เป้ย ปานวาด เล่าวีรกรรม เคยอุ้มท้อง บุกปะฉะลุยถึงคอนโด เผยจุดตัดสินใจจบชีวิตคู่ ลดความสัมพันธ์เหลือสถานะเพียงพ่อแม่ของลูก
หลังจาก เป้ย ปานวาด เหมมณี ออกมายอมรับตัดสินใจจบชีวิตคู่กับสามี ปรับลดความสัมพันธ์เหลือสถานะเพียงพ่อแม่ของลูกเท่านั้น
ล่าสุด เป้ย ปานวาด เล่าวีรกรรมในอดีตของสามี ป๊อบ นิธิ ในรายการ เมาท์อยู่กับปากอยากอยู่กับคิ้ม โดยเคยบุกเคลียร์กับผู้หญิงของสามีขณะกำลังตั้งท้อง พร้อมเล่าถึงจุดเปลี่ยนทำให้ตัดสินใจจบชีวิตคู่
คุยกันนานไหมกว่าจะตกลงแต่งงานกัน?
“เราคบกันแบบใช้เวลาไม่นาน เขามาขอหมั้นไว้ก่อน ณ ตอนนั้นวัยเราก็ได้ เราก็รู้สึกดี เป้ยคิดว่าในวัยนั้นเหมาะสมที่จะมีครอบครัวเพราะคิดไว้ว่าเป้ยอยากมีครอบครัวอายุ 30 เป็นเวลาที่ถูกต้องเลยแล้วเขาเข้ามาพอดี คิดว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา และเราอยากมีลูกในช่วงที่อายุเท่านี้ เราจะได้ไม่อายุเยอะเกินไปที่จะเลี้ยงเขาได้”
เรามองเห็นข้อเสียอะไรในตัวเขาไหม?
“แรกๆ ที่คบกันบอกเลยว่าไม่เห็น ถ้าเราเห็นก่อนคงไม่ได้แต่งงานหรอก แต่จะมีการคุยและตกลงกันไว้ก่อนว่า ถ้าเป็นผู้ชายเวอร์ชั่นนี้ๆ เป้ยไม่เอาเลยนะ อย่ามาจีบเป้ยเลยนะ เสียเวลา อย่ามาจีบเป้ยเลย คือห้ามเจ้าชู้ (หัวเราะ) อันนี้คือข้อตกลงแรกที่คุยกันเลย ตั้งแต่เดทแรกที่เจอกันแล้วมีโอกาสได้ไปไหนสองต่อสอง ถ้าเป็นคนประเภทนี้ขอไม่คบขอเป็นเพื่อนเลยนะ เพราะเรารับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้ อย่างอื่นอาจจะเป็นสิ่งที่เราพอจะรับได้ พอเข้าใจ แต่เรื่องเจ้าชู้เป็นเรื่องเดียวที่เป้ยรับไม่ได้”
แล้วเรามาเริ่มเห็นแววว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงเมื่อไหร่?
“ช่วงที่ตั้งท้อง มันมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้เราจับได้ เป้ยเป็นผู้หญิงประเภทไม่เช็ก ไม่ยุ่ง ไม่วุ่นวาย เคารพในการทำงานของเขา เราเป็นคนขี้หึงนะ แต่มีพื้นที่ให้เขา ความขี้หึงของเป้ยคือ สามารถไปที่หนึ่งแล้วเอาเรื่องเขาได้ ปะฉะลุยได้ ไม่เหลือ ไปหมดแล้ว เราต้องแน่ใจมากๆ มีคีย์การ์ด บิลใบเสร็จทุกอย่าง จ่ายค่าคอนโด เงินเดือน ทุกอย่างมีครบ รู้สถานที่รู้เบอร์ห้อง แล้วก็ไปที่คอนโดเขา”
ตอนไปขับรถอยู่ไหม คิดอะไรในใจ?
“ไม่คิดค่ะ ใจมันพุ่งไปแล้ว เหมือนไม่ได้คิดว่าจะไปเอาเรื่องอะไร แค่ต้องการเห็นความจริงและรู้ความจริงให้มันเห็นกับตา คือเป้ยแอบนัดป๊อบบอกว่าจะไปธุระพาไปหน่อย พอขึ้นรถปุ๊บก็บอกให้ไปที่ที่นี่ เขาก็งง ให้เขาพาไปค่ะ เขาก็ยอมพาไป ถ้าเขาไม่ไปเป้ยก็ไปเองอะ”
ระหว่างทางเขาไม่สั่นหน้าซีดเซียวเลยหรอ?
