สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
คำนึงถึงชีวิต

หลังจากดูเรื่องราวในทีวีผ่านไป ก็ได้ข้อคิดที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงของแม่ลูกสาม ที่หลงรักผู้ชายซึ่งแยกกันอยู่กับภรรยา ยังไม่ได้หย่า เพียงแค่อยู่คนเดียว ผู้หญิงคนนี้หลงรักเขา เขียนบันทึกความรักไว้ในไดอารี่ทุกวัน บรรยายความรักของเธออย่างละเอียด ผู้ชายบอกว่า ไม่ชอบให้มีเด็กมายุ่งด้วย ผู้หญิงคนนี้มีลูกติดอยู่ด้วย 3 คน คนเล็กสุดท้องอายุ 1 ขวบยังเล่นตุ๊กตาน่ารัก คนกลางอายุ 2 ขวบ คนโตอายุ 3 ขวบ ตามเรื่องที่สถานีโทรทัศน์ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงของผู้หญิงคนนั้น ตามเรื่องในข่าว เด็กทั้ง 3 ถูงยิงที่หน้าอก 2 คนตายคาที่ในรถตู้ที่มารดาอ้างว่ามีรถคันอื่นสวนมา และยิงลูกตาย ส่วนแม่ถูกยิงที่แขน แม่ถูกจับและติดคุก แม่จะสร้างเรื่องว่า มีรถขับผ่านมาและยิงลูกทั้ง 3 ในรถตู้ของเธอ แต่พนักงานสอบสวนพบปืนยาวในรถ แม่จึงถูกจับและอยู่ในคุกระหว่างสร้างภาพยนตร์ แม้ผู้เป็นแม่จะยืนกรานว่าไม่ได้ยิง ลูกคนเล็กและคนกลางตายเพราะถูกยิงที่หน้าอก คนโตอายุ 3 ขวบรักษาอยู่หลายเดือนกว่าจะรอดมาได้ นักสืบก็ให้เด็กเขียนชื่อคนที่เป็นผู้ยิง เด็กเขียนใส่กระดาษแต่ก็เผาไฟทิ้งก่อนมอบให้ตำรวจถึง 3 ครั้ง ครั้งสุดท้าย นักสืบได้กระดาษ เด็ก เขียนว่า “my mom” เรื่องจึงปรากฏ ประกอบกับไดอารี่ที่ผู้หญิงคนนี้บรรยายความรักของเธอต่อผู้ชายคนนั้นไว้ละเอียดทุกวัน เขาไม่ชอบให้มีเด็กมายุ่งอยู่ด้วย แม่จึงสร้างเรื่องว่ามีรถผ่านมาและยิงลูกทั้ง 3 และยิงเธอที่แขน ผู้หญิงแม้จะอยู่ในคุก ก็ยังยืนกรานว่า ไม่ได้เป็นผู้ฆ่าลูกและตัวเองก็ถูกยิงที่แขน ถ้าลูกคนโตไม่รอดชีวิตมาบอกความจริง ก็ไม่มีพยาน เรื่องนี้เมื่อฉายจบมีรายนามผู้ร่วมทำงานผลิตเป็นภาพยนตร์สู่ทีวีนับร้อยคน เพื่อถ่ายทอดเรื่องในชีวิตจริง ว่าคนเรานั้น ถ้าไม่สรรหาสาระแห่งชีวิต ก็จะมีแค่ กิน-นอน-เสพ-ก่อกรรม ที่เกิดจากการกระทำโดยปราศจากความไตร่ตรองให้รอบคอบ สาระแห่งความคิดอยู่ที่การศึกษา คำนึงถึงความถูกต้อง และความรักต่อลูก หรือสิ่งมีชีวิตโดยรวม

ฉากสุดท้ายเป็นการเล่าถึงชีวิตของลูกสาวที่รอดมาได้ เติบโตและมีลูกแล้ว 2 คน ชีวิตครอบครัวดูว่าเต็มไปด้วยความพร้อม เธอได้บทเรียนมาแล้ว คงจะสามารถดำรงชีวิตห่างจากความผิดพลาดของอดีตได้ดี

จะว่าไปแล้ว บทเรียนจากผลของการกิน-นอน-เสพ และการกระทำผิดพลาดของมารดา อาจประสบกับหลายชีวิตเหมือนกัน ต่างกันที่ว่า จะสามารถครองจิตใจในครรลองที่สร้างความก้าวหน้าให้ชีวิตได้แค่ไหน ผู้เขียนใช้การศึกษารักษาตัวรอด และใช้ความคิดที่ถูกต้องดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสำเร็จและความพร้อมในการพัฒนาชีวิตพอสมควร ถึงแม้จะไปเชื่อคนที่เคยเคารพนับถือว่าอย่าไปเรียนต่อปริญญาเอกเลย คงไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก ก็ยังเสียใจที่ไปเชื่อเขา การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิต ถ้ามีโอกาสก็ตักตวงเพิ่มเติมให้กับชีวิตเถิด ไม่เสียหลายหรอก

เดี๋ยวนี้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า คนสามารถเดินได้อีก หลังจากเป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์ โดยอาศัยกล่องป้อนกระแสไฟฟ้าติดไว้ช่วยการทำงานของระบบประสาทที่กระดูกสันหลัง ให้สามารถส่งสัญญาณสู่กล้ามเนื้อขาทั้งสองได้อีก เนื่องจากอุบัติเหตุได้ตัดขาดทางเดินติดต่อของระบบประสาทผ่านไขสันหลังไปสู่กล้ามเนื้อขา เรียกว่า เรียนไปเถิดจะเกิดผล สมัยก่อนคงคิดว่าหมดหวังที่จะเดินได้อีกแล้ว เพราะความเสียหายผ่านกระดูกสันหลัง แต่การศึกษาช่วยให้จุดบกพร่องมีทางแก้ไขได้ การศึกษาจึงมีส่วนสำคัญต่อความก้าวหน้าของชีวิตมนุษย์

คนเรามีพลังในการบำบัด ศาสตร์การบำบัดด้วยจักระเคยกล่าวว่า เซลล์สามารถได้รับการบำบัดและเกิดเซลล์โลหิตใหม่ พร้อมทั้งซ่อมแซมปลายประสาทได้ เพียงแค่

1.นึ่งมะขามสุกผสมผงขิง

2.ใส่ใบขิงสด

3.หรือใส่ใบกระชายแทนผลขิง เพื่อสร้างเซลล์โลหิตที่ใช้แล้วใหม่

4.ถ้ามีแผลที่กระเพาะอาหาร ดื่มชาขิง ข่า เป็นน้ำชาเวลาประมาณ 7 โมงเช้า และก่อนนอน

ถ้ามดลูกหย่อนยานขยายตัว จากการที่สตรีเดินเหินจะปั้มอากาศเข้าสู่มดลูกและช่วงท้อง อาจนำไปสู่หัวใจวาย วิธีรักษา คือ

1.เวลา บ่ายสามโมง ดื่มน้ำกระชายเป็นชา เพื่อป้องกันการขยายตัวของมดลูก หรือต่อมลูกหมาก

2.เวลา 21-23 นาฬิกา ร่างกายสะสมพลังงาน มิฉะนั้นจะรู้สึกเพลียวันรุ่งขึ้น ทำให้ง่วงนอนโดยไม่มีสาเหตุ วิธีแก้คือ ระหว่างเวลา 21-23 นาฬิกา อย่าทำให้ร่างกายได้รับความเย็น ให้อาบน้ำอุ่นหรืองดเว้นอาบน้ำ

3.กินข้าวกับไก่ มะเขือเทศกับซุปขิง น้ำกระชาย น้ำตะไคร้กับมะนาว เป็นน้ำชา

4.กินใบโหระพา และข่า กับใบมะนาว ใส่น้ำมะนาว

ในอินเดีย นิยมใส่ใบโหระพาในหม้อ ตั้งไว้หน้ารถเพื่อความปลอดภัย ผู้เขียนคิดเองว่า คงช่วยบรรเทาอากาศเสีย

เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ อาจได้ผลดีต่อร่างกาย อย่างน้อยกลิ่นหอมของใบพืชอาจช่วยให้ตาสว่าง

ร่างกายของเราประกอบด้วยธาตุ 5 อย่าง ตามหลักการบำบัดด้วยการสัมผัส ธาตุทั้ง 5 ไม่เกี่ยวกับสารเคมี แต่หนักไปในรูปของสสารในโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป เป็นวงจรแห่งชีวิต กล่าวคือ

ในภาวการณ์เกิดของโลก เป็นการเกิดแห่งไม้ หมายถึงสิ่งที่เจริญเติบโตได้

ในภาวการณ์เติบโตตั้งตรงขึ้นไป เป็นภาวะแห่งไฟ หมายถึง อากาศ หรือ แก๊ส

ในภาวการณ์เจริญเป็นผู้ใหญ่ เป็นโลกที่ประกอบด้วยดิน และฝุ่น

ในภาวการณ์แห่งการเสื่อมโทรม เป็นโลหะ ประกอบด้วยสิ่งไม่มีชีวิต

ในภาวะสิ้นสุดแห่งชีวิต หรือเกิดใหม่ เป็นน้ำ หรือความชุ่มชื้นทั้งหลาย (หลักสุขภาพแห่งเต๋า โดย Michael Blate) วงจรนี้หมุนเวียนตามเข็มนาฬิกา เส้นหยาง หรือ บวก เกี่ยวเนื่องกับทางเดินของการเต้นชีพจร เส้นหยิน หรือ ลบ เช็ดได้โดยกดแรงขึ้นที่จุดชีพจร แต่ละจุดแห่งชีพจร จะได้รับการส่งเสริมของภาวะ หยิน (-) กับหยาง (+) ในแต่ละธาตุ ตามศาสตร์นี้อาจบำบัดด้วยการกดจุด หรือใช้เข็มเพื่อการบำบัด ใช้กันมากกว่า 5,000 ปี

ธาตุไฟ หัวใจ (-) ลำไส้เล็ก (+) อุณหภูมิ (+) ทางเดินโลหิต เซ็กส์ (-) ควบคุมโลหะโดยการละลาย

ธาตุดิน ม้าม (-) กระเพาะอาหาร (+) ควบคุมน้ำ โดยการแทรกซึม

ธาตุโลหะ ปอด (-) ลำไส้ใหญ่ (+) ควบคุมไม้ โดยฟันหักโค่นไม้

ธาตุน้ำ ไต (-) กระเพาะปัสสาวะ (+) ควบคุมไฟ โดยเจาะทะลวงสู่ไฟ

ธาตุไม้ ตับ (-) ท่อไต (+) ควบคุมดิน โดยเจาะลงในดิน