สมาธิกับการเป็นล่าม

พอมาเป็นล่ามจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่ามฉับพลัน ทำให้ฉันได้คำตอบอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้ว่าคุณจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาเป็นล่ามที่ดีได้ เพราะมันมีหลายปัจจัยประกอบกัน นอกเหนือจากจะต้องมีทักษะการแปลเฉพาะตัวและความรู้รอบตัวแล้ว สมาธิเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดกับงานนี้ เพราะต้องทำงานประสานกันทั้งร่างกายและจิตใจ ตัวสมาธิต้องแข็งแรง เพราะเราไม่สามารถไปบอกผู้พูดให้หยุดพูดเพื่อรอเรา หรือไปนั่งถามเขาว่าคุณจะพูดอะไรต่อ การเป็นล่ามฉับพลันต้องอาศัย ทวารทั้งห้าที่จะไปพร้อมๆ กันโดยไม่ติดขัด อย่างแรกเลยคือ ตา หลายครั้งที่ผู้พูดจะใช้สื่อนำเสนอหรือที่เราเรียกว่า presentation ในแต่ละสไลด์ที่โชว์ เราต้องคอยอ่านด้วยว่าเขาเขียนอะไร บ่อยครั้งที่เขาเลื่อนสไลด์ไปอย่างรวดเร็ว เราต้องตามให้ทัน เพราะเนื้อหามันเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องที่เขาจะพูด ในขณะที่ หู ซึ่งเป็นอวัยวะส่วนสำคัญมากในการแปล เพราะต้องคอยฟังให้ทัน และจับใจความสำคัญอย่าให้ตกหล่น มาถึงตรงนี้ก็อยากจะขอแนะนำผู้ที่จัดงานด้วยว่า หากต้องการล่ามฉับพลันไปแปลในงานของท่าน ควรจัดล่ามไปนั่งในที่ๆ คนไม่พลุกพล่าน อาจจะมีมุมส่วนล่ามโดยเฉพาะหรือแยกส่วนกันออกไปเลยและต้องมีอุปกรณ์ เช่นหูฟังและไมโครโฟนให้พร้อม และไม่จัดให้ล่ามไปนั่งใกล้กับลำโพงเครื่องเสียง เพราะหากมีเสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเสียงปรบมือ เสียงเพลงหรือเสียงโห่ร้องจากผู้ร่วมงาน จะทำให้ประสิทธิภาพการฟังของล่ามลดลง นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพการแปลก็จะลดลงตามไปด้วย จมูก การเป็นล่ามฉับพลัน ต้องพูดต่อเนื่องตลอด บางครั้งผู้พูดๆ เร็วมาก จนแทบไม่ได้พักหายใจ ล่ามจึงต้องคอยรักษาจังหวะการหายใจ ผ่อนสั้นยาวให้สม่ำเสมอ ไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป ลิ้น จะช่วยในการออกเสียง ร เรือ ล ลิง ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คนลิ้นไก่สั้นจะทำงานนี้ไม่ได้เลยหรือ บางคนอาจจะต้องฝึกการใช้ลิ้น ในการออกเสียง ตัว R ตัว L ให้ชัดเจน เช่นคำว่า river หรือ liver ถ้าออกเสียงผิดจะผิดความหมาย หรือหลายคำที่ตัว R กับ L อยู่ด้วยกันเช่น Lawrence, library, barley หรือแม้แต่คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ความหมายต่างกันที่เรียกว่าคำพ้องเสียงเช่น meat กับ meet, muscle กับ mussel, pair กับ pear, cell กับ sell, right กับ write เป็นต้น กาย ล่ามต้องมีร่างกายที่แข็งแรงเพราะต้องใช้พลังงานเยอะ หลายคนคิดว่านั่งเฉยๆ ไม่น่าจะเหนื่อยอะไร ฉันเองก็เคยคิดเช่นเดียวกัน แต่พอมาทำจริงๆ ฉันว่าเหนื่อยกว่างานใช้แรงเสียอีก เพราะต้องอยู่ยาวหลายชั่วโมง สมองต้องคิดต้องเวลา และใช้พลังงานความคิดเยอะมาก ดังนั้นร่างกายที่แข็งแรงจะช่วยให้เราทำงานได้นานขึ้น จิตใจ อย่างที่ฉันบอกไปตั้งแต่แรกว่า สมาธิสำคัญที่สุดกับงานนี้ ต่อให้คุณเก่งมาจากไหนก็ตามถ้าไม่มีสมาธิคุณจะทำงานนี้ไม่ได้ เพราะคุณไม่สามารถหยุดผู้พูดเหมือนหยุดฟังเทปเพลงแล้วมาเปิดใหม่ ผู้พูดพูดแล้วผ่านต่อเลยไป ไม่ย้อนกลับมาอีกหากคุณจับไม่ทัน นั่นหมายความว่าคุณอาจจะพลาดใจความสำคัญไปและอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่เราแปลให้ ดังเรื่องน้องที่แปลที่ศาลที่ฉันกล่าวถึงไปแล้วข้างต้น ฉันโชคดีตรงที่ฝึกสมาธิมาตลอด ตั้งแต่เป็นเด็ก พอถึงวันจริงฉันตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน แต่ฉันจะสวดมนต์ก่อน และมีสติรู้อยู่ตลอดเวลา ตื่นเต้นก็รู้ว่าตื่นเต้น ควบคุมการตื่นเต้นได้ และเมื่อถึงเวลาต้องแปล สามารถเรียกสมาธิกลับมาได้ทันที ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณพี่เอ๋ เบญจวรรณด้วยที่เป็นครูผู้สอนคอย แก้ไขสถานการณ์ เวลาที่ฉันนึกคำศัพท์ไม่ออก แต่มาถึงตรงนี้ฉันก็อยากจะฝากถึงผู้อ่านด้วยนะคะว่า ถ้าคุณไปเจอเพื่อนร่วมงานที่ดี ก็โชคดีไป แต่ถ้าบังเอิญไปเจอคนที่เขาไม่ช่วยอันนี้ก็แย่หน่อย แต่ทางที่ดี เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ อันนั้นคือดีที่สุดค่ะ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนนะคะ สวัสดีค่ะ