Inside Dara
เบสท์ คำสิงห์ รับยังโสด หัวใจเปิดตลอด แต่ขอทำงานหาเงินก่อน เผยอาการป่วย พ่อสมรักษ์

เบสท์ คำสิงห์ รับยังโสด หัวใจเปิดตลอด แต่ขอทำงานหาเงินก่อน เผยอาการป่วย พ่อสมรักษ์ แนะทุกคนทำประกันสุขภาพ ตรวจร่างกายเป็นประจำ

เรียกได้ว่าปีที่ผ่านมาเจอมรสุมเข้ามาอย่างหนัก สำหรับสาว เบสท์ รักษ์วนีย์ หรือ เบสท์ คำสิงห์ ที่ต้องคอยรับมือกับกระแสดราม่าต่างๆ อีกทั้งในช่วงปลายปีที่ผ่านมาคุณพ่อ สมรักษ์ คำสิงห์ ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ (ข้างขวา) เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เจ้าตัวต้องคอยดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด

ล่าสุด เบสท์ คำสิงห์ มาร่วมงาน“แจกปฏิทินช่องวัน 31 ปี 2025″ ณ ลานอีเดน ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ ได้อัพเดตอาการป่วยของคุณพ่อ พร้อมอัพเดตเรื่องหัวใจ

ปีนี้เคานต์ดาวน์ที่ไหน?

“อยู่บ้านค่ะ เคาท์ดาวน์ที่บ้าน ไลฟ์สดค่ะ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนค่ะ เพราะคุณพ่อก็ป่วยด้วย น้องชายก็แขนหัก อยู่บ้านหมดเลยค่ะ”

เปิดปีด้วยคนป่วยเลย?

“จริงๆ ป่วยกันตั้งแต่ปลายปีแล้วค่ะ แต่น่าจะหายกันช่วงเดือนนี้ เลยไม่ได้มีแพลนไปเคานต์ดาวน์ที่ไหน”

ปีที่แล้วของเรามีมรสุมอะไรมาหาเราบ้าง?

“ก็มีตั้งแต่ปี 23 แล้ว พอปี 24 ก็เลยไม่ได้ตกใจเท่าไหร่ แต่ตกใจนิดนึงตรงที่คุณพ่อป่วย เพราะด้วยความที่ในบ้านไม่เคยมีใครป่วยขนาดนี้ แต่ถ้ามรสุมข่าวหรือกระแสดรามาก็มีเป็นปกติเลย (ยิ้ม)”

แข็งแรงแล้ว?

“เราไม่ได้แข็งแรง (ยิ้ม) แต่เรียกว่าโตขึ้น เริ่มรู้แล้วว่าต้องทำยังไง”

อัพเดตอาการคุณพ่อ?

“คุณพ่อตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ต้องกินยาตลอดชีวิต แต่ตอนนี้เขาสามารถขับรถได้แล้ว ต้องพบหมอเดือนละครั้งเลยค่ะ เพราะหมอจะมีสมุดให้บันทึก เขาจะดูจากที่เราบันทึกว่าโอเคมั้ย เราจะขยับได้ขนาดไหน ตอนนี้ขับรถได้แล้ว อนาคตอาจจะขับได้ไกลขึ้น อาจจะไปต่างประเทศได้ คุณหมอก็จะคอยบอก”

ตอนนี้ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมอ?

“ต้องอยู่ค่ะ เห็นหมอบอกว่าต้องอยู่ตลอดนะคะ เพราะเส้นเลือดในสมองตีบเป็นอาการที่ค่อนข้างอันตราย เราต้องกินยาตลอดชีวิตด้วย และหมั่นหาหมอตลอดด้วย”

แล้วเราดูแลคุณพ่อเป็นพิเศษยังไงบ้าง?

“หนูก็ทำงาน แล้วก็ให้คุณแม่ดูแล”

ค่าใช้จ่ายคุณหมอ ทำให้เราต้องทำงานหนักขึ้นไหม?

“เราอาจจะทำมาหนักก่อนหน้านี้แล้ว ก็เลยสามารถเซฟค่าใช้จ่ายได้ หรือยังมีพอที่จะดูแลคุณพ่อคุณแม่ เพราะก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะรับงานเยอะ เคยรับละคร 3 เรื่องติดๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับละครอะไร แต่ก็ทำออนไลน์ แต่ปีนี้รับงานนะคะ ไม่ว่าจะละคร ภาพยนตร์ ซีรีส์ มาได้เลย รับแล้ว (ยิ้ม)”

ตอนนี้คุณพ่อกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว?

“สัก 85% นะคะ เขาก็ปกติ แต่คุณหมอเขากลัวว่าเวลาที่เราใช้ร่างกายปกติ แล้วเราไม่รู้ว่าข้างในของร่างกายเรามันเป็นยังไง ก็อาจจะชักได้ หรือหัวใจเขาเต้นไม่ปกติ เต้นช้า ก็อาจจะหัวใจวายได้ถ้าเกิดอยู่ๆ เหนื่อยมากๆ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ เลยยังไม่ได้หายร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ”

พอคุณพ่อเริ่มดีขึ้น เราโล่งขึ้นไหม?

