สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ให้ร่างกายภายในรักษาภายนอก

การรักษาร่างกายต้องพึ่งปัจจัยทั้งภายนอกและจากภายในที่ตรงจุดกับปัญหา เป็นต้นว่า โดยทั่วไปร่างกายจะสมดุลก็อาศัยปัจจัย 4 ประการ คือ อาหาร อากาศ การให้โอกาสร่างกายพักผ่อนเพียงพอที่จะเสริมสร้างการทำงานของ 10 ระบบภายใน และมีจิตที่ประกอบด้วยพลังแห่งการสร้างที่รวมทั้งการบอกจากภายในที่เรียกว่าการสังหรณ์ และการสร้างความตั้งใจจากจิตใจของความคิดของเราเอง จึงจะส่งผลเป็นพลังแห่งความสำเร็จ

เริ่มง่ายๆจากอาหารที่เราป้อนสู่ภายใน ควรมีโปรตีน คือเนื้อจากสัตว์และนม มีแป้งจากข้าวและถั่ว มีน้ำคั้นจากผลไม้และพืชผัก มีอาหารประกอบอีกถ้าอาหารเบื้องแรกไม่สมบูรณ์ ก็ต้องเสริมด้วย Anabolic Protein Powder เขาผลิตขายสำเร็จรูปสำหรับชงน้ำอุ่นดื่ม หรือเม็ดโคโลสตรัม Colostrum เป็นไวตามินเสริม กับมีเอนไซม์เม็ดที่อาหารส่งเสริมชีวิตเรียกว่า Probiotic

อากาศก็ต้องนอนในที่มีอากาศถ่ายเท ออกซิเจนสมบูรณ์ หรือออกกำลังกายในที่มีต้นไม้ซึ่งจะถ่ายเทออกซิเจนในอากาศให้เราสมบูรณ์ นอกจากเดินในสวนสาธารณะที่ปลูกต้นไม้ทั้งพื้นดินแลยืนต้นสูงที่เราจะสูดอากาศใต้ต้นไม้ตลอดเวลา การเดินในที่สูงเช่นบนเขื่อนแฮนเซล Hansel Dam ตรงสุดถนน Laurel Canyon ก็ได้ผลดีทั้งการบริหารเข่าและสูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่น ไม่เหนื่อยง่ายและไม่เจ็บหัวเข่า เพราะเลือดหมุนเวียนดีกว่าเดินบนถนนที่มีควันเสียของคาร์บอนโมนอกไซด์จากรถยนต์

การพักผ่อนที่จะให้ผลดีที่สุดต่อร่างกาย คือการหลับสนิทในที่อุ่น ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องทำอุณหภูมิร้อนกว่าปกติเพียงห่อผ้านวม หรือพันคอด้วยผ้าฝ้าย และใส่หมวกไหมพรหมให้คลุมศีรษะ และใส่ถุงเท้า ก็เรียกว่าอุ่นตลอดตัวแล้ว ที่สำคัญคือหลับให้เต็มอิ่มตามที่ร่างกายต้องการพักเพื่อให้ระบบภายในทำงานให้เสร็จสมบูรณ์ เขาว่าอย่างน้อย 6 ชั่วโมงถึง 8 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้น ก็แสดงออกด้วยการเจ็บหัวใจ ถ้าขืนลุกขึ้นหัวใจอาจไม่ทำงานก็ได้ เพราะไม่มีแรงขยับกล้ามเนื้อหัวใจถึง 4 ห้อง

การสร้างพลังจิต เป็นการพิจารณาที่ 3 ประการคือ 1.พลังความตั้งใจ Power of Intention 2.พลังความสำเร็จ Power of Success 3.พลังการดลใจ Power of Intuition

1.พลังความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ตัวเราเองรู้ว่าจะทำอะไรทำตามนั้นให้สำเร็จ ถ้ามีอาการหลงลืมก็จดไว้เป็นรายละเอียดเป็นรายการที่จะต้องทำ เช่น ตั้งใจว่าจะเรียนปริญญาเอกสาขาอะไร ที่ไหนสมัครแล้วเขาต้องการอะไรบ้าง

2.พลังแห่งความสำเร็จ ถ้าตั้งใจว่าจะต้องกินอะไร ก็หาใส่ปากใส่ท้อง จะต้องทำอะไรก็ทำให้เสร็จ ถ้าตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำอะไรก็อย่าทำ คือความสำเร็จอยู่ที่ความเรียบร้อยสมบูรณ์ตามที่ตั้งใจไว้

3.พลังแห่งประสาทรู้เอง เรียกว่าการดลใจ เช่น อย่ากินสิ่งนี้ อย่างทำอย่างนั้น หรือให้เรียนสาขานี้ หรือให้ติดต่อคนนั้น อย่าคบคนนี้ เป็นสิ่งที่มิได้คิดเอง แต่เกิดขึ้นเองโดยมิได้ตั้งใจด้วยตนเอง เป็นพลังที่เกิดจากธรรมชาติแห่งจิตสำนึก คนที่มีจิตบริสุทธิ์จะรู้สึกตัวเองว่ามีการดลใจสร้างผลดีต่อชีวิตที่จะดำเนินต่อไป คนที่ทำผิดทำไม่ดีก็จะรู้ผลเสียที่ตามมาด้วยตนเอง

