ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



Happy New year 2021 วิธีตรวจหาเชื้อโควิด 19

เนื่องจากตลอดทั้งปี 2020 เราได้รับผลกระทบจากการจู่โจมของโรคระบาดโควิด 19 กันทั่วโลก แบบคาดไม่ถึง ตั้งตัวไม่ติด ผู้คนล้มป่วยตายจากกันเป็นล้านๆคน เศรษฐกิจล่มสลาย ธุรกิจพังพินาศ เหมือนกับจะเป็นการล้างโลกอย่างไรอย่างนั้น ทีมแพทย์ กรมอนามัยโลก พยายามหาทางป้องกันปราบปรามอย่างสุดฝีมือมีการค้นคว้าเครื่องมือตรวจหาเชื้อไวรัส ตรวจหาคนที่ได้รับเชื้อ เพื่อป้องกัน การแพร่ระบาดสู่คนทั่วไป

รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ ล้างมือ ใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการชุมนุม จนได้วัคซีนฉีดป้องกันโรคร้ายเมื่อเร็วๆนี้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อคนทั้งโลก ไหนยังจะมีคนแพ้ และมีผลข้างเคียงตามมาอีก

ชุมชนไทยในเมืองแอลเอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาโชคดี ที่มีทีมงานแพทย์จิตอาสาจาก Elite Care Medical Group ซึ่งมีหมอแอนโทนี่ ดินห์ เป็นเจ้าของอีกทั้งยังมีห้องทดลองอีกด้วยได้มีการสั่งเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบ Serology Rapid Anti Body เข้ามา โดยได้รับการรับรองจาก องค์กรณ์อาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ให้ผลลัพย์เชื่อถือได้ถึง 95%

ทีมงานแพทย์ ECMG.ออกสนามตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้ชุมชนไทยตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2020 เป็นต้นมา จากการประสานงานของผู้นำชุมชนไทย สมาคมไทยแห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ โดย ขนิษฐา เพอร์ไรด้า นายกฯ, ชมรมส่งเสริมความสุข โดย เชนวริท ศิลปี ประธาน , มูลนิธิธารน้ำใจไทย โดย สมชาย ไทยทาน ประธาน และ Primerica โดย ชาลี ชัยศักดิ์เลิศ ผู้จัดการภาคสนาม เกือบทุกอาทิตย์ เสนอบริการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยไม่คิดมูลค่าในชุมชนไทย นับได้กว่า 4,000 คน ต้องขอบคุณน้ำใจคุณหมอ ดินห์ ผู้อำนวยการคลีนิค และคุณหมอมอนเต้ คริสติน และทีมแพทย์จิตอาสา ที่มีน้ำใจให้กับขุมชนไทยในแอลเอ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

ระยะหลังมีกลุ่มคนไทยติดเชื้อกันเพิ่มมากขึ้น จึงมีคำถาม จากคนที่สับสนไม่เข้าใจวิธีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 Serology Rapid Anti Body ให้ผลตรวจไม่ถูกต้อง เพราะมีคนมาตรวจหาเชื้อแต่ปรากฏว่าไม่พบเชื้อในร่างกายในวันนั้น พอผ่านไปได้ 3 วัน กลับมีอาการป่วยเป็นโควิดขึ้นมา จึงสร้างความสับสนว่า ควรไปตรวจแบบหาเชื้อในทางเดินหายใจ PCR ที่ทางรัฐตรวจจะแม่นยำกว่า

บทความวันนี้จึงอยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 อย่างถูกต้อง เพื่อลดความเข้าใจผิด ทำให้เกิดการสับสนขึ้นมาได้ การตรวจหาเชื้อทั้งสองวิธีนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ให้ผลลัพย์เฉพาะวันที่มาตรวจเท่านั้น หลังจากนั้น ร่างกายอาจรับเชื้อได้ตลอดเวลา


การตรวจหาเชื้อ COVID-19 มีอยู่ 2 วิธี คือ

1…การตรวจหาเชื้อในทางเดินหายใจ (PCR) ซึ่งจะเก็บตัวอย่างส่งตรวจจากการป้ายเยื่อบุในคอ หรือ ป้ายเนื้อเยื่อหลังโพรงจมูก หากเชื้อลงไปในปอด ก็จะต้องนำเสมหะที่อยู่ในปอดออกมาตรวจ จะให้ผลตรวจภายใน 2 วัน

2…การตรวจจากการเจาะเลือด ( Serology Rapid Anti Body Test) เป็นการตรวจหาแอนติบอดี้ ( IgG & IgM) ในเลือด ซีรัม หรือ พลาสมา โดยใช้ชุดวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว ให้ความแม่นยำมากถึง95% สามารถคัดกรองได้เกือบเต็มที่ ในการหาผู้ติดเชื้อ ให้ผลตรวจภายใน 5-10 นาที ผลตรวจจะออกมาถึง 4 ชนิดด้วยกัน คือ

A…IgM คือร่างกายการได้สัมผัสกับผู้ป่วย รับเชื้อโควิด 19 ซึ่งร่างกายกำลังต่อสู้สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อขจัดโรคร้าย นายแพทย์จะแนะนำให้ไปตรวจ แบบ PCR (ระบบทางเดินหายใจ) เพื่อเป็นการยืนยันให้แน่ใจว่ามีเชื้อโควิดในร่างกาย ควรจะปรึกษาแพทย์ทันที และกักตัวเอง 14 วัน

B…IgG ระบุว่าได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วยในระดับหนึ่ง แต่ร่างกายได้ขจัดไวรัสออกไปแล้ว พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันขึ้น โอกาสที่จะติดเชื้อโควิดอีกนั้นเกือบไม่มีเลย

C…IgM แสดงว่าเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร่างกายได้รับเชื้อโควิดแล้ว แต่ได้สร้างภูมิคุ้มกันไว้ความเสี่ยงในการติดเชื้อนั้นน้อยมากเกือบจะแทบ 0% เลยทีเดียว แต่ก็ยังควรปรึกษาแพทย์

D…NO IgG หรืv IgM ระบุว่า ขณะนี้ ร่างกายไม่มีเชื้อไวรัสโควิด ซึ่งเชื่อถือได้ถึง 90% แต่ ในขณะเดียวกัน ร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกัน จะมีโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดได้ตลอดเวลา

การตรวจทั้ง 2 แบบ จะบอกผลเฉพาะวันตรวจเท่านั้น คุณจะสามารถรับเชื้อได้หลังจากการตรวจแล้ว จึงขอแนะนำ ผู้ที่ทำงานเป็นแนวหน้าหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรไปรับการตรวจทุกๆ 14 วัน แล้วแต่ต้องการตรวจแบบไหน ซึ่งการตรวจทั้งสองชนิดได้รับการรับรองจากองค์กรณ์อาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA. Approved)

ช่วยกันบอกต่อๆไปด้วย จะได้เข้าใจ ขั้นตอนการตรวจ ซึ่งจะเป็นผลดีกับทุกๆคน ขอให้ปีใหม่ 2021 นี้จงมีสุขภาพดีกันทุกคน


Happy New Year

ด้วยความรัก ปรารถนาดี และห่วงใยจาก Super Pat (323)702-0788