“โล่งค่ะ จริงๆ โล่งตั้งแต่ช่วงออกจากไอซียูแล้ว เพราะว่าเขาเริ่มขยับได้แล้ว ตอนแรกขยับไม่ได้ และพูดไม่ได้เลย เราก็ตกใจ แต่ตอนนี้ปกติแล้ว เราก็เลยโล่งค่ะ”

คุณพ่อรับรู้กระแสความเป็นห่วงของแฟนคลับบ้างไหม? “น่าจะรู้นะคะ เพราะอัพโซเชียลทุกวันอยู่แล้ว ออกกำลังกายก็อัพ พยายามจะบอกทุกคนว่าแข็งแรง แต่ชาวเน็ตไม่เชื่อ (หัวเราะ) ก็เป็นเส้นเลือดในสมองตีบเนอะ หนูเชื่อว่าหลายๆ คนอย่างคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณตาอาจจะเคยเป็นอยู่แล้ว ก็จะรู้ว่าอาการนี้ต้องรักษาตลอด ก็มีคอมเมนต์บอกว่าอย่าออกกำลังกายหนักนะคะ แต่พ่อเขากลัวคนไม่เชื่อ ก็พยายามอัพลงโซเชียลบ่อยๆ”

อยากแนะนำคนอื่นยังไงบ้าง?

“หนูว่าให้ทำประกันค่ะ (หัวเราะ) หมั่นทำประกันนะคะทุกคน เราอย่ารำคาญประกันเวลาเขามาขายนะคะ ซื้อไว้เถอะ เพราะเวลามันเกิดขึ้นเราจะมองหาประกัน (หัวเราะ) ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงค่ะ ไอซียูก็หลายบาท และเราไม่สามารถรู้ได้ เพราะโรคนี้บางคนอาจจะมีอาการบอกก่อน แต่ของพ่อเบสท์ไม่มีอาการบอก คือตอนเย็นคุยกันปกติ พอตื่นขึ้นมาเส้นเลือดในสมองตีบ มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ อยากให้ทุกคนทำประกันและตรวจสุขภาพ”

“พ่อจะไม่ชอบตรวจสุขภาพเพราะว่ากลัวเข็ม กลัวโรงพยาบาล คือเป็นนักมวยที่ถ้าแตกก็ไม่เย็บค่ะ กลัวมาก เลยไม่เคยตรวจสุขภาพ เลยไม่รู้เรื่องเลยว่าสุขภาพเป็นอะไรบ้าง อยากให้ทุกคนไปตรวจประจำปี หมั่นตรวจให้ตลอดค่ะ หลังจากนี้ก็กำลังหาประกันอยู่เหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)”

“ค่ารักษาก็คงเป็นเรื่องปกติของคนที่ป่วยโรคนี้ เส้นเลือดในสมองตีบก็หลักแสนอยู่แล้ว หรือถ้านอนนานกว่านั้นก็อาจจะเป็นหลักล้าน แล้วแต่โรงพยาบาลค่ะ แต่ของเราโชคดียังไม่ถึงหลักล้าน เพราะพ่อเขาฟื้นตัวเร็ว แต่ถ้าเราให้นอนต่อดูอาการก็อาจจะถึง แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เขาหายแล้ว พอดีขึ้นเขาก็ออกมาก่อน ก็เลยไม่ถึงค่ะ“

ทุกวันนี้พ่ออยู่บ้านไหน?

“อยู่บ้านที่กรุงเทพฯ เลยค่ะ แต่เขาน่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่ตอนนี้ (หัวเราะ) พอหายปุ๊บก็ไปกับเพื่อน หนูต้องฮีลใจตัวเองก่อน ต้องหาคนฮีลใจก่อน (ยิ้ม) ไม่ค่ะ ทำงานหาเงินค่ะ”

เรื่องหัวใจปีนี้ตั้งเป้าจะมีไหม?

“โสด หาเงินดีกว่า (ยิ้ม) ถามว่าสนใจมั้ย ก็สนใจ แต่ขอหาเงินก่อน เดี๋ยวนี้ตอบแบบดาราแล้ว (หัวเราะเขิน) เดี๋ยวพาดหัวให้ เบสท์ คำสิงห์ ขอรับงานตลอดทั้งปี ไม่มุ่งความรัก มุ่งแต่หาเงิน (หัวเราะ)”

ไม่ได้ปิดใจใช่ไหม?

“ไม่ค่ะ หัวใจเปิดตลอด แต่ขอทำงานหาเงินก่อน”

มีคนเข้ามาไหม?

“ไม่มี ดีเอ็มก็ไม่ได้เปิด เดี๋ยวเจอ (หัวเราะ)”

จะทันวาเลนไทน์ที่จะถึงไหม?

“อีกกี่อาทิตย์เอง หาไม่ทันหรอกค่ะ โสดแหละ (ยิ้ม) หาเงินก่อนค่ะ”...