สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
เรื่องเก่ามาเล่าใหม่

คนที่เครียด ต้องรู้ว่าตัวเองขาดฮอร์โมนแห่งความสุข ชื่อว่า เซอราโทนิน Seratonin ผลิตจากสมองโดยเฉพาะตอนนี้ต้องแยกตัว เก็บตัว เพื่อปลอดภัยจากโรคภัยไวรัส พาให้อารมณ์ไม่เบิกบาน จึงต้องสร้างความคิดว่า ไม่มีใครทำให้เราทุกข์ได้นอกจากตัวเราเอง แล้วจะทุกข์ไปทำไม สารอีกอย่างหนึ่งที่ส่งเสริมความสุขคือแคลเซี่ยมกับฟอสฟอรัสในระบบประสาท นัยว่า อาหารที่ควรทานได้แก่ ดอกกะหล่ำ บรอคโคลี่ ส้ม หรือพืชตระกูลที่มีใบเลี้ยง 4 ใบ (cruciferous family) หรืออีกนัยหนึ่งร่างกายสร้างฮอร์โมนครบ นี่ยังไม่ได้พูดถึงฮอร์โมนที่ช่วยให้นอนหลับ ชื่อ Melatonin หรือ เมลาโทนิน ผลิตโดยต่อมใต้สมองชื่อ ต่อมไพนีล ถ้าขาดตัวนี้ต้องใช้วิธีเสริม ซึ่งมีสารช่วยสัก 3 มิลลิกรัม ครึ่งชั่วโมงก่อนเวลานอน สัก 5 วันเว้น 2 วัน หรือใช้โกรทฮอร์โมนสเปรย์ใต้ลิ้นกระตุ้นต่อมพิจุอิทาริให้ผลิตฮอร์โมนนี้ตามธรรมชาติ โดยมีอาร์จินีน จากแป้ง ถั่วอัลมอนด์ที่ส่งเสริมการผลิตโกรทฮอร์โมน เช่นพีนัทบัตเตอร์ และสารอื่นๆที่ส่งเสริมการผลิตฮอร์โมน เช่น สเปรย์โกรทฮอร์โมนใต้ลิ้นเป็นต้น

หน้าร้อนนี้ ถ้าคุณรู้สึกไม่ปกติ ใจหวิวหรือเปล่า อย่าให้ฟุบไปเชียวนา กลับมาสำรวจภายในร่างกาย ดูก่อน ถ้าอวัยวะยังอยู่ครบ แต่ทำงานบกพร่อง ก็ให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะรักษา แต่ถ้าขาดๆเกินๆโดยไม่มีสาเหตุพอที่แพทย์จะรักษาได้ ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาหารที่คุณเติมให้ร่างกายต้องมีอะไรขาดๆเกินๆแน่ เพราะกินอะไรก็ได้อย่างนั้น จะเถียงว่า ฉันก็กินอาหารครบ 5 หมู่แล้วนี่นะ จะขาดอะไรอีก นั่นมันล้าสมัยแล้ว สมัยนี้ ไม่ใช่ว่าอาหาร 5 หมู่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงสุขภาพสมบูรณ์เสมอไป เราจะลองวิเคราะห์ตัวเองอย่างพื้นฐานว่า ร่างกายเราขาดฮอร์โมนหรือมีอะไรเกิน เป้าหมายคือ ไม่มีโรคที่บั่นทอนความแข็งแกร่งของร่างกายและสมอง ประสาทเฉียบไว ความคิดปลอดโปร่ง มีความสุขตามวาระประจำวัน ไม่หงุดหงิด เบื่อสิ่งรอบตัวไปเสียหมด ทำให้บั่นทอนความสุขในชีวิต

