แค่การหมุนนาฬิกาย้อนหลังไปหนึ่งชั่วโมงก็เล่นเอาร่างกายและจิตใจไม่เหมือนที่เคยเป็นมา เพราะน้ำย่อยอาหารมารอในกระเพาะทั้งๆที่ยังปรุงอาหารไม่เสร็จ แมวเหมียวของผู้เขียนเคยกินอาหารเช้าเวลา 6 โมงเช้าทุกวัน เกิดร้องเหมียวๆ หนูหิวตั้งแต่ตี 5 เจ้าแมวไม่ได้ใส่นาฬิกานี่นะ ยังตรงเวลาเดิมไม่สับสนเหมือนคน สัตว์นี่ดูถูกเขาไม่ได้หรอก เขาตรงต่อเวลามาก เช่น แมวไร้เจ้าของซึ่งผู้เขียนเคยให้อาหารเวลา 3 ทุ่ม พอได้เวลา 3 ทุ่มก็รอกันสลอนที่หน้าประตู ตอนนี้เอาอาหารไปให้เวลา 2 ทุ่ม ไม่มีแมวมารอกันเลย เพราะเขาไม่รู้เรื่องคนเปลี่ยนเวลา พอเอาอาหารไปเลี้ยงตอน 2 ทุ่ม บางตัวยังไม่ได้เดินข้ามถนนมาเลย เพราะเขาไม่ได้หมุนนาฬิกาย้อนหลัง ร่างกายคนเราก็ต้องปรับตัวตามนาฬิกาเวลาที่ตั้งใหม่ นาฬิกาของผู้เขียนตั้งไม่ได้ ตามฤดู เพราะต้องสัมพันธ์กับวันที่และชื่อวัน ว่าเป็นวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เดี๋ยวก็ยุ่งกันยกใหญ่ เพราะความอัตโนมัติเป็นสิ่งละเอียด อย่าเอาวันย้อนหลังไปยุ่งกับเทคโนโยลีดีกว่า เดี๋ยวก็ยุ่งกันยกใหญ่ อาศัยคอยเตือนตัวเองให้หักเวลาตามนาฬิกาข้อมือไปหนึ่งชั่วโมง ยกเว้นอาการหลงลืม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยไม่ได้

พูดถึงฤดูใบไม้ร่วงต้องเตรียมร่างกายและจิตใจอะไรบ้างกับการเปลี่ยนจากฤดูร้อน เขาว่าเมื่อใบไม้ร่วงคนเรามักไม่เบิกบาน เพราะอากาศก็ครึ้ม แสงแดดก็ไม่ค่อยจ้า แถมยังเย็นเอาอีกต่างหาก พาลพาให้ขี้มูกไหล ประการที่หนึ่ง เขาให้เตรียมฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ผู้เขียนไม่อยากเอาเชื้อโรคเข้าร่างกายก็บอกเขาว่าแพ้ไข่ เขาเลยไม่ฉีดวัคซีนให้ นัยว่าวัคซีนผลิตจากไข่หรืออย่างไรไม่รู้ เราก็เตรียมร่างกายต้านไข้หวัดเอาเอง ด้วยการสะสมไวตามินซีไว้ในร่างกาย ต้องกินส้ม ดื่มน้ำส้มคั้น และมียา Tamifu เตรียมไว้เผื่อเป็นหวัดน้ำมูกไหลเพราะตากฝนหรือออกไปเจออากาศเย็น เวลานอนก็มีหมวกไหมพรมใส่ไว้คลุมให้หัวอุ่น เพราะอากาศรอบตัวอาจจะเย็นกว่าตอนเข้านอน ที่คอควรมีผ้าฝ้ายพันคอให้อุ่นอยู่ตอนหลับ อากาศในห้องควรถ่ายเทตลอดเวลา นั่นหมายถึงว่าพัดลมทำงาน 24 ชั่วโมง เปลี่ยนชุดนอนจากผ้าฝ้ายที่ใส่ตอนฤดูร้อนมาเป็นกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาวทำด้วยผ้าสำลี และห่มผ้านวมบุนุ่นมาห่มอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเก็บความอุ่นของร่างกาย ตอนที่ไม่มีการเคลื่อนไหว และไม่มีการหนุนเวียนโลหิตนำความอบอุ่นไปเลี้ยงส่วนไกลๆ เช่นปลายเท้าได้ ผ้าสำลีจะทำหน้าที่แทน ผลไม้ที่ขาดไม่ได้ คือ บลูเบอรี่ซึ่งอยู่ในฤดูกาล สำหรับช่วยต่อต้านแบคทีเรียหรือเชื้อหวัด และมีสารแอสไพรินธรรมชาติ ช่วยป้องกันการอักเสบติดเชื้อ