พลังงานของร่างกายมี 2 ประการ คือ พลังสมดุล หรือไม่สมดุล ถ้าสมดุล การทำงานภายในร่างกายก็จะกลมกลืนราบรื่น เรียกว่าสอดคล้องกันทั้ง 10 ระบบ คือย่อยอาหาร ปัสสาวะ และขับถ่าย หายใจ ทางเดินโลหิต สืบพันธุ์ เคลื่อนไหว โครงกระดูก ประสาท ระบบจิต และระบบต่อมไร้ท่อ เขาเรียกว่า คนจะเป็นอย่างที่กิน และจะเป็นอย่างที่คิด นี่เป็นวิธีการ แต่เหนือขึ้นไปอีกเรียกว่า เป็นระดับพลังคอสมิก หรือระดับแห่งการดลจิตใจให้เกิดขึ้น เรียกว่า Spiritual level

ถ้าพลังงานสมดุล ก็สามารถได้ผลงานของระบบทั้ง 10 ให้กลมกลืนประสานกัน ทุกอย่างก็เหมือนกับมีอะไรดลใจให้สำเร็จสมประสงค์ หรือ จะปรากฏว่า พลังงานในร่างกายรักษาตนเอง

ว่ากันด้วยวิทยาศาสตร์แห่งการบำบัดร่างกาย มี 2 ทางคือ บำบัดด้วยระบบร่างกาย กับบำบัดด้วยพลังจิต ทั้ง 2 อย่างนี้จะส่งผลไปที่หัวใจของเซลล์ หรือ ดี.เอ็น.เอ. ให้บริการการทำงานของรหัสโครโมโซม ไปสู่ศูนย์กลางเซลล์ที่จะสร้างเนื้อเยื่อให้แข็งแรง เป็นอวัยวะที่ทำงานตามต้องการ ที่เรามักพูดกันเสมอว่า คุณกินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น และคุณคิดอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น จนบางครั้งเราก็ฉงนว่าทำไมจึงเกิดอย่างนี้ได้ เพราะความสัมพันธ์ของระบบร่างกายกับความคิดคำนึงประสานงานกันเป็นพลังแห่งคอสมิก หรือ เรียกว่า ระดับจิตวิญญาณ Spiritual level ดังที่ผู้เขียนประสบด้วยตนเองตั้งแต่ตอนยังเด็กว่า เมื่อพี่เขยเสียชีวิตกะทันหัน วิญญาณของเขาสามารถเดินทาง 400 กิโลเมตรด้วยเวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมงมาเข้าฝันพี่สาว เพื่อที่จะนำเธอไปสู่ภพวิญญาณด้วยกัน หรืออีกกรณีหนึ่ง ที่ผู้เขียนสามารถเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภาวะสมาธิหรือภาวะจิตว่าง เห็นพระองค์ทรงดำเนินย่างพระบาทและพระหัตถ์เคลื่อนตามจังหวะ ชายจีวรโบกพริ้วด้วยสายลม มิใช่คิดจากมโนภาพ แต่ระดับ spiritual level ที่เป็นแนวทางให้ข้อคิดว่า ถ้าคนเราฝึกจิตให้เป็นสมาธิ หรือให้จิตได้พักด้วย ภาวะจิตว่าง หรืออย่างน้อยก่อนจะหลับก็ควรทำจิตว่าง จะช่วยให้ร่างกายภายในทำงานมีประสิทธิภาพในระหว่างที่เราพักกาย แต่ระบบภายในยังทำงานอยู่

ยกตัวอย่าง ไต ผลิตพลาสม่าให้โลหิต เพื่อรักษาระดับความสมดุลแห่งความเป็นกรดหรือความเป็นด่างในร่างกาย รักษาระดับน้ำในร่างกาย รักษาการผลิตสิ่งจรรโลงชีวิต ให้ระดับพลังไฟฟ้า พลังสารเคมีในร่างกายมีความสมดุล และรักษาระดับความเข้มข้นหรือเจือจางของน้ำในร่างกาย ที่เราเรียกว่า pH หรือ ระดับไฮโดรเจนในน้ำที่จะบ่งลักษณะความเป็นกรดหรือด่าง เช่น โลหิตมี pH อยู่ในภาวะด่าง น้ำย่อยในกระเพาะอยู่ในภาวะกรด น้ำที่เราดื่มไม่ควรมีภาวะกรดหรือด่าง ร่างกายจะได้ไม่ต้องปรับภาวการณ์ใช้น้ำในการทำงานภายใน น้ำกลั่นมาจากไอระเหยมีภาวะเป็นกลาง ย่อมเป็นการง่ายที่ระบบจะนำไปใช้งานกับภาวะในร่างกาย

น้ำดีผลิตจากตับ เริ่มต้นที่ม้าม มีน้ำ 97% มีสีเป็นเกลือ 1% อีก 2% เป็นแร่ธาตุกับกรดไขมัน น้ำดีช่วยให้ไขมันได้รับการย่อยง่ายขึ้นในน้ำ ทำให้เอนไซม์ทำงานได้ง่ายขึ้น

ม้าม อยู่ระหว่างซี่โครงคู่ที่ 10 เป็นตัวช่วย Lymphocytes และ Monocytes ทำงานสะดวกขึ้น เพื่อเสริมระบบป้องกันร่างกายจากเชื้อโรค และส่งเสริมการผลิตน้ำดี

ตัวอย่างง่ายๆของการกินดี ที่จะได้สารเคมีจากพืชผัก เรียกว่า sulforaphanes เพื่อป้องกันการเป็นมะเร็ง ได้จาก ดอกกะหล่ำ บร็อคโคลี่ ผักเคล บรัสเซลล์สเปราท์ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้มีการพักผ่อนสมบูรณ์ ภาวะจิตดี เพื่อให้ร่างกายทำงานจากภายในป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกได้