกผมอยากเล่นเรื่อง กระทิง แต่พี่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ให้ผมมารับผิดชอบเรื่องนี้ เหตุผลที่ผมยอมเล่นเพราะพี่อ๊อฟ ถ้าไม่ใช่พี่อ๊อฟ ผมคงไม่เล่นละคร เพราะเรามีสัญญาใจกันไว้ และการทำงานกับพี่อ๊อฟ ผมมีความสุข

ร่วมงานกับ "คิม-คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส" เป็นอย่างไร

คิม น่ารักมาก อยากให้นึกถึงเด็กอ้วน ที่อารมณ์ดี เขาเป็นอย่างนั้น เพียงแต่ตอนนี้เขาโตเป็นสาวผอม สวย แต่ลึกๆ เขายังเป็นเหมือนเด็กอ้วนที่ยิ้มแย้ม เพราะตอนเด็กเขาเคยอ้วนมาก่อน ผมเคยเห็นรูปเขา (หัวเราะ) เรารู้สึกว่า เขาเป็นเด็กติ๊งต๊อง แต่ในแง่ของการทำงาน เขาจะไม่ทำงานอยู่บนความกังวล ซึ่งทำให้เขาเป็นนักแสดงที่ดีมาก มีความเป็นธรรมชาติสูง ทำให้งานของผมง่ายขึ้นด้วย

อนันดาเคยบอกไว้ว่า อาจเป็นละครเรื่องสุดท้ายที่รับเล่น

คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องสุดท้าย แต่เป็นเพราะอะไรผมก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะว่า ผมโตมากับวงการหนัง คุ้นเคยกับวงการหนังและเข้าใจในวงการหนังมากกว่า และผมอยู่ในรุ่นที่ไม่จำเป็นต้องมาปั้นตัวเอง เรารู้สึกว่าเราอยู่ของเราแบบนี้มันดีกว่า เราอยู่ในรุ่นที่ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงมากแล้ว ไม่ต้องมาโฟกัสในเรื่องชื่อเสียง แม้ว่าผมจะหันมาทำเบื้องหลังละคร แต่ละครของผมไม่ได้เหมือนกับละครปกติ เราทำแบบนั้นไม่ได้ด้วย

พระเอกเจ้าโปรเจกท์
เห็นว่าจะมีโปรเจกท์ซีรีส์ ทำไมถึงคิดจะทำซีรีส์

ผมพูดมานานแล้วว่า ทำไมเราไม่คิดจะทำซีรีส์ที่เป็นซีซั่นแบบซีรีส์ฝรั่ง เพราะในช่วงที่พักแต่ละซีซั่น เราจะมีเวลามาพัฒนาเรื่องราวต่อไปได้ ถ้าคนที่ติดละครฝรั่งจะเห็นว่าเรื่องจะเข้มข้นขึ้นในแต่ละปี เพราะคนดูรู้จักตัวละครแล้ว ผมใช้แนวความคิดของตัวเองว่า เวลาที่ผมชอบตัวละคร ผมอยากดูอะไรที่มากขึ้น ผมแค่อยากจะลองรูปแบบละครที่เป็นซีชั่น พอจบซีซั่น 1 จะมีซีซั่น 2

เห็นว่าจะซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ไต้หวัน "เพลย์ ฟูล คิส" มาทำเป็นเวอร์ชั่นไทย

ทุกคนรู้แล้วว่าเป็นเรื่องนี้ ตอนนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกันอยู่ คือจะมีซีรีส์ทั้งหมด 3 เรื่อง รอให้ทุกอย่างมันพร้อม รับรองว่าจะเปิดตัวให้ได้ทราบกันทีเดียวเลย แต่โปรเจกท์ของไมค์ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) กับ ออม (สุชาร์ มานะยิ่ง) คงจะเปิดปีหน้า ตอนนี้มีเขียนซีรีส์ "โสดเสมอ" เรื่องนี้จะคล้ายๆ เซ็กส์แอนด์เดอะซิตี้ แต่เป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย พูดถึงความสัมพันธ์ที่หลากหลายในกลุ่มเพื่อน ทั้งหมดนี้จะลงที่ช่องทรู

อนันดาจะทำซีรีส์ฟูลเฮ้าส์ภาค 2

ผมอาจจะทำฟูลเฮ้าส์ 2 ก่อน แต่ว่ายังไม่ได้คิดนะ แค่รู้สึกว่า ถ้าบางโปรเจกท์เราช้ากันมาก ผมอาจจะไปดึงฟูลเฮ้าส์ 2 มาทำก่อน แต่ถ้าได้ทำก่อนจริงๆ พระ-นางไม่ใช่ไมค์กับออม เพราะฟูลเฮ้าส์ 2 จะเหมือนเป็นอีกเรื่องเลย ใช้นักแสดงใหม่

โปรเจกท์ภาพยนตร์ไปถึงไหนแล้ว

ผมมีเขียนเอาไว้ 2-3 เรื่อง อยากจะทำหนังเล็กๆ หน่อย แบบลงทุนน้อยแต่บทดี ผมคิดว่าอยากหาบทที่ดีให้ออมเล่น อยากให้ออมได้โชว์ของ เพราะผมว่าเขาเป็นนักแสดงที่ดีคนหนึ่งเลย และเขาเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับสายอาชีพของเขา ผมมีบทดราม่าดีๆ บทหนึ่งที่กำลังจะส่งให้เขา แทนที่เขาจะได้เล่นแต่บทกุ๊กกิ๊กๆ ก็ในเมื่อออมก็อยากลอง เราก็จัดให้สักหนึ่งเรื่อง

