ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



สูงวัยแบบแฮปปี้ แฮปปี้ ใช้ชีวิตบั้นปลายมีคุณภาพ

ในฐานะเป็นสมาชิกคนหนึ่งของชมรม”ส่งเสริมความสุข แอลเอ” ตั้งอยู่ที่ เมืองไทยทาวน์ ฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย ปรเทศสหรัฐอเมริกา นี้นั้น ทำให้ทุกๆวันที่ตื่นมาจะต้องคอยเสาะแสวงหากิจกรรมที่ทำแล้วเป็นสุข จากนั้นก็จะชักชวนเพื่อนๆสมาชิกที่มีจุดประสงค์เดียวกันออกมาร่วมด้วยทุกครั้งไป

สมาชิกที่มีอยู่ในชมรมส่วนมากจะมีอายุตั้งแต่ 50 – 80 ปี เข้าข่ายพวกผู้สูงวัย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดิฉันเป็นคนไฮเปอร์ด้านความสุข ชอบค้นคว้า ทำกิจกรรม สร้างสรรค์ ประกอบกับเป็นคอลัมนิสต์ขีดๆเขียนๆทุกเรื่องในบทความ Super Pat Variety จึงพยายามค้นคว้าเขียนบทความที่สร้างสรรค์ ให้ความรู้ เป็นแรงบันดาลใจ อาหารสมองให้กับแฟนคลับผู้อ่านทุกๆคนที่ติดตามบทความ ฉบับนี้ก็เช่นกัน ขอเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สูงวัยทุกคนใช้ชีวิตบั้นปลายแบบมีคุณภาพกันนะ

เป็นที่ทราบดีว่าสัดส่วนประชากรสูงวัยของไทยกำลังเพิ่มจำนวนขึ้น จนเป็น “สังคมสูงวัย” นี้คงต่างไปจากแต่ก่อน จะมารอพึ่งลูกหลานหาเลี้ยงดูคงทำไม่ได้อีกแล้ว เพราะเด็กแรกเกิดและวัยทำงานจะเริ่มลดลง

ฉะนั้นต้องเป็นผู้สูงอายุรุ่นใหม่

ซึ่งนอกจากต้องเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้ลูกหลานเหมือนเดิมต่อไปแล้ว ยังต้องพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด ด้วยร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่เข้มแข็ง และเงินที่เพียงพอ

เป็นความรู้และข้อแนะนำดีๆ จาก พญ.นัชชา เรืองเกียรติกุล กลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลราชวิถี เล่าว่า ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มประชากรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ สังคม สมอง ความสามารถ โดยแบ่งผู้สูงวัยเป็น3 ช่วง คือ

1.อายุระหว่าง 60-69 ปี คือผู้ที่เพิ่งเริ่มย่างเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี อาจมีโรคประจำตัวบ้าง เช่น เบาหวาน ความดัน ดังนั้นควรเน้นการป้องกันหรือประเมินหาความเสี่ยงของโรค เช่น ตรวจภาวะกระดูกพรุน ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะทราบว่าเป็นโรคกระดูกพรุนก็อายุ 80 ปีไปแล้ว

2.อายุระหว่าง 70-85 ปี เป็นช่วงอายุที่เริ่มมีโรคประจำตัวมากขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง ขณะเดียวกันผู้สูงอายุกลุ่มนี้ก็อยากจะพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด ดังนั้นต้องทำให้ผู้สูงอายุคงคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการดูแลสุขภาพร่างกาย เช่น ดูแลกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อไม่ให้ติด ช่วยให้ผู้สูงอายุเดินได้แม้มีภาวะเข่าเสื่อม และได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างพอเพียง เป็นต้น

3.อายุตั้งแต่ 86 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่พึ่งตัวเองได้ลดลงและต้องการการดูแลจากลูกหลานญาติพี่น้อง พยาบาลหรือผู้ดูแลพิเศษ ซึ่งการดูแลผู้สูงอายุในช่วงวัยนี้จะเป็นการอบรมหรือให้คำแนะนำแก่ผู้ดูแลในเรื่องต่างๆ อาทิ โภชนาการ กายภาพบำบัด และให้ผู้ดูแลเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของผู้สูงอายุ

“หากผู้สูงอายุได้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็จะช่วยให้ปรับตัว และเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งบุตรหลานหรือผู้ใกล้ชิดมีส่วนสำคัญมาก ที่จะช่วยให้ผู้สูงวัยได้อยู่อย่างมีความสุข เกียรติและให้ท่าน”

อ่านแล้วนำไปปฎิบัติให้ก่อประโยชน์กับตัวท่านเองกันนะ ฝากรูป คุณภาพชีวิตของชาวแอลเอมาให้ดู ทำบุญ ร้องเพลง เต้นรำ จัดกิจกรรม เป็นจิตอาสา หาความรู้ ฯลฯ เป็นความสุขของพวกเรา

ด้วยรักและปรารถนาดีจาก Super Pat (323)702-0788