โรบินฮู้ดที่สหรัฐอเมริกา

ตอนเด็กๆ ฉันไม่ชอบเรียนหนังสือเลย คิดว่าการไปโรงเรียนคือการไปเที่ยวพักผ่อนอย่างหนึ่ง ไม่เคยตั้งใจเรียนเลย ผลที่สุดก็ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ รู้สึกผิดเหมือนกันที่ทำให้แม่ผิดหวัง จึงมาเรียนที่รามคำแหง การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก จากบางกรวยไปบางนา ต้องนั่งรถถึงสามต่อ ค่าเดินทางไปกลับเกือบร้อยบาทต่อวัน รู้สึกสงสารแม่มาก คิดอย่างเดียวว่า ต้องรีบเรียนให้จบให้เร็วที่สุด จะได้ออกมาช่วยแม่ทำงาน ในที่สุดก็จบคณะมนุษย์ศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ใช้เวลาเรียนสามปีครึ่ง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตั้งใจเรียนมากจริงๆ พอเรียนจบ เพื่อนบอกว่ามีโครงการ Work & Travel เป็นโครงการแลกเปลี่ยนไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา เอาไหม (สมัยนั้นคือปี 2002 คนยังไม่ได้สมัครมากันมากเหมือนในสมัยนี้ ตอนนั้นที่ฉันมากันมีแค่สิบหกคนเอง) ฉันรีบตอบตกลงทันที แม่ต้องไปยืมเงินเพื่อนๆ รวบรวมมาเป็นค่าเดินทางให้ฉัน ตอนนั้นฉันมีเงินติดตัวมาแค่สองร้อยเหรียญ กะว่ามาหาเอาดาบหน้าก็แล้วกัน มาถึงก็มาทำงานสวนสนุกแห่งหนึ่งในรัฐ Illinois ชื่อ Six Flags Great America พอสิ้นสุดสัญญาจ้างสี่เดือน คนอื่นๆกลับบ้านกันหมด ฉันกับเพื่อนอีกคนตัดสินใจอยู่ต่อ กลายเป็นโรบินฮุ้ด เต็มขั้น โชคดีที่ได้รู้จักกับคุณป้าคนไทยท่านหนึ่ง ชื่อป้ามีมี่ ท่านให้ฉันกับเพื่อนพักที่บ้านนานหลายปี แถมหางานให้ด้วย ก็ได้ป้ามีมี่นี่แหละช่วยทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติอะไรเลย มานึกถึงตรงนี้ก็คงเป็นบุญ ที่แม่เคยช่วยหลานๆ ให้มาอาศัยอยู่ที่บ้าน จึงได้มาพบกับป้ามีมี่ ถ้าไม่ได้ป้าท่านนี้ช่วยไว้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชีวิตจะไปทางไหน ฉันเริ่มทำงานที่ร้านอาหารไทยก่อน แล้วก็ส่งเงินกลับบ้านไปให้แม่ด้วย มาตอนหลังรู้สึกว่าภาษาอังกฤษไม่พัฒนาเลยก็เคยคิดอยากจะไปทำงานกับร้านฝรั่งดูบ้าง วันหนึ่งไปเดินเล่นแถว Navy Pier เห็นมีเรือสำราญลำใหญ่จอดเทียบท่าอยู่หลายลำ แล้วเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นไปบนเรีอเลยไปถามเขาว่าถ้าฉันว่ายน้ำไม่เป็นจะสมัครงานที่นี่ได้ไหม เขาบอกว่าลองมาสมัครดูก็ได้ หารู้ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นคือ CEO ของกิจการเรือสำราญทั้งหมดที่จอดอยู่นั้นเอง (เรือสำราญไม่ได้ล่องออกนอกชิคาโก ล่องแต่เฉพาะทะเลสาบมิชิแกน การล่องเรือแต่ละเที่ยวใช้เวลาสามชั่วโมง เป็นเรือระดับห้าดาว มีเสิร์ฟอาหารมื้อกลางวันและมื้อเย็น) ฉันลองไปสมัครและได้งานเป็นผู้ช่วยเสิร์ฟ ทำอยู่สี่ปีจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็น Captain Floor ซึ่งเป็นตำแหน่งหัวหน้าพนักงานเสิร์ฟทั้งหมด ทำงานที่นี่ภาษาอังกฤษของฉันพัฒนาไปเร็วมาก โดยเฉพาะทักษะการพูด และเจ้านายที่นี่นิสัยดีมาก หนึ่งในนั้นเป็นคนเขียนใบรับรอง (Letter of Recommendation) ให้ฉันตอนสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทด้วย แต่ฉันก็ต้องลาออก มาทำงานที่โรงแรมสี่ดาวแห่งหนึ่ง มาเป็นพนักงานทำความสะอาดห้อง (Housekeeper) สาเหตุที่ต้องทำก็เพราะเวลาหน้าหนาวที่ชิคาโก ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง จึงไม่สามารถล่องเรือได้ ทำให้ขาดรายได้ไปมาก ฉันจึงต้องหางานใหม่ งานทำความสะอาดห้องในโรงแรมเป็นงานที่หนักมาก แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อเราเป็นโรบินฮู้ด ไม่มีสิทธิ์บ่นอยู่แล้วนี่ ตลอดสิบสองปีในชิคาโก ฉันไม่ได้กลับบ้านไปหาแม่เลย ได้แต่ส่งเงินไป กับคุยกันทางโทรศัพท์ แม่ย้ำเสมอว่าอย่าละทิ้งการปฏิบัติธรรม

การศึกษาและงานจิตอาสา โดย กฤษพร สุริยจันทร์

ฉันได้มาสวดมนต์ทำวัตรเย็นที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุในชิคาโกบ่อยๆ และเริ่มมาช่วยงานวัดตั้งแต่ปี 2009 โดยเริ่มจากล้างจานและทำความสะอาดห้องน้ำให้วัด การล้างห้องน้ำมีข้อดีอย่างหนึ่ง คือการช่วยให้เรารู้จักการปลงอสุภะได้ง่ายขึ้น ของเสียที่ออกมาจากร่างกายของเรา ล้วนแล้วแต่มีในร่างกายเราทุกคน เมื่อมันอยู่กับเราๆไม่ได้นึกรังเกียจ จนกระทั่งถูกขับออกมาเป็นน้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง น้ำลาย ทุกคนกลับรังเกียจเห็นว่าขยะแขยง แปลว่าร่างกายของเรานั้น มีแต่ความสกปรกเน่าเสีย แถมอาหารที่เรากินเข้าไปก็ล้วนแล้วแต่เป็นซากศพ ไม่ว่าจะเป็นซากศพหมู ไก่ เป็ดทั้งนั้น ครั้งหนึ่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเคยเทศน์ว่า อย่าไปสนใจในความสวยงามของร่างกาย แต่ควรบำรุงรักษาสุขภาพ เพราะมันเป็นประโยชน์ให้เราได้ใช้ทำความดีต่อไป ที่วัดแห่งนี้เอง ฉันได้พบกับสามี (ดร. พิบูลย์ อภิรักษ์วรพินิต) ที่มาสวดมนต์และเป็นอาสาสมัครเช่นกัน หลังจากคบหาดูใจกันสองปี ก็ตกลงแต่งงานกัน

หลังแต่งงานฉันตัดสินใจลาออกจากงาน มุ่งมั่นเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าปริญญาโท และในที่สุดก็ได้เรียนในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เอกนโยบายและการวางแผนเพื่อพัฒนาชุมชน ณ มหาวิทยาลัยชิคาโก ฉันเลือกเรียนในสิ่งที่ฉันรักมากกว่า คิดถึงเรื่องเงินทองหรือค่าตอบแทน ฉันหวังว่าจะนำความรู้ที่ได้มาเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงชุมชนที่เราอยู่ให้ดีขึ้น การเขียนแผนหรือวางนโยบายนั้น ต้องให้ครอบคลุมถึงผู้ที่ต้องการ โดยไม่ขัดกับวัฒนธรรม หรือ ความเป็นอยู่ของสังคมนั้นๆ ในภาคปฏิบัติ พวกเราทุกคนต้องเลือกไป ฝึกงานกับองค์กรในแผนกที่ตัวเองสนใจ ในปีแรก ฉันเลือกไปทำที่ Howard Brown Health Center ซึ่งเป็นองค์กรที่รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ (HIV/AIDS) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคส่วนกลางของสหรัฐ ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV/AIDS) ในอเมริกาสูงถึงหนึ่งล้านสองแสนคน

