Thai and Lao Interpreters' Study Group กลุ่มศึกษาของล่ามภาษาไทยและภาษาลาว ตอนที่ 4

***รายได้ของล่าม หลายคนถามว่าดีมั้ย สำหรับฉันแล้วคิดว่าดีทีเดียว ข้อมูลจาก US Labor Statistics ระบุว่า 10% ของล่ามและผู้แปลเอกสารทำรายได้สูงกว่า $80,000 ต่อปี พวกนี้เป็นผู้ที่อยู่ในวงการมานาน มีประสบการณ์และค่าตัวสูง แต่พวกที่ทำพาร์ทไทม์ก็สามารถทำได้ถึงปีละ $20,000 - $35,000 สำหรับฉัน นอกเหนือจากรายได้ที่ดีแล้ว ที่ชอบงานล่ามก็เพราะได้เดินทางไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ฟรี ได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ ได้เรียนรู้ตลอดเวลา และมีเวลาว่างช่วงรอที่จะอ่านและเขียนหนังสือ มีเวลาเขียนโพสท์ช่วงเบรคด้วย เช่นโพสท์นี้ บางวันนั่งรอในศาลเป็นชั่วโมง แต่ก็ได้ตังค์ เดี๋ยวเสาร์อาทิตย์นี้จะบอกวิธีการเป็นล่ามทางการแพทย์สำหรับมือใหม่นะคะ


***ว่าด้วยการแปลผิด...

ล่ามทุกคนไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนต่างก็เคยแปลผิดพลาดมาแล้วทั้งสิ้น แต่เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น ก็จะแปลผิดน้อยลง แต่มือใหม่ส่วนมากมักจะแปลตกเพิ่มไปด้วย ต้องฝึกตลอดค่ะ

ตัวอย่างที่ตัวเองเคยแปลผิด

- ได้ยินคำว่า sidewall เป็น sidewalk พอดีพูดถึงเรื่องรถ นึกว่าแปลว่าฟุตบาธ แต่ความจริงต้องแปลว่า แก้มยางรถยนต์

- แปลคำว่า "หลาน" ว่า "grandson" โดยที่ไม่ยืนยันกับผู้พูดก่อนว่าหมายถึงอะไร ปกติจะขอเวลานอกแล้วบอกว่า "The interpreter would like to verify the gender of the subject." ก่อน แต่คราวนี้เดาเอาเองเพราะ "หลาน" คนนี้ไปต่อยกับเพื่อนบ้าน และยายที่ให้การก็แก่มาก เลยนึกว่าเป็นหลานชาย เลยแปลว่า "grandson" แต่ปรากฏว่าเป็นหลานสาวที่ควรแปลว่า "niece" เกิดการสับสนในศาลพอสมควร

- บางคำแปลได้หลายอย่าง แต่ตอนนั้นเลือกคำผิด แปลคำว่า "magazine" ว่า"นิตยสาร" แต่ในบริบทควรแปลว่า "รังกระสุน" แต่อันนี้บริบทก็สองแง่สองงุม จึงไม่ถือว่าผิดมาก ถ้าเขาใช้คำว่า "banana clip" ก็จะแปลว่า "รังกระสุน" ได้โดยที่จะไม่เลือกใช้คำอื่น

- ได้ยินคำว่า account เป็น accountant พอดีเป็นประโยคที่สำคัญ ทนายงงมาก โชคดีที่แก้ได้ทันที

- แปลคำว่า "ไม่รู้สึกตัว" ว่า "unconscious" แต่บริบทควรแปลว่า "unaware of what was going on" อันนี้สองแง่สองงุม แต่ต้องใช้อันที่สอง อันนี้เป็นคดีพยายามฆ่า แม้แต่คำเดียวก็แปลผิดไม่ได้ เลยขอศาลแก้คำแปลของตัวเอง "The interpreter would like to correct her translation in the previous statement."

