ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



โรค “หลงตัวเอง”

เขียนจากประสบการณ์จริง เล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นความรู้ อ่านแล้วอย่าซีเรียส ถือว่า เป็นธรรมชาติของชีวิตละกัน

เกิดมาจนอายุปูนนี้ อีก 23 ปี ถึง 100 ผ่านชีวิตมามากมาย เจอคนเป็นล้านๆคน ต่างแบบ ต่างนิสัยกันไป คบแล้วเป็นเพื่อนรักใคร่ กลมเกลียงกัน ยาวนาน บางคนคบแล้ว ผ่านเลย บางคนเป็นแค่คนรู้จัก บางคนเป็นเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมเดินทาง มากมาย สาระพัด คาแร็คเตอร์ มีทั้งนิสัยดี และไม่ดี เอาอะไรมาตัดสิน อยู่ที่คบใครแล้วสบายใจ มากกว่า หากมีวาสนาต่อกันก็คบกันได้ยาวนาน ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พระเจ้าท่านลิขิตมาแล้ว

วันนี้จะมาเขียนบทความที่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งอาจเข้าข่ายกับบทความนี้ เรื่องมีว่า ได้มาเจอะเจอคนหลงตัวเอง(กระมัง) เริ่มต้นคบกันก็ดี ถ้อยที ถ้อยอาศัยกันในระดับความเป็นเพื่อน พอคบๆกันไปก็มีเหตุแตกแยกเกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ ไม่มีเหตุผล เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในเวลาไล่เรี่ยกัน โดยไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าแตกแยกเรื่องไร? งง! ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย ในความเป็นเพื่อนที่สวยงาม แต่กลับกลายมาเป็นศัตรู ในสังคมเดียวกันอย่างไร้เหตุผล ต้องถือเสียว่า เราไม่มีวาสนาต่อกัน ต่างคนต่างอยู่ อย่ามาระรานกันเท่านั้นเป็นพอเพียงแต่ เกิดความละอายใจ ว่า คนไทยมาอาสัยอยู่ในแดนไกลต้องมาเป็นศัตรูกัน อย่างหาสาเหตุไม่ได้ แถมยังนินทาว่าร้าย เคียดแค้นชิงชัง เอาดีเอาเด่นเข้าตัว ชักชวนให้คนอื่นเข้าข้างตัวเองสร้างความแตกแยกซะงั้น ทั้งๆที่เป็นคนไทยเหมือนกัน น่าจะรักกันเหมือนพี่ เหมือนน้อง กลับมาทะเลาะกันแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อ????ก็เหลือเดา

ความที่มาดามเป็นคนชอบศึกษา หาข้อมูล จึงได้ไปพูดคุยกับนักจิตวิทยา พร้อมค้นหาสาเหตุอ่านบทความจากประสบการณ์ของผู้รู้และผู้ที่ผ่านเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน เห็นบทความนี้ น่าสนใจ จึงนำมาแบ่งปันให้อ่านเป็นความรู้ไว้ประดับสติปัญญา เรื่อง โรค “หลงตัวเอง” ขอบคุณข้อความจาก WebMd, Psych Central มา ณ.ที่นี้ด้วย

ชีวิตนี้เราต้องเคยเจอคนหลงตัวเองมาไม่มากก็น้อย เช่น หลงคิดว่าตัวเองสวย ดูดีแบบที่ใครก็สู้ไม่ได้ คิดว่าเป็นคนเก่งระดับเทพที่ใครจะเทียบชั้นก็ยาก หรือในโลกโซเซียลกับคนที่อัพรูปตัวเองบ่อย ๆ นี่ก็เข้าข่ายหลงตัวเองไม่น้อย (สงสัยเราจะเข้าข่ายหลงตัวเอง ที่ โพสต์รูปลงในโซเชี่ยล บ่อยๆกะเค้าเหมือนกัน 555) ทว่าหากจะพูดถึงโรคหลงตัวเอง ยังมีข้อสังเกตถึงพฤติกรรมผู้ป่วยโรคหลงตัวเองอีกหลายอย่าง ซึ่งคุณสามารถเช็กอาการตัวเองไปพร้อม ๆ กับทำความรู้จักโรคนี้ให้มากขึ้น เรามาลองเช็คกันดูว่าอาการ“หลงตัวเอง” เป็นอย่างไร

โรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) หรือ "นาซิซีติส" (Narcisisitic) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า NPD หรือภาวะ Narcissism ชื่อของโรคหลงตัวเองในภาษาอังกฤษมีต้นกำเนิดมาจากเทพนาร์ซิสซัส เทพกรีกที่หลงรูปตัวเองจนต้องถูกสาปให้ตกหลุมรักตัวเอง ซึ่งก็มีส่วนตรงกับอาการของผู้ป่วยโรคหลงตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่ในทางจิตวิทยา โรคหลงตัวเองคืออาการผิดปกติทางจิตที่มีอาการมากไปกว่าแค่หลงใหลในรูปโฉมของตัวเอง ทว่ายังมีเรื่องของความเห็นแก่ตัว ความรู้สึกอยากเป็นที่หนึ่ง อยากเป็นจุดสนใจ หรือความคิดที่ว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ผิด ซึ่งเป็นลักษณะของการถูกบ่มเพาะความคิดมาอย่างผิด ๆ จนนิสัยเหล่านี้ติดตัวมาในตอนโต กระทั่งทำให้เกิดเป็นโรคหลงตัวเองในที่สุด

สาเหตุโรคหลงตัวเอง: ทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคหลงตัวเองได้ แต่ก็มีความพยายามจะ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ออกมาในหลาย ๆ ทาง เช่น การสั่งสอนแบบผิด ๆ มาตั้งแต่เด็ก พันธุกรรมหรือความผิดปกติของยีน รวมทั้งความเครียดและการถูกกดดันจากครอบครัว รวมไปถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่จนทำให้ต้องรักตัวเองมาก ๆ เป็นการทดแทน โรคหลงตัวเอง อาการแบบไหนเข้าข่ายป่วย: อย่างที่บอกว่าอาการของโรคหลงตัวเองมีแค่เส้นกั้นบาง ๆ ระหว่างอาการป่วยกับนิสัยส่วนตัว ซึ่งถ้าจะเช็กให้ชัวร์ว่าป่วยด้วยโรคนี้จริงหรือไม่ อาจต้องดูจากอาการโรคหลงตัวเองตามนี้ด้วย โดยหากเช็กแล้วตรงกับความเป็นตัวเองเกิน 5 ข้อ ให้สงสัยว่าป่วยไว้ก่อนเลย

1. คิดแต่เรื่องของตัวเอง แถมยังชอบพูดถึงตัวเองในแง่ดีบ่อย ๆ

2. ชอบเรียกร้องความสนใจ อยากเป็นคนสำคัญตลอดเวลา

3. คิดว่าตัวเองเป็นบุคคล VIP ฉันนี่แหละสำคัญที่สุดในโลกแล้ว

4. ชอบเพ้อฝันถึงเรื่องเกินจริง มโนแจ่มไปกับสิ่งที่เป็นภาพลวงตา คิดว่าตัวเองเก่งสารพัดอย่าง และต้องได้รับแต่สิ่งดี ๆ

5. อารมณ์แปรปรวน เหวี่ยงวีน และมักจะไม่พอใจอะไรบ่อย ๆ

6. ไม่แคร์ใคร ไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง

7. ต้องการที่จะชนะทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ โดยไม่สนว่าอะไรจะผิดจะถูก คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่คับฟ้า ทำอะไรก็ได้

8. คิดว่าตัวเองมีแต่คนอิจฉา หรือรู้สึกอิจฉาคนรอบข้างบ่อยครั้ง

9. ต้องการมีอำนาจ ต้องการคำชมเชย และอยากเป็นที่รักของคนอื่นอยู่เสมอ

10. เอาแต่ใจตัวเอง จนไม่แคร์ว่าสิ่งที่ทำจะเป็นการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือไม่

11. มักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง อวดสิ่งที่มีสิ่งที่ได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่ากร่างไปทั่ว

12. คบกับใครไม่ได้นาน อยู่ร่วมกับคนอื่นยาก

13. อ่อนไหวง่าย และมักจะฟูมฟายกับเรื่องที่เสียใจแบบเกินเหตุ

14. ทนไม่ได้กับการถูกวิพากษ์วิจารณ์

15. ไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง และมักจะโทษว่าเป็นความผิดของบุคคลอื่นร่ำไป

16. รู้สึกเหมือนตัวเองเหนือกว่าคนอื่น และสามารถจะผลักใครให้พ้นทางก็ได้

17. เป็นผู้ให้ก่อนแต่มักจะทวงบุญคุณคืนทีหลัง (จากประสบการณ์จริงที่ได้รับมา 555)

พฤติกรรมที่ว่ามาทั้งหมดอาจไปตรงกับใครหลาย ๆ คน ทว่าบางทีก็อาจเป็นแค่อุปนิสัยส่วนตัวที่ไม่ได้นับว่าเป็นโรค และบางคนก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ปกติโดยไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ดังนั้นหากจะให้แน่ใจจริง ๆ ควรได้รับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์อีกครั้งนะคะ โรคหลงตัวเองเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็มีวิธีบำบัดให้อาการอยู่ในระดับที่สังคมพอให้อภัย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองด้วยว่าจะให้ความร่วมมือในการรักษามากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าอยากหายก็ต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยให้ได้ก่อน และต้องยอมเข้ารับการบำบัดด้วยนะคะ

ดังนั้นหากคุณเช็กดูจากอาการคร่าว ๆ แล้วก็เหมือนจะเข้าข่ายนิสัยตัวเองหลายข้อ แนะนำให้ไปทำแบบทดสอบทางจิตวิทยากับจิตแพทย์เพื่อหาความชัดเจนให้ตัวเองก่อนดีกว่า

โรค”หลงตัวเอง” นี้ คิดว่าทุกคนคงเป็นกันบ้างไม่มากก็น้อย ตราบใดที่ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร รักตัวเองให้มากๆ และเผื่อแผ่รักคนดีๆรอบข้างด้วย เท่านั้นเป็นพอ จะได้ไม่หลงทิศ หลงทาง กลับบ้านกันถูก ขำๆ กัน 555

ด้วยรักและปรารถนาดี จาก มาดาม SP.(323)702-0788