ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



Cryptocurrency" คืออะไร? เงินดิจิทัลที่คนรุ่นใหม่อยากลงทุน

วันนี้จะเขียนถึงเรื่องเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทอลที่กำลังคืบคลานเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของพวกเราทีละน้อย ซึ่งในอนาคตอาจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตเลยก็ได้ ดิฉันเริ่มศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทางด้านนี้ เพื่อจะได้ก้าวตามทันโลก และเป็นการบริหารสมอง วัยปูนนี้แล้วเราจำเป็นต้องใช้หัวสมองเพื่อป้องกัน สมองเสื่อม ห่างไกลจากโรคอัลไซมเมอร์ จึงคิดถึงแฟนคลับคุณผู้อ่านที่เป็นรุ่นเดียวกันหรือไม่ห่างกันนัก ศึกษาไปพร้อมๆกัน ตามมาอ่านกันนะคะ จะได้ทันโลกทันเหตุการณ์...

Cryptocurrency คือ สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่ต้องอาศัยการเข้ารหัส โดยคำว่า "Crypto" หมายถึง การเข้ารหัส ส่วนคำว่า "Currency" หมายถึง สกุลเงิน ทำให้คริปโตเคอร์เรนซีเป็นเงินดิจิทัลที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นสกุลเงินในอนาคต ที่จะเข้ามามีบทบาทในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกัน

ความน่าสนใจอยู่ที่กลไกสำหรับการซื้อขายสินทรัพย์คริปโต จะแปรผันตามราคากลางในตลาด ซึ่งในปัจจุบัน "Cryptocurrency" ยังไม่ถือเป็นเงินตราตามกฎหมาย เนื่องจากไม่มีหน่วยงานสากล หรือรัฐบาลใดเข้ามาควบคุมจัดการ ทำให้บางครั้งคริปโตก็ถูกเรียกว่า "สกุลเงินเสมือน" แบ่งออกเป็นสกุลเงินต่างๆ มากมาย หรือที่เรามักเรียกว่า "เหรียญ" เช่น เหรียญบิตคอยน์ เป็นต้น ส่วนเงินตราที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย จะต้องถูกกำหนดโดยรัฐเท่านั้น เช่น ธนบัตร และเหรียญกษาปณ์สกุลเงินต่างๆ ของแต่ละประเทศที่เราใช้กันในปัจจุบันคำถามที่นักลงทุนมือใหม่อาจยังสงสัยคือ คริปโตสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินปกติได้หรือไม่? คำตอบคือ แลกเปลี่ยนได้ โดยจะต้องซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านหน่วยงานที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

หลักการทำงานของ "Cryptocurrency" เป็นอย่างไร?

การทำงานของเงินดิจิทัล Cryptocurrency สกุลต่างๆ จะถูกบันทึกในระบบที่เรียกว่า "Blockchain" (บล็อกเชน) ซึ่งจะช่วยบันทึกข้อมูลว่าใครเป็นเจ้าของเหรียญสกุลเงินใดบ้าง โดยระบบ Blockchain สามารถส่งสัญญาณแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ทุกคนในเครือข่ายรับรู้ได้

สกุลเงิน Cryptocurrency มีอะไรบ้าง?

สกุลเงินคริปโตที่รู้จักกันดีที่สุดคือ "Bitcoin" (บิตคอยน์) เป็นสกุลเงินดิจิทัลแรกของโลก จึงถือว่าเก่าแก่ที่สุด ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา Bitcoin เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงลักษณะการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ระหว่างบุคคล สามารถตรวจสอบได้ จึงทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่หันมาสนใจลงทุนกับบิตคอยน์มากขึ้น

นอกจาก Bitcoin แล้ว จริงๆ ยังมีคริปโตอีกหลายสกุลเงินที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะสกุลเงินที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ของประเทศไทย เช่น Ethereum, Litecoin, Bitcoin Cash, Ripple, Binance Coin, Cardano, Ripple (XRP) และ Dogecoin เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้น เริ่มมีผู้ประกอบการธุรกิจในไทยที่เปิดรับชำระค่าสินค้าและบริการเป็นสกุลเงินดิจิทัล ทำให้คนไทยสามารถนำ Bitcoin มาซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้แล้ว