ปัญหาที่ค้นพบยากที่สุดคือฮอร์โมน โรคทั้งหลายที่เข้าแถวตามกันมาตอนแก่ อยู่ที่ขาดฮอร์โมนเป็นเบื้องแรก ฮอร์โมนชะลอการผลิตลดลงตั้งแต่อายุ 18-20 ปี ยกเว้นว่า ใครจะเสริมฮอร์โมนเพื่อพยุงการผลิตให้ยืดยาวออกไปอีกได้บ้าง ฮอร์โมนจะออกคำสั่งระหว่างเซลล์ให้ทำงานตามปกติให้ครบ ถ้าขาดฮอร์โมนทุกอย่างแทบจะเพลียไปหมด เริ่มตั้งแต่ไม่มีการส่งเสริมเซลล์ให้แทนเซลล์ที่ตายแล้ว ไม่มีการซ่อมแซมเซลล์ที่ชำรุด และยิ่งถ้าร่างกายขาดไฮโดรเจน ออกซิเจน ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ คาร์บอน ซึ่งเป็นตัวประกอบที่จะสร้างอะมิโนแอซิดหรือโปรตีน ก็เริ่มขาดโปรตีน จะเห็นได้จากคนที่เริ่มไม่มีแรง เดินเหินไม่สะดวก ต้องพึ่งอุปกรณ์นานาชนิด เซลล์เริ่มทุพพลภาพ กลายเป็นศูนย์ เนื้องอก มะเร็ง เนื้อตายลุกลามไปเรื่อยๆ เพราะเซลล์ไม่สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเซลล์อื่นๆได้ เนื่องจากไม่มีฮอร์โมนคอยสื่อสารเหมือนตอนเติบโตจนอายุ 18-20 ปี หลังจากลดการผลิตฮอร์โมนไปเรื่อยๆ พออายุ 40 ปี ถึงจะรู้ว่าอะไรในร่างกายไม่เหมือนก่อน ไม่แข็งแรงดังก่อน ยกเว้นคนที่เริ่มสเปรย์โกรทฮอร์โมนใต้ลิ้น วันละ 3 เวลาก่อนอาหาร สัปดาห์ละ 5 วัน สัก 6 เดือน ก็ไม่ชรารวดเร็ว เพราะเติมด้วย ดี.เอ็น.เอ. ของฮอร์โมนไปสั่งงานด้วยวิธีสเปรย์ไต้ลิ้นให้ซึมเข้าสู่พิจุอิทารินายใหญ่ด้านล่างของสมอง ไปสั่งการผลิตฮอร์โมนแห่งการเติบโตเรียกว่า Growth Hormone เข้าสู่กระแสผลิตโลหิตไปเร่งการผลิตฮอร์โมนแห่งการเติบโตไม่ให้ขาดการสร้างเซลล์ใหม่แทนที่เซลล์ที่ตายแล้ว ไปเร่งการผลิตฮอร์โมนต่ออีกจนครบ ตามที่เคยผลิตเหมือนตอนเราเริ่มเติบโต คนที่เครียดหรือสูงอายุ ขาดฮอร์โมนดังกล่าว มักนอนไม่หลับ แถมกินจุ คนที่หิวบ่อยๆ แสดงว่าตัวเองมีฮอร์โมนชื่อ Ghrelin ผลิตโดยตับอ่อนทำให้เพิ่มความหิว ก็ต้องแก้ด้วยการมีฮอร์โมน Leptin เพื่อควบคุมความหิว สารตัวนี้อยู่ในโปรตีนของข้าวสาลีที่ชื่อกลูเต้น ซึ่งบางคนก็แพ้สารนี้ เกิดอาการหายใจไม่ออก เพียงแต่เป็นทางออกสำหรับคนไม่อยากหิวบ่อยๆ ก็ต้องทานขนมปังแป้งสาลี หรือวาฟเฟิล หรือแพนเค้ก หากรู้ว่าตัวเองไม่แพ้สารกลูเต้นนะ

การรักษาสุขภาพเบื้องต้นก็คือกินผักสด ผลไม้สด และถั่ว เพราะพืชเตรียมสารไว้เพื่อสร้างชีวิตใหม่ ในทายาทที่จะสร้างชีวิตต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็เติมฮอร์โมนที่ขาดให้ผลิตได้เต็มที่จากการสเปรย์โกรทฮอร์โมนจากขวดที่เขาผลิตไว้จำหน่าย เพื่อส่งเสริมการผลิตฮอร์โมนในร่างกายให้สม่ำเสมอ แม้จะวัยชรา ผู้เขียนเองเมื่อเริ่มต้นสเปรย์ใต้ลิ้นแล้ว ก็รู้สึกว่าร่างกายจะทำงานเป็นปกติดีขึ้น ยกเว้นว่าเมื่อมีอารมณ์เศร้าหรือ พบกับแก๊สพิษจากคาร์บอนโมนอกไซด์จากเตาแก๊สรั่ว หัวใจจะแสดงอาการทันทีด้วยความปวด ยังดีที่มีแมวเลียปลายนิ