ผักสลัดให้เติมหัวบีทต้ม หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ ใส่ด้วยทุกครั้ง เพื่อป้องกันเชื้อโรค ทำความสะอาดโลหิตและเป็นตัวนำออกซิเจนหมุนเวียนในโลหิต ทำให้ภาวะกรดและด่างสมดุล นอกจากนี้ในสลัดควรเติมส้มแมนดารินปอกเยื่อออกแล้ว เขามีขายที่คอสโคเป็นถ้วยเล็กๆลอยอยู่ในน้ำ สะอาดสีสันน่ากิน พร้อมใส่ในสลัดได้เลย เพื่อเสริมไวตามินซีจำเป็นสำหรับฤดูนี้ เพื่อต้านทานหวัด นอกจากนี้ทับทิมผลใหญ่เท่าส้มโอ สีแดงน่ากิน ควรซื้อไว้เป็นผลไม้ประจำฤดูนี้กินทุกมื้อหลังอาหาร โดยฝานเปลือกเป็นชิ้นหนาประมาณครึ่งนิ้ว เพื่อกินเม็ดสีแดงได้รอบชิ้น นอกจากรสดีมีน้ำแยะแล้ว ยังมีประโยชน์มาก มีแอสไพรินธรรมชาติ ช่วยลดสารพิษและความปวด ลดการอักเสบจากแบคทีเรียและไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย นั่นหมายถึงว่านอกจากหวานแล้วยังให้ประโยชน์สูง ราคาก็ไม่แพงในฤดูย่างเข้าสู่ความเย็นที่ธรรมชาติเนรมิตให้เป็นอาหารอันทรงค่าก่อนผ่านเข้าสู่ฤดูหวัด พอจบการรับประทานอาหาร นอกจากดื่มน้ำส้มคั้นเพื่อเสริมไวตามินซีป้องกันหวัดแล้ว ควรตามด้วยน้ำอุ่นที่หั่นมะนาวสดใส่ทั้งเปลือก จะได้ความขมแก้น้ำตาลสูง และช่วยเตรียมร่างกายให้อุ่นก่อนเข้านอน มะนาวช่วยรักษาตับให้ปลอดพิษในขณะที่ทำการย่อยอาหารระหว่างหลับ และช่วยโลหิตให้มีความสะอาดไร้เชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อหวัดที่สะสมหรือติดมาจากภายนอก อาหารอีกอย่างที่จะช่วยร่างกายปลอดจากเชื้อโรคได้ก็คือสาหร่ายทะเล แมวเหมียวของผู้เขียนชอบกินสาหร่ายทะเล ขบเคี้ยวเป็นประจำตลอดวัน ทั้งๆที่ไม่เคยอ่านบทความสุขภาพ เขารู้เองตามธรรมชาติว่าดีต่อร่างกายของแมว เขาเลยไม่เจ็บป่วย ออกกำลังกายด้วยการเตะฟุตบอลที่เป็นถั่วพิชตาชิโอ้ หรือไม่ก็พุดทราจีนทุกครั้งหลังกินอาหาร