ที่ฉันเลือกมาทำงานกับผู่ป่วยโรคเอดส์ ก็เพราะว่าครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2542 ก่อนที่ฉันจะมาสหรัฐอเมริกา พระอาจารย์ อลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ มารับบิณฑบาตแถวบ้านฉัน ครั้งนั้นฉันได้ไปตักบาตรกับท่าน และสัมผัสได้เลยว่า พระองค์นี้ไม่ธรรมดา กระแสเมตตาธรรมที่ท่านส่งมาให้นั้น ไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตา ความรู้สึกนั้นไม่อาจอธิบายได้เป็นคำพูด แต่ฉันคิดว่าท่านเป็นพระที่ดีมากองค์หนึ่งเลยทีเดียว ฉันจึงชวนแม่ไปที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี รู้สึกตกตะลึกกับภาพที่เห็น ผู้ป่วยนอนเรียงรายกันน่าสงสารมาก ฉันกับแม่เอาลองกองไปเดินแจกตามเตียง ทุกคนยกมือไหว้ฉันหมดเลยทั้งที่ฉันเด็กกว่า ฉันได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจว่า เหตุใดคนเหล่านี้จึงต้องถูกแยกออกจากสังคม ทำไมสังคมต้องโยนความผิดมาให้ผู้ป่วยให้ต้องเป็นฝ่ายรับเคราะห์ ทั้งๆ ที่พวกเค้าก็เป็นคนเหมือนกับเรา ไหนจะต้องทนทุกขเวทนาจากความเจ็บป่วย และยังจะต้องถูกรังเกียจแทนความเห็นอกเห็นใจ ฉันรู้สึกฝังใจกับภาพที่เห็นมากจนกระทั่งมหาวิทยาลัยให้เลือกว่าอยากไปฝึกงานที่ไหน ฉันจึงเลือกไปฝึกงานกับผู้ป่วยโรคเอดส์

ที่นี่ รัฐบาลสหรัฐให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสวัสดิการมหาศาลแก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ รัฐบาลออกกฎหมาย Ryan White Care Act เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์โดยตรง องค์กรที่ฉันทำงานด้วยนี้ เป็นองค์กรที่ดีมาก ทุกคนดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยในทุกๆด้าน ตั้งแต่ขั้นตอนการรักษาพยาบาล ทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีทีมแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา

นักสังคมสงเคราะห์ ทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย อีกทั้งมีทีมทนายความ คอยให้ความช่วยเหลือแนะนำทางด้านกฎหมายในกรณีที่ผู้ป่วยถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง หรือดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อนร่วมงาน อันที่จริง เราทุกคนควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน มองว่าเขาคือมนุษย์ทัดเทียมกันกับทุกคน ความเจ็บป่วยเป็นธรรมดาของโลก ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน องค์กรของเราพร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือให้เขามีสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และนั่นคือเป้าหมายหลักขององค์กรเรา

เมื่อสิ้นสุดภาคฝึกงาน ฉันตัดสินใจสมัครทำงานเป็นอาสาสมัครต่อไปอีกอาทิตย์ละสองวัน ฉันรู้สึกสุขใจทุกครั้งเวลาที่ที่ผู่ป่วยส่งอีเมล์มาบอกว่าเขาสบายดีและสามารถกลับไปทำงานได้อีกครั้ง ส่วนในปีการศึกษาที่สอง ฉันได้รับโอกาสไปฝึกงานที่ Northern Tier Anti Trafficking Consortium ซึ่งเป็นองค์การช่วยเหลือและต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับเด็กและผู้หญิง การที่ฉันได้มีโอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้ สามารถให้ฉันเข้าถึงกลุ่มผู้เสียหายได้ง่ายขึ้น และยังช่วยเป็นกระบอกเสียงแก่พวกเขาให้ได้รับความเป็นธรรม และรับโอกาสทางสังคม การที่ฉันได้เข้าไปให้ความรู้ และพัฒนาศักยภาพของคนเหล่านี้ก็เพื่อช่วยให้เขาได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง

เป้าหมายในชีวิต โดย กฤษพร สุริยจันทร์

ฉันต้องการใช้ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดที่มี สร้างแนวทาง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับชุมชนที่เราอยู่ให้เป็นสังคมที่ดีขึ้น แต่ฉันไม่สามารถจะทำคนเดียวได้ การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาชุมชน ต้องมาจากความร่วมแรงร่วมใจจากผู้คนในชุมชนนั้นๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและเอกชน ทุกคนควรตระหนักถึงหน้าที่ของตนเองที่มีต่อชุมชน และสังคมที่ตนเองอยู่ หากพวกเราทุกคนใส่ใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังและไม่นิ่งนอนใจ การแปลี่ยนแปลงต่างๆก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงชีวิตสามสิบห้าปีที่ผ่านมา นับว่าสั้นมาก ฉันพยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและสังคมให้มากที่สุด ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องตายตอนแก่ ไม่เคยประมาทกับชีวิต เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะมาถึงเมื่อไหร่ เป็นเวลากว่าหกปีแล้วที่ฉันมาล้างห้องน้ำให้ที่วัดทุกๆ สัปดาห์ เข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมที่ทางวัดจัดขึ้น ช่วยพระแปล/เขียนเอกสารต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ช่วยประชาสัมพันธ์งานกิจกรรมต่างๆ ของทางวัด จัดระดมทุน ปลูกต้นไม้ ปรับปรุงห้องสมุดใหม่ รวมทั้งการนำเสนอพุทธประวัติและที่มาของวันสำคัญทางพุทธศาสนาทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษในเทศกาลวันสำคัญที่มีตลอดปี

เมื่อต้นปี 2557 ฉันจัดระดมทุนโดยเริ่มขอรับเงินบริจาคจากกัลยาณมิตรที่นครชิคาโก โดยฉันจัดทำโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องซึ่งรวบรวมเงินได้หนึ่งแสนสองหมื่นแปดพันบาท โดยเงินจำนวนนี้นำไปช่วยเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน บริจาคที่วัดพระบาทน้ำพุ ช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสงฆ์ และเลี้ยงอาหารเด็กพิการที่บ้านราชาวดีหญิง หลังจากที่โครงการแรกผ่านไปด้วยดี ในปี 2558 นี้ฉันตั้งใจจะจัดระดมทุนอีกสองโครงการ คือให้ทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนและสร้างพระประธานให้แก่วัดที่ขาดแคลน ให้ทุนการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญในขณะเดียวกันก็ต้องทำควบคู่ไปกับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ฉันตั้งใจว่าจะจัดโครงการแบบนี้ทุกปีเพราะฉันเชื่อว่าสังคมจะอยู่ได้ถ้าเราทุกคนรู้จักการแบ่งปันปี 2559 นี้จะนำเงินไปสร้างโรงเรียนสำหรับชาวเขาที่ จังหวัดเชียงใหม่

และทุกๆสองถึงสามปี ฉันจะบริจาคผมให้กับโครงการ Locks of Love และ Wigs for Kids เพื่อนำไปใช้ทำวิกให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่สูญเสียผมจากการทำคีโม ฉันคิดว่าจะบริจาคไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะไม่รับ หรือจนกว่าฉันไม่มีผมที่จะบริจาค ที่เล่ามาทั้งหมดนี้มิได้มีเจตนาจะโอ้อวดความดีที่ตนเองทำ หากแต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์การทำงานเพื่อสังคม และเพื่อเป็นการเตรียมเสบียงบุญไว้ใช้ เมื่อฉันจากโลกนี้ไป อย่างน้อยที่สุดฉันก็แน่ใจตนเองว่าฉันไม่ได้ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ใช้ชีวิตที่เกิดมานั้นคุ้มค่าให้สมกับความยากกับการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ฉันตั้งปณิธาณว่าจะใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ อุทิศตนเพื่อพุทธศาสนา และจะใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโชน์สูงสุดให้สังคมเท่าที่ฉันจะทำได้