ซุปเปอร์แพท
ปิยะพัชรี ศิลปี



การฉลองวันเกิดนั้น สำคัญไฉน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานฉลองวันเกิดให้ อ.จารย์เชนวริท ศิลปี หุ้นส่วนชีวิตของดิฉัน มีอายุครบ 6 รอบ เท่ากับ 72 ปี พร้อมกับแฟนคลับอีก 7 คน ที่เกิดเดือนเมษายนเหมือนกัน ดังนี้ คุณสุธินา บำรุงรัตน์ เกิดวันที่ 1 เมษายน, คุณยุ้ย เกิดวันที่ 5 เมษา, คุณกุ้ง เพชรัตน์ เกิดวันที่ 12 เมษา, คุณหน่อย กุ้ง และ คุณ แอล อโนมัย เกิดวันที่ 15 เมษา, คุณโสภณ มั่นคง เกิดวันที่ 20 เมษา, คุณ เชนวริท ศิลปี เกิดวันที่ 21 เมษา, คุณนราศักดิ์ บุญนรากร เกิดวันที่ 30 เมษายน

ทุกคนพร้อมใจกันแต่งชุดฮาวาย เพื่อเข้ากับบรรยากาศ “เมษา พาเพลิน” มาร่วมสังสรรค์ร้องรำทำเพลง ทานอาหาร Potluck มากมาย ล้วนอร่อยทุกอย่างทั้งอาหารคาวและหวาน มีการจับสลาก ชิงรางวัลเงินสด ถ่ายรูป ตอนเป่าเทียน ตัดเค๊กวันเกิด ที่หลายๆคนนำมา เป็นพันๆรูป สนุกสนานกันไปตามๆกัน แถมมีบางกลุ่มที่ติดพัน ไม่ยอมกลับบ้านหลังงานเลิกแล้ว ยังชวนกันไปทานข้าวต้มรอบดึกอย่างชื่นมื่นต่อ อิ่มเอมเปรมปรีด์ไปตามๆกัน

ในฐานะที่ดิฉันเป็นแม่งาน ขอขอบคุณผู้มาร่วมงานทุกๆคนที่พกพาน้ำใจ นำอาหาร ขนมนมเนย นำเคีกวันเกิด มาร่วมงานที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ณ.ที่นี้ด้วย

ทีนี้มาตั้งคำถามขึ้นมาว่า การฉลองวันเกิดนั้นสำคัญมั้ย เอาละค่ะมาหาคำตอบกัน วันเกิดมีขึ้นสำหรับเป็นสิ่งที่แสดงความเปลี่ยนแปลงในช่วงอายุของคนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี จากนั้นมา วันเกิดเลยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับคนคนหนึ่งขึ้นมา เพราะเป็นโอกาสที่จะได้เฉลิมฉลองวันสำคัญของตัวเอง

ก่อนหน้านี้ วันเกิดถูกสงวนให้พูดถึงเฉพาะเทพเจ้าที่สำคัญของอารยธรรมต่าง ๆ แต่เชื่อกันว่า ชาวโรมันโบราณเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่คิดการเฉลิมฉลองวันเกิดของคนธรรมดาขึ้นมา คนทั่วไปจะมีวันเกิดและมีการเฉลิมฉลองในวันนี้ รวมถึงทางราชการยังได้เริ่มมีวันหยุดราชการขึ้นมาให้กับวันเกิดของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา อย่างพวกคนที่สร้างคุณงามความดี สร้างชื่อเสียงต่าง ๆ

ในวันเกิด ชาวโรมันที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปจะได้รับของขวัญพิเศษเป็นขนมปังที่ทำจากแป้งสาลี ชีสขูด น้ำผึ้ง และน้ำมันมะกอกในการเฉลิมฉลอง แต่ระยะแรกมีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับสิทธินี้ ส่วนผู้หญิงไม่มีบันทึกการเฉลิมฉลองวันเกิดเลยจนถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12

หลังจากนั้นมา ธรรมเนียมการเฉลิมฉลองวันเกิดจึงได้แพร่หลายไปทั่วโลก ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงจะมาร่วมฉลองงานวันเกิดของผู้ที่เกิดในวันนั้น ๆ มีการมอบเค้ก ร้องเพลง อธิษฐาน เป่าเทียน และมีการมอบของขวัญและการ์ดอวยพรวันเกิดตามมา

ที่มาของเค้กและเทียนวันเกิด

เริ่มต้นโดยชาวกรีกที่พยายามจะบูชาเทพเจ้าอาร์เตมิส ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ เพื่อเป็นการบูชาอาร์เตมิส ชาวกรีกจะทำเค้กรูปพระจันทร์ที่ปักด้วยเทียนที่จุดไฟแล้ว เพื่อให้อาร์เตมิสรับรู้ถึงการบูชานี้ นอกจากนี้ การจุดเทียนยังเป็นการส่งสัญญาณหรือคำอธิษฐานไปยังพระเจ้า และการเป่าเทียนหลังจากที่ขอพรแล้ว ก็คือการส่งสิ่งที่ตนปรารถนาไปขอเทพเจ้านั่นเอง

อย่างไรก็ตาม นัยดั้งเดิมของการเป่าเทียนวันเกิด สันนิษฐานว่าชาวกรีกได้รับเอาประเพณีบูชาวันเกิดของเทพเจ้ามาใช้บ้าง ในเมื่อวันเกิดเป็นวันที่คนแต่ละคนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะอายุเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี ในความมืด จะมีสิ่งชั่วร้ายอยู่เต็มไปหมด พวกเขาจึงต่อมามีการอ้างว่า คนที่มีอาชีพทำขนมปังชาวเยอรมนี เป็นคนที่คิดค้นเค้กวันเกิดแบบที่เราใช้จุดเทียนเฉลิมฉลองกันในปัจจุบันขึ้น ในวันเกิดที่มีชื่อว่า Kinderfeste ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยเฉลิมฉลองวันเเด็ก ๆ ได้กินในโอกาสพิเศษ ซึ่งเด็ก ๆ ก็จะได้รับเทียน 1 เล่มเพื่อขอพรในวันพิเศษของตนเอง

ในช่วงเวลานั้น หลาย ๆ คนก็ได้มีเค้กสำหรับฉลองในวันเกิดของตนเอง แต่เค้กวันเกิดก็ถูกสงวนไว้เฉพาะคนที่ร่ำรวยเท่านั้น เพราะน้ำตาล ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในเค้กเป็นสิ่งที่หายากและมีราคาแพง มาจนถึงช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม น้ำตาล รวมไปถึง ส่วนผสมต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับทำขนมเค้กเป็นสิ่งที่ไม่ได้หายากเท่าแต่ก่อน ความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมทำให้มีส่วนผสมในการทำเบเกอรี่หาง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีการทำเค้กสำเร็จรูปในราคาประหยัดเพื่อให้คนทั่วไปได้มีโอกาสฉลองวันเกิดด้วยเค้กและจุดเทียนขึ้นมาเพื่อเป็นแสงสว่างเล็ก ๆ ในความมืดนั้น แล้วเป่าให้ดับเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับเกร็ดความรู้ เล็กๆน้อยๆที่มาที่ไปของการฉลองวันเกิด ที่เป็นเรื่องประจำวันของทุกๆคน

Happy Birthday กับทุกๆคนในทุกๆเดือนและทุกๆวัน มา ณ.ที่นี้ด้วย

ด้วยรัก และ ปรารถนาดีจาก Super Pat (323)702-0788