คิดแบบอนันดา
การเป็นอนันดาทุกวันนี้ยากมั้ย

เหนื่อยนะ แต่ผมไม่เคยคิดอะไรคือความยาก เพราะผมรู้ตัวเป็นคนมีความต้องการสูงในหลายส่วนของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน สติปัญญาของตัวเอง ความสุขของตัวเองและคนรอบตัว ผมค่อนข้างมีมาตรฐานสูง แต่ผมไม่รู้สึกว่าจะมีข้อแม้อะไรที่ผมจะทำไม่ได้ ผมแค่รู้สึกว่า ทุกอย่างสามารถทำได้ ถ้าเราจะทำ

อย่าบอกผมว่าทำไม่ได้ตรงไหน ให้บอกผมว่าต้องทำยังไง ถึงจะทำได้ ผมคิดแบบนี้ มันเหนื่อยแต่เข้าใจง่ายดี และไม่ใช่คิดอย่างผมแล้วทุกอย่างจะง่าย ทุกอย่างยังคงยากเหมือนที่ควรจะเป็น แต่เราต้องถามตัวเองก่อนว่า เรามีความสุขกับสิ่งที่เลือกทำหรือยัง เพราะชีวิตผมทำหลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างมีความยุ่งยากมาก แต่ตอนที่ผมคิดจะตัดสินใจทำอะไรสัก อย่างมันง่ายมาก แค่ลงมือคือทำ และรับผิดชอบให้ดีที่สุด

เห็นว่าเป็นคนชอบมอเตอร์ไซค์มาก

ปกติผมเป็นคนชอบขี่มอเตอร์ไซค์นะ แฮปปี้มาก ผมชอบบรรยากาศโดยรอบ เวลาที่เราขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะร้อน หนาว หรือฝนตก เราจะได้รับบรรยากาศแบบนั้นปะทะกับตัว ผมชอบอะไรที่โหดๆ ลุยๆ เดินทางและมีส่วนร่วมกับสิ่งรอบตัว ผมเคยมีโอกาสไปทริปกับ "คาสตรอล เพาเวอร์ วัน" ขับมอเตอร์ไซค์ 1,000 กว่ากิโล จากโขงเจียม ถึงตะวันตกสุดที่สังขละบุรี มันมาก ไปถึงปวดขาหนีบไปหมด

อินเลิฟไม่มีกั๊ก
ความรักกับโดนัท หลังจากผ่านอุปสรรคมาหลายอย่าง

ดีนะ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก เราใจเย็นกันมากกว่าเดิม ค่อยๆ ดูกันไป ช่วงแรกที่คบกัน เราจะหนักไปทางใช้อารมณ์มากกว่า เพราะเขาเป็นคนเถียงหัวชนฝา ผมก็เป็นแบบนั้น เป็นเรื่องปกติที่จะมีเรื่องชนและปะทะกัน แต่ตอนนี้เราใช้ปากน้อยลง และใช้หูฟังกันมากขึ้น เราต้องปรับตัว ผมไม่ได้รีบ คบไปเรื่อยๆ สำหรับผมถ้าทุกอย่างไปได้สวย ก็เดินไปเรื่อยๆ

มองไปถึงขั้นไหน

ผมผ่านวัยที่จะเผื่อใจ เพื่อเจอคนโน้นคนนี้แล้ว ถ้าเราเจอคนที่ใช่ได้ เราจะแฮปปี้ แต่ทุกอย่างต้องค่อยๆ ดูกันไป เราคบกันก็จริง แต่สิ่งสำคัญที่สุด สำหรับเราสองคน คือความเป็นเพื่อน เขาเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของผม และผมก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมอยากให้เขามีส่วนร่วมในชีวิตของผม แต่ในอนาคตถ้ามันไม่สามารถไปด้วยกันได้ หรืออาจจะไปกันได้ดี เราเข้าใจแล้วว่า ยังไงเราก็รักเขา และเราคงต้องมีบทบาทอะไรบางอย่างในชีวิตของกันและกัน แต่เราไม่ได้รีบร้อนที่จะสรุปว่า บทบาทนั้นคืออะไร เพราะตอนนี้ทุกอย่างยังโอเค

คบกันด้วยความเข้าใจ

เราไม่ได้คบกันด้วยความคาดหวัง หรือมีแผนการอะไร แค่คบกันและอยู่ด้วยกัน ด้วยการสังเกตและฟังกันมากขึ้น ทำแค่นี้ก่อนดีกว่า อยู่กับปัจจุบัน ถ้าในอนาคตจะวาดฝัน หรือวางแผนอะไรได้มากกว่านี้ ค่อยว่ากันอีกที

โดนัทคิดเหมือนกันมั้ย

ผมไม่รู้ แต่เราลดอีโก้มาคุยกันทั้งคู่ ผมยอมรับว่าเป็นคนคบยากเหมือนกัน ไม่ใช่คนที่คบง่าย และตัวเขาก็มีส่วนที่ยากเหมือนกัน ในเมื่อเรารู้ตัวว่า แต่ละคนมีอัตตา มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่เราอยากแชร์ชีวิตของเรากับคนอื่น ฉะนั้นเราต้องเปิดรับฟังกันมากขึ้น และค่อยๆ เดินไปด้วยกัน ความใจเย็นเป็นสิ่งสำคัญในการคบกันของเรา

ชื่อ : อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ลูกครึ่ง ออสเตรเลีย-ลาว
ชื่อเล่น : จ่อย
เกิด : 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2525
การศึกษา : โรงเรียนบางกอกพัฒนา
ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา : อันดากับฟ้าใส, ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ, ชั่วฟ้าดินสลาย, อุโมงค์ผาเมือง
ผลงานภาพยนตร์ปัจจุบัน : ห้องหุ่น