ถ้าถูกเรียกให้ไปเป็นพยานในคดีอาญาในอเมริกา

What to Do If You Are Subpoenaed as a Witness in a Criminal Court in the US

คงไม่มีใครหรอกนะคะที่จะชอบการขึ้นโรงขึ้นศาล คนส่วนใหญ่ไม่ชอบและกลัวที่จะถูกเรียกไปเป็นพยาน โดยเฉพาะการเป็นพยานในคดีอาญา บทความนี้จะให้ความรู้กับคุณหรือกับคนที่คุณรู้จักว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างถ้าเกิดถูกเรียกตัวให้ไปเป็นพยานในศาลอาญา

คุณถูกเรียกตัวให้ไปเป็นพยานในศาลก็เพราะคุณมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับคดี อาจจะถูกเรียกโดยฝ่ายอัยการหรือฝ่ายจำเลย (จำเลยมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะใช้อำนาจศาลเรียกให้คนมาให้การเป็นพยานให้ตนได้) การให้การของคุณจะช่วยให้ผู้พิพากษาหรือคณะลูกขุนตัดสินว่าจำเลยทำผิดตามที่ก่อหาหรือไม่ คุณอาจจะไม่เห็นเหตุการณ์ด้วยตัวเอง แต่อาจมีข้อมูลบางอย่างที่คุณทราบที่เป็นกุญแจสำคัญของคดี คุณอาจจะเป็นผู้เสียหายในคดี หรือคุณอาจเป็นพยานให้กับตัวคุณเองก็ได้ (ในกรณีที่คุณเป็นจำเลยเอง)

เมื่อมีหมายศาลเรียกตัวคุณให้ไปเป็นพยาน คุณต้องอ่านให้ละเอียดและเข้าใจทั้งหมด ในหมายศาลจะบอกชื่อคดี วันและเวลาที่จะไปศาล ลายเซ็นของผู้พิพากษาหรือทนายความที่ได้รับอนุมัติจากทางศาล ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ดีหรือกลัวว่าจะประหม่าตกใจจนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ให้รีบแจ้งกับทางศาลหรือทนายความแต่เนิ่นๆ ว่าคุณต้องการล่าม ทางศาลจะได้มีเวลาหาล่ามภาษาไทยไว้ให้คุณล่วงหน้า หรือถ้าคุณหูไม่ดี คุณสามารถขอให้ทางศาลจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องช่วยรับฟังให้กับคุณได้

อย่านิ่งเฉยหรือไม่ใส่ใจกับหมายศาล คุณจะต้องต้องทำตามคำสั่งศาล ถ้าคุณไม่มาตามคำสั่งจะถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทศาล ศาลสามารถออกหมายจับ (warrant) เพื่อจับคุณได้ คุณอาจถูกโทษทั้งจำทั้งปรับหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง และถ้าคุณมาศาลแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะให้การ คุณก็อาจถูกข้อหาหมิ่นประมาทศาลได้เช่นกัน

หลายครั้งคดีอาจจะถูกเลื่อนไป คุณอาจจะได้รับการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการเลื่อน แต่บางครั้งก็ทราบเมื่อไปศาลแล้วว่าคดีถูกเลื่อนไปและคุณจะต้องมาใหม่ในวันหลัง

คุณต้องนั่งรอนอกห้องศาลหรือในห้องพยานจนกว่าจะถึงเวลาให้การ คุณจะไม่สามารถไปนั่งฟังพยานคนอื่นให้การได้

ในคดีที่มีพยานหลายคน ทางทนายความหรืออัยการอาจจะเรียกพยานคนใดคนหนึ่งก่อน อาจไม่เรียกตามลำดับก็ได้ คุณอาจต้องนั่งรอทั้งวันและบางทีต้องกลับมาให้การต่อในวันรุ่งขึ้น ถ้าเป็นคดีที่ทั้งฝ่ายอัยการและฝ่ายจำเลยมีคำถามที่ต้องถามคุณเป็นจำนวนมาก