- ฝรั่งบางคนพูดรัวๆ แล้วทำให้ฟังไม่ชัด ครั้งหนึ่งแปลคำว่า urination เป็น "your nation" คนไทยงง ว่าทำไมต้องมาถามเรื่องประเทศ พอดีตอนนั้นเป็นการถามแบบทั่วไป ถามหลายเรื่อง ไม่ใช่ถามแต่เรื่องสุขภาพ งงทั้งล่าม ทั้งคนฟัง

- รู้แต่ศัพท์ยากๆ บางทีลืมศัพท์ง่ายๆ เช่น คำว่า "chive" คิดคำว่า "กุยช่าย" ไม่ทัน ใช้ทับศัพท์ก็ไม่ได้ คนไทยไม่รู้ว่า "chive" คืออะไร ทำให้เกิดการสะดุดในการแปล เดี๋ยวนี้เลยฝึกดะ จำหมด ทั้งยากทั้งง่าย พยายามไม่ให้พลาดอันง่ายๆ

- สำนวน let one's guard down เข้าใจผิดนึกว่าพูดถึง ร.ป.ภ. แต่คนละความหมายไปเลย อันนี้หมายความว่า ลดความระมัดระวังลง ไม่ได้แปลว่า ทำให้ร.ป.ภ.ผิดหวัง

ยังมีอีกเยอะเลยค่ะ แต่ที่ดีก็คือ อะไรที่เคยทำผิด จำฝังใจ ไม่เคยผิดครั้งที่สองอีกเลย จึงถือว่า ผิดเป็นครู


***ล่ามและนักแปลมือใหม่มักกลัวว่าจะแปลผิด เลยชอบแปลตามตัวกัน ทำให้ไม่รื่นหูและบางทีทำให้คนฟังหรือคนอ่านไม่เข้าใจไปเลยก็มี เช่นประโยค "Honor your client's request." เวลาเป็นล่ามควรแปลว่า "ทำตามที่ลูกค้าขอ" ส่วนเวลาเขียนควรแปลว่า "ทำตามที่ลูกค้าต้องการ หรือ ทำตามที่ลูกค้าร้องขอ" หลายครั้งเห็นคนแปลมือใหม่แปลว่า "ให้เกียรติคำเรียกร้องของลูกค้า" พอฟังหรืออ่านแล้ว ก็จะงง เพราะฉะนั้น เวลาแปลเป็นล่ามจะแปลแบบจับใจความให้คนฟังเข้าใจไม่ต้องเป๊ะๆ แต่เวลาแปลเอกสารภาษาต้องสละสลวย อ่านแล้วเข้าใจง่าย มีตัวอย่างเยอะมากค่ะ ตอนทำใหม่ๆ ตัวเองก็เคยเป็น ที่ตัวเองเคยทำผิดก็เยอะ เพราะผิดเยอะ เลยได้เรียนรู้เยอะ ทุกอย่างจากประสบการณ์ทั้งสิ้นค่ะ นึกได้จะเอามาเล่าให้ฟัง


***ล่ามสมัยนี้ไม่ใช่จะแปลได้ทุกอย่างนะคะ ส่วนมากจะแปลสาขาที่ตนเชี่ยวชาญ เช่น ฉันเชี่ยวชาญด้านกฎหมายอเมริกาและด้านการแพทย์ จะชินศัพท์ที่ทนายหรือหมอใช้กัน แต่บางทีก็มีลูกค้าขอให้แปลสาขาอื่น ถ้าดูเนื้อหาแล้วว่าโอเค ก็จะรับ แต่ดูคำศัพท์แล้วไม่คุ้น ต้องเตรียมตัวเยอะมาก มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ ก็ไม่อยากแปล ต้องปฏิเสธงานไปโดยเฉพาะศัพท์ทางด้านเครื่องกล เครื่องยนต์ ฟิสิกส์ เนื้อหาแบบนี้พูดเป็นไทย ยังไม่รู้เรื่องเลย จะไปแปลให้คนอื่นฟังได้ยังไง เพราะฉะนั้น งานไหนที่เราคิดว่าไม่เข้าใจหรือมีศัพท์เทคนิคมากๆ ที่เราไม่คุ้น ก็จะไม่รับ เดี๋ยวเสียชื่อ การแปลที่ดีนั้น ผู้แปลต้องฟังให้เข้าใจก่อนแล้วจึงถ่ายทอดให้ผู้ฟังเข้าใจเป็นอีกภาษาหนึ่งโดยไม่ให้เนื้อหาที่สำคัญตกหล่นหรือผิดพลาด