ผู้เขียนเป็นกังวลเรื่องโคเลสเตอรอลสูงจากผลการตรวจเลือด พอไปบอกแพทย์ด้านประสาทว่าเจ็บหัวใจ และปวดศีรษะ เขาก็สั่งยาสแตตินให้สำหรับลดโอเลสเตอรอล แต่ผลข้างเคียงของยาสแตติน ก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง บางทีเป็นตะคริวหงิกงอ แพทย์ประจำตัว ดูผลการวิจัยโลหิตแล้วไม่สั่งยาลดโคเลสเตอรอล และบอกว่าผู้เขียนมีโคเลสเตอรอลชนิดดีสูง เลยสั่งแต่แคลเซี่ยมและไวตามินดีแทน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของกระดูก ช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น ค่อยเข้าเรื่องหน่อย ผลการตรวจเลือด จะแสดงอัตราปกติของ HDL และ LDL คือไขมันชนิดดีและชนิดร้าย เราไม่ควรตกใจ หากไขมันชนิดร้ายสูง เพียงแต่กินอาหารให้ถูกวิธี มิฉะนั้นแล้ว หากกินยาลดไขมันชนิดร้ายด้วยสแตติน จะแถมอาการเดินไม่ไหวเพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีก การกินยาควรมีเหตุผลพอสมควร ถ้ากินอาหารแทนยาได้จะดีกว่า เหมือนอย่างที่สตีฟ จอปส์ ที่ปราดเปรื่องเรื่องสมอง พูดไว้ก่อนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ตับว่า ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ควรกินอาหารให้เป็นยา มิฉะนั้นแล้ว คุณจะต้องกินยาเป็นอาหาร

สาเหตุที่ผู้เขียนมีโคเลสเตอรอลชนิดดีสูง เข้าใจว่าเป็นเพราะชอบกินถั่วอัลมอนด์ ซึ่งเขาทำประกบไว้ด้วยสาหร่ายทะเล อันนี้ให้แมวกินไม่ได้ เพราะฟันเขาแหลม เคี้ยวถั่วอัลมอนด์ไม่ละเอียด เกิดติดคอลำบาก ทั้งๆ ที่แมวก็ชอบกินถั่วอัลมอนด์ นอกจากนี้ ถั่วอัลมอนด์ยังควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเป็น hyperglycemia คือหิวน้ำบ่อย หายใจไม่ออก ควบคุมร่างกายไม่ได้ มีภาวะเป็นลมง่าย

นอกจากนี้ผู้เขียนกินแอปเปิลเป็นประจำ มีสารเพคติน ช่วยลด LDL คือไขมันร้ายและลดสารโลหะหนัก เช่น สารที่เขาใส่ในน้ำประปาเพื่อป้องกันท่อรั่ว นอกจากนี้ แอปเปิลช่วยป้องกันมะเร็ง ช่วยทำลายไวรัส และแบคทีเรีย ช่วยทำลายสารเคมีจากอาหารที่ก่อให้เกิดการแพ้ในเด็ก หรือการปวดหัวไมเกรนในผู้ใหญ่ อีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยลดโคเลสเตอรอลชนิดร้ายก็คือถั่ว ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ถั่วสูงด้วยไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบการย่อยสะอาด ลดสารพิษ ควบคุมน้ำตาลในเลือด และป้องกันมะเร็งในระบบลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก

ก่อนนอนอย่างอบอุ่น อย่าลืมข้ามต้มอุ่นกินกับเนื้อแผ่นซื้อจากคอสโค เรียกว่า Steak Strips สามารถกินได้เลย ไม่ใช่เนื้อเค็มอย่างของไทย ที่ต้องย่างหรือทอดเสียก่อน และเนื้อของคอสโคอบแห้งแล้ว ใส่ตู้เย็นหลังจากเปิดซองแล้วจะไม่เสียคุณภาพ กินได้ทันที ปลอดจากพังผืด เพราะเราแยกออกได้ตอนแทะเนื้อ ฉะนั้นกินง่าย เข้าใจว่าเลียนแบบเนื้อเค็มของไทย แต่ก็เหมาะกับชีวิตไทยๆมาก เพราะกินง่าย นอนง่าย

สารที่จะต่อต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลให้ร่างกายมีความต้านทานสูง ได้จากสามแหล่งคือ ไวตามิน เช่น เอ ซี อี หรือสาร Co Q-10 และพืชผักผลไม้ที่กล่าวมาแล้ว รวมทั้งแตงโม พีช พลัม พลับ อะโวคาโด เกรพฟรุต อย่างไรก็ดี เราควรกินพืชผักสีเขียวให้มาก อย่างน้อยพืชก็สร้างสารดีๆ ไว้เลี้ยงตัวเอง มนุษย์ก็พลอยได้รับประโยชน์จากพืช