ในบางกรณี ศาลอาจจะอนุญาตให้คุณไม่ต้องมาให้การได้ เช่นกรณีที่คุณป่วย มีธุระจำเป็นที่จะต้องกลับเมืองไทย คุณจะต้องมีเหตุผลที่ดีพอ ให้แจ้งกับทนายความหรือเสมียนของศาลว่าคุณจะไม่สามารถมาให้การเป็นพยานได้ ถ้าคุณเป็นพยานคนสำคัญ ศาลอาจสั่งให้คุณมาให้การในวันหลัง

เมื่อถึงเวลาที่คุณจะให้การ คุณจะถูกเรียกตัวเข้าไปในห้องศาลโดยทนายความฝ่ายจำเลยหรือโดยฝ่ายอัยการ ถ้าเป็นการรับฟังหลักฐานพยานขั้นต้น (preliminary hearing) ในคดีอาญาสถานหนัก ก็จะมีแต่ผู้พิพากษากับทนายความฝ่ายจำเลยและอัยการ ถ้าเป็นการรับฟังคดีโดยคณะลูกขุน ก็จะมีลูกขุน 12 คน (กับตัวสำรองอีก 1-3 คน) มานั่งฟังด้วย และถ้าเป็นคดีที่เปิดให้สาธารณะมานั่งฟังได้ ก็จะมีญาติๆ เพื่อนๆ ของผู้เกี่ยวข้องในคดีหรืออาจมีสื่อมวลชนมานั่งฟังด้วย

เสมียนศาลจะให้คุณยกมือขวาขึ้นเพื่อให้คุณสาบานว่าคำให้การของคุณต่อหน้าศาลจะเป็นความจริง คุณมักจะได้ยินประโยคข้างล่างนี้

"Do you solemnly swear/affirm that you will tell the truth, the whole truth, and nothing but the truth, (so help you God/under pains and penalties of perjury)? คุณสาบาน/ยืนยันอย่างจริงจังว่าคุณจะให้การที่เป็นความจริงทั้งหมด จะไม่พูดสิ่งใดนอกจากความจริงใช่หรือไม่ (ขอให้พระเจ้าจงได้โปรดช่วยคุณด้วย/ภายใต้บทลงโทษของการให้การเท็จ)"

เมื่อคุณอยู่บนแท่นพยาน คุณต้องตั้งใจฟังคำถามของทนายทั้งสองฝ่ายให้ดี ถ้าคุณเป็นพยานให้ฝ่ายจำเลย ต้องตั้งใจฟังการถามค้านของฝ่ายอัยการให้มากยิ่งขึ้น ถ้าคุณเป็นพยานให้ฝ่ายอัยการ ก็ต้องตั้งใจฟังการถามค้านของทนายความฝ่ายจำเลยให้มากยิ่งขึ้น คุณมักจะรู้ว่าทนายความฝ่ายของคุณจะถามว่าอะไร แต่จะไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะถามคุณว่าอย่างไร บางครั้งทนายความอาจจะคัดค้านคำถาม โดยการพูดว่า "Objection!" "ขอคัดค้าน" พร้อมกับบอกเหตุผลสั้นๆ ของการคัดค้าน ให้รอผู้พิพากษาบอกก่อนว่าจะให้ตอบได้หรือไม่ เมื่อมีการคัดค้านของทนายความอีกฝ่ายเกิดขึ้น ผู้พิพากษาจะตอบว่า "sustained" (อนุญาตให้ค้านได้) หรือ "overruled" (คำค้านตกไป) ถ้าตอบว่า "sustained" หมายถึงผู้พิพากษาเห็นด้วยกับการคัดค้านและจะไม่อนุญาตให้ทนายความฝ่ายที่กำลังถามอยู่นั้นถามต่อหรือให้ถามใหม่ หรือ ถ้าตอบว่า "overruled " หมายถึงผู้พิพากษาไม่เห็นด้วยกับการคัดค้าน และอนุญาตให้ทนายความถามต่อ

เมื่อทนายความและอัยการถามคำถามคุณเสร็จเรียบร้อยเป็นที่พอใจแล้วแล้ว คุณจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ (excuse the witness) และอาจนั่งฟังคดีต่อได้ แต่ถ้าคุณอาจถูกเรียกตัวมาให้การอีก (subject to recall) คุณไม่สามารถที่จะนั่งฟังคดีต่อได้และก็จะต้องรอคอยฟังข่าวว่าคุณจะถูกเรียกตัวกลับมาให้การอีกเมื่อไหร่