“คือเวลาที่เป้ยถึงจุดสุดๆ แล้วเขาก็ค่อนข้างเกรงใจ เวลาโมโหไม่มีภาพนางร้ายเลยค่ะ โมโหของเป้ยคือนิ่ง ที่ไปตอนนั้นผู้หญิงยังไม่เข้ามา เป้ยเข้าไปอยู่ในห้องก่อน ก็เอามือถือผู้ชายมาส่งข้อความไปหาผู้หญิงว่า พี่รออยู่ให้กลับมาได้แล้ว (หัวเราะ) โชคดีที่เขาให้ความร่วมมือและเกรงใจเรา”
คำแรกที่ผู้หญิงคนนั้นเห็นเราแล้วพูด?
“ผู้หญิงมาเจอก็ตกใจ อ้าว..พามาทำไม คุยกัน ส่วนใหญ่ก็ให้ป๊อบพูด ให้เขาตัดสินใจและพูดออกมา (คำพูดที่เราอยากได้ยินจากผู้ชายคนนี้?) ให้เขาบอกเลิกกัน อยู่ในห้องนั้นเป็นชั่วโมง เขาก็อยู่ไม่นิ่ง พยายามกลับกันเถอะๆ แต่เรามันเป็นประเภทสู้อยู่แล้ว เราไม่เคยกลัวอะไรที่เราไม่ผิด เป้ยไม่มีการใช้กำลัง ยกเว้นกับป๊อบอ่ะอาจจะมี เราจัดการกับคนของเราก่อนอยู่แล้วค่ะ ที่สุดแล้วไม่ว่าปัญหาจะเกิดขึ้นกี่ครั้งเป้ยจะโทษคนของเป้ย”
มันคือครั้งแรกในชีวิตเรา?
“หลายครั้งสิ (หัวเราะ) แต่ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่จะมีอารมณ์แบบนี้ แต่อารมณ์แรกคือใส่ก่อนเลย หลังจากนั้นค่อยมาร้องไห้เป็นสเต็ปต่อไป ค่อยมาอยู่กับตัวเอง คือร้องจนไม่มีน้ำตาก็มี เราอยู่กับตัวเองทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เมื่อคุยกับเขาแล้วไม่ได้คำตอบ คุยกับเขาว่าเราผิดพลาดอะไร เขาก็บอกว่าเราดีพร้อมทุกอย่าง ทั้งในความเป็นแม่ ความเป็นภรรยา ดีหมดเลย อ้าว..แล้วทำทำไมอะ เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ เมื่อก่อนก็มีปรึกษาเพื่อนๆ ค่ะแต่สุดท้ายเป้ยเชื่อว่ามันไม่เวิร์คหรอก”
จุดไหนที่เราไม่ทนแล้ว?
“ล่าสุดคือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ช่วงที่ท้องน้องคนเล็ก ก็ได้มีการตกลงกันแล้วว่า ถ้าเกิดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เป้ยไปแล้วนะ ซึ่งจริงๆ ณ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกสภาพจิตใจตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว จนมีอยู่คืนหนึ่งเป็นคืนที่เราตัดสินใจแล้ว เป็นคืนที่ลูกชายรู้เรื่อง เขาอายุประมาณ 11 ขวบ ในวันที่รู้ความจริงเขากอดเป้ยจนถึงเช้าเลยอ่ะ ตอนนั้นประมาณ 04.30 น. ที่เขาตื่นขึ้นมาได้เห็นทุกอย่าง เรากอดกันจนถึง 8 โมงได้มั้ง โดยปกติเขาจะแบบมีกลุ่มเพื่อนที่ตอนเช้าจะต้องไปเล่นเกมทักทายกัน เขาไม่ไปเลย อยู่กอดเป้ยตลอดเวลา เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เป้ยคุยกับเขาว่า เราจะผ่านปัญหานี้ไปให้ได้ แม่จะทำให้ดีที่สุด ก็เป็นคืนนั้นแหละที่ทำให้เป้ยตัดสินใจว่า เป้ยจบ”
จบกันแบบต่างคนต่างจบ จบแบบมีสติ?
“ไม่ๆ จบไม่ดีก่อน แล้วเรื่องล่าสุดมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ทุกวันนี้เรารู้สึกโอเคกันมาก ลูกแฮปปี้มากที่เจอพ่อแม่ในเวอร์ชั่นนี้ ลูกรู้สึกว่า ทำไมไม่เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้คุณป๊อบมีอะไรก็กล้าที่จะคุยกับเป้ย ปรึกษาเป้ย ตัวเป้ยเองก็เช่นกัน”...
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012