ทำความเข้าใจ คริปโต-เคอเรนซี่ (Cryptocurrency) กันให้มากขึ้น

เราอยากจะให้ทุกคนได้รู้จักกับคำว่า “คริปโต” หรือ Cryptocurrency (คริปโตเคอเรนซี่) กันก่อน หลายคนเชื่อว่าคริปโตเคเรนซี (Cryptocurrency) นั้นมีความหมายเดียวกับเดียวกับทรัพย์สินดิจิทัล ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว เพราะคำว่าทรัพย์สินดิจิทัลนั้นมีหลากหลายประเภทที่มากกว่า และ Cryptocurrency (คริปโตเคอเรนซี) มีชื่อเรียกสั้นๆว่า คริปโต นั้น คืออะไรกันแน่ในบทความจะพาคุณไปทำความรู้จักกับเจ้าคริปโต และเราจะการแนะนำให้คุณได้รู้อีกด้วยว่าเราจะลงทุนอย่างไรเพื่อที่จะสร้างกำไรจากตลาดคริปโตนั้นเอง

ทรัพย์สินดิจิทัลคืออะไร

ในโลกจริงสิ่งของที่เราเป็นเจ้าของหรือครอบครองด้วยวิธีใดๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเงิน รถ บ้าน โน๊ตบุ๊ก หรือจะเป็นเงินตราก็ดี ตุ๊กตาตัวโปรด สัตว์เลี้ยงก็ดี เหล่านี้หากเราถือว่าซื้อมา ได้มาอย่างชอบธรรมแล้วก็ถือว่าเป็นทรัพย์สินของเรา ในโลกดิจิทัลก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบทความนี้ที่คุณกำลังอ่านอยู่ รูปภ่ายบนเฟชบุ๊ก คลิปในยูทูป หรือสิ่งต่างๆอะไรก็แล้วแต่ที่อยู่บนกูเกิ้ลทุกอย่างถือได้กว่าเป็นทรัพย์สินทางโลกดิจิลทัลโดยทั้งสิ้น ในวงการเงินนั้นทรัพย์สินดิจิทัลหมายถึงสิ่งหรือสื่อกลางที่สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายได้ เช่น บิทคอย์ โทเคนทอง หรือแม้กระทั่ง คริปโตเคอเรนซี

คริปโต หรือ Cryptocurrency คืออะไร?

Cryptocurrency (คริบโตเคอเรนซี) หรือ คริปโต นั้น คือ สกุลเงินเข้ารหัส ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งทรัพย์สินดิจิทัลที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน หากเปรียบเทียบก็คือเหมือนสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่งในโลกจริงนั้นเอง แต่ทว่าคริปโตนั้นเหนือไปอีกขั้นเพราะใช้วิทยาการในการเข้ารหัสลับ(Cryptography) ในการป้องกันการทำธุรกรรมอีกทั้งยังมีรหัสเพื่อควบคุม คริปโต บางประเภทอีกด้วยโดยปกติแล้ว คริปโต จะมีการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลทำให้การเข้าถึง เปลี่ยนแปลงใดๆนั้นเข้าถึงได้ยาก คริปโต นั้นเราสามารถทำการซื้อขาย แลกเปลี่ยนหรือสะสมได้นอกจาก คริปโต จะสามารถใช้ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนในโลกดิจิทัลได้แล้วก็ยังมีระบบบันทึกการทำธุรกรรมบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์อีกด้วยเรียกว่า Distributed Ledger Technology หรือ DLT ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมบนเครือข่ายดิจิทัลนั้นเป็นไปได้อย่างปลอดภัย เพราะการเข้าถึง เปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ยาก โดยองกรค์ใหญ่ๆ อย่าง facebook ระบบปฏิบัติ Window เองก็มีการนำใช้คริปในการทำธุรกรรม ระบบการทำงานของคริปโตนั้น คือการใช้เครือข่ายแบบกระจายศูนย์ (Decentralization) และ การใช้รหัสผ่านแบบสร้างข้อมูลแทนตัว (Cryptographic hashing) คริปโตเคอเรนซีส่วนใหญ่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนสาธารณะหรือบล็อกเชนวงเปิด (Public Blockchain) อย่างไรก็ตามบล็อกเชนยังมีอีกหนึ่งประเภทนั่นก็คือบล็อกเชนส่วนบุคคลหรือบล็อกเชนวงปิด (Private Blockchain) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของบล็อกเชนได้