จะเก่งแต่ภาษาอย่างเดียวไม่ได้ ล่ามและผู้แปลเอกสารต้องมีความรู้รอบตัวและไหวพริบมากกว่าคนทั่วไป ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม วัฒนธรรมและเหตุการณ์ปัจจุบันด้วย อย่างน้อยควรอยู่ในประเทศนั้นๆ สักสองปีขึ้นไป และต้องขยันอ่านหนังสือพิมพ์สำหรับภาษาที่เราจะแปลทั้งสองด้วย


***มีคนเคยถามว่าทำไมล่ามได้เงินเยอะ เช่น ล่ามญี่ปุ่นที่ไทยได้เงินเดือนพอๆ กับวิศวะเลย เดือนละเจ็ดหมื่นบาทก็มี ล่ามที่อเมริกาจ้างเป็นวันละพันดอลก็มี คำตอบคือ หาคนที่จะทำงานแปลให้ดีนั้นไม่ใช่ง่ายๆ แต่ถ้างานง่าย คนทำได้เยอะ ค่าจ้างก็ลดมาตามส่วน งานล่ามฉับพลันเป็นงานที่ยากมาก ล่ามต้องไวและแม่นยำมาก ค่าตัวล่ามจึงสูง งานประชุมใหญ่ๆ บางแห่งจ่ายล่ามฉับพลันถึงวันละสองพันเหรียญ แต่ต้องคัดตัวกันน่าดูเหมือนกัน งานล่ามเทคนิคก็ยากเหมือนกัน แต่ล่ามเทคนิคจะแปลได้แต่เรื่องที่ตนถนัด ค่าตัวก็จะดีพอควร


***การรู้หลายภาษานั้นได้เปรียบคนอื่นหลายอย่างถ้าเรารู้จักเอาไปใช้ ถึงแม้เพื่อนๆ ในกลุ่มนี้จะไม่ได้เป็นล่ามทุกคน แต่จะสามารถเอาความรู้ด้านภาษาไปประยุกต์ใช้ในทุกสายอาชีพและในชีวิตประจำวันได้ การพูดหลายๆ ภาษากับคนหลายๆ ชาตินั้นนอกจากจะสนุกแล้ว ยังทำให้เราหูตากว้างไกล สามารถรับวัฒนธรรม ความคิดเห็นที่แตกต่างได้มากขึ้นอีกด้วย


***พออายุหลักห้า ล่ามหลายคนต้องหยุดแปลแบบฉับพลันหรือแบบที่ต้องเดินทางบ่อยๆ นั่นก็เป็นเพราะสุขภาพไม่อำนวย ต้องใช้พลังงานและสมาธิมาก ความคิดต้องว่องไว แม่นยำ เพราะฉะนั้น ล่ามต้องสุขภาพดีด้วย ฉันจึงดูแลสุขภาพตัวเองเรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกายโดยการเดิน เต้นและทำโยคะทุกวัน ไม่ต้องไปยิมให้เสียเวลา เวลาไปทำงานกับพาร์ตเนอร์ที่ต้องแปลด้วยกัน พอบ่ายมา ล่ามคนอื่นหมดแรง ต้องโด๊ปด้วยกาแฟ กระทิงแดง แต่เรายังมีเอนเนอร์จีทำต่อ ไม่ต้องใช้ตัวกระตุ้น อันนี้ สำคัญมากเพราะต้องรักษาคุณภาพของงานแปลตลอดรายการ ความจริงเรื่องสุขภาพสำคัญทุกอาชีพอยู่แล้ว


***ข้อสอบเป็นล่ามกฎหมายยากนะ คำศัพท์ที่เลือกมาไม่รู้เอามาจากไหน เขาเอาไว้เพื่อคัดคน แต่เวลาใช้งานจริง แทบจะไม่เห็นคำศัพท์พวกนั้นเลย พอทำงานจริงๆ ต้องจำศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ และเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในสายงานที่จะแปล อีกไม่กี่วัน ฉันจะไปบินไปแปลให้ชาวแอมเวย์แบบฉับพลันที่ฝั่งตะวันออกของอเมริกา เลยต้องเปิดยูทูบดูฟังเขาพูด เวลาคำไหนติด ก็จดไว้ แปลไว้ล่วงหน้า ถึงแม้จะเป็นคำง่ายๆ คิดว่าตัวเองรู้ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้ พอถึงเวลาแปล มักคิดไม่ทัน ต้องทำการบ้านไปก่อน ถึงเวลาจริงจะได้ใช้ได้เลย