บิทคอยน์

คือสกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก คริปโตเพราะเป็นบิทคอยน์คือหลักทรัพย์สินที่เหมาะกับการสะสมและเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีการทำธุรกรรมได้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก อีกทั้งบิทคอยน์คือสกุลเงิน คริปโต แรกๆของโลกอีกด้วยที่ เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดที่จึงทำให้น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่งนอกจากนี้ไม่จำเป็นต้องมีคนกลางในการดำเนินการให้อีกด้วย แต่ว่าโลกของเราก็มีคริปโตเคอเรนซีสกุลเงินจำนวนมากมากเป็นห้าพันกว่าสกุลเงินเลยทีเดียว และมีชื่อเรียกรวมกันว่า อัลท์คอยน์ (Altcoics) หรือ Alternative coin

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Market Cap คำนวณได้จาก ราคาของหลักทรัพย์ คูณด้วย จำนวนหลักทรัพย์ในเวลาปัจจุบัน การคำนวณ Market Cap สำหรับคริปโตเคอเรนซีทำได้โดยการนำ จำนวนเหรียญในตลาดทั้งหมด คูณกับ ราคาเหรียญนั้น ๆ ณ ปัจจุบัน นั่นหมายความว่า ถ้าคุณดูราคาเหรียญวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2020 คุณจะเห็นได้ว่าในระบบมีบิทคอยน์อยู่ประมาณ 18,376,156 บิทคอยน์ และราคาตอน 11:30 น. อยู่ที่ 8,910.08 เหรียญสหรัฐ ดังนั้นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในเวลานี้จะอยู่ที่ 18,376,156 x 8,910.08 = 163,732,989,783 เหรียญสหรัฐ

การแลกเปลี่ยน คริปโต ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่เราสามารถทำได้ไหม ?

คริปโต ถือว่าเป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย มีกฎหมายรองรับและการใช้งานที่แตกต่างกันในหลายประเทศ ทั้งการซื้อขาย การแลกเปลี่ยนสกุลเงินคู่คริปโตอื่นๆ อย่างไรก็ตามการเทรดสกุลเงินคริปโตก็ต้องอยู่ภายใต้การตรวจตราควบคุมโดยรัฐบาลและการตรวจสอบของธนาคารของแต่ละประเทศในการประกอบธุรกรรมต่างๆระหว่างประเทศ ดังนั้นการเทรดคริปโตนั้นคุณควรศึกษากฎหมายภายในประเทศเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ ระเบียบ รวมไปถึงระบบการยื่นภาษีอีกด้วย

หลังจากราคาและมูลค่าของตลาดคริปโตเคอเรนซี่ที่พุ่งขึ้นสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ในปี 2017ทำให้หลายภาคส่วนและหมายถึงคนมากมายที่ให้ความสนใจว่า “คริปโต”คืออะไร มาจากไหน เป็นเทคโนโลยียังไง รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากมายอีกอย่างหนึ่งก็คือ “บล๊อกเซน” ที่สามารถนำไปพัฒนาร่วมกับระบบงานแบบเดิม ให้มีความเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้สิ่งเหล่าเป็นสิ่งที่น่าลงทุน น่าเป็นหนทางแห่งการทำกำไรแต่แน่นอนทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง

มุมมองของตลาด คริปโตเคอเรนซี่

คริปโตเคอเรนซีที่เติบโตอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ถูกมองได้ 2 แง่ ทั้งแง่ของการพนันการหลอกลวงหรือแม้แต่การมีพวกแชร์ลูกโซ่มาอาศัยแอบแฝงเพราะความที่ตลาดคริปโตเติบโตอย่างรวดเร็วและใหม่มาก ทำให้มีช่องโหว่มากมายที่ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนั้น อาศัยช่วงโหว่เหล่านี้ ทำธุรกรรมในแง่ของการพนัน แต่ในอีกแง่ คริปโตคือบล๊อกเซนหรือการเน้นกระจายแบบศูนย์ ดังนั้นจึงเป็นเหรียญที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงและมีความเสี่ยงที่ต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ต้องการใช้งานว่าต้องการใช้คริปโตในทางด้านใด แบบไหน เพราะเหรียญคริปโตก็มีคุณค่าของมันจริงๆ

และเมื่อ คริปโต นั้นเป็นตลาดที่ใหม่ และเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในหมู่นักลงทุนเองก็ดีหรือทางด้านเทคโนโลยีก็ดี ทำให้อาจจะมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆในอนาคต ไม่แน่ว่าในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะใช้สกุลเงินคริปโตในการดำเนินธุรกรรมโดยทั่วไปอย่างแพร่หลายก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งลงความเห็นว่าคริปโตนั้นคือสิ่งเลวร้าย สิ่งที่เป็นช่องโหว่กันไปเสียก่อน มิแน่ว่าคริปอาจจะสร้างกำไรให้คุณอย่างมหาศาลก็เป็นได้

ในปีเดียวกันนับตั้งแต่ปีที่เหรีญ Bitcoin และ Litecoin เข้ากระดานเทรดปี (2015-2017) ร่วมเป็นระยะเวลา 2ปีนั้น ก็ได้มีการทำการสำรวจตลาดในระยะยาวว่าคริปโตนั้นจะให้ผลตอบแทนและมีความเสี่ยงเป็นเช่นไร และผลสำรวจออกมาได้อย่างชัดเจนว่าคริปโตนั้นให้ผลการตอบแทนจากการลงทุนได้สูงกว่าตลาดหุ้นธรรมดาเป็นสิบเท่าในระยะเวลาที่เท่ากัน และมีผลตอบแทนต่อเดือนในแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

จากตรงนี้ก็การันตีได้แล้ว ตลาดคริปโตก็มีความน่าลงทุนอยู่ไม่น้อยถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่เข้ามาร่วมอยู่ด้วยก็ตาม แต่นั้นก็ถือได้ว่าเป็นปกติของทุกการลงทุนที่ต้องพบเจอกับความเสี่ยงหากเราศึกษา เรียนรู้กับมันเราก็จะสามารถใช้มันในการสร้างกำไรได้อย่างสูงสุดได้อย่างไม่ต้องสงสัย

พอคุณมาถึงตรงนี้คงจะรู้จักคริปโต หรือCryptocurrency (คริปโตเคอเรนซี่) กันไม่มาก ก็น้อย แต่ที่แน่ๆอยากให้คุณเข้าใจสั้นๆก็คือ คริปโตนั้นคือ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ในหมู่ของนักลงทุน นักเทรดหุ้น ต่างๆ และอาจจะเป็นสกุลเงินในอนาคตที่ใหญ่อีกสกุลเงินหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเราก็จะมีเทคนิค วิธีการในการเทรดในตลาดคริปโตให้คุณได้เข้าใจ ลองปรับใช้กันดู เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทคนิคของเรานั้นจะเป็นประโยชน์ให้แก่คุณในการสร้างกำไรจากการเทรด หากคุณอ่านบทความของเราและคุณนำมาไปใช้ได้จริงเราอยากให้คุณรับรู้ได้ด้วยหัวใจของคุณว่านั้นแหละคือความประสบความสำเร็จของบทความนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามากกว่านี้ดังนั้นเราไปเรียนรู้เทคนิคการเทรดคริปโตกันเลย

การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆล้วนเป็นประโยชน์ต่อหัวสมองของเรา อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เราเป็นโรคความจำเสื่อม....ขอบคุณข้อมูลจากไทยรัฐออนไลน์

ด้วยรักและปรารถนาดีจาก Super Pat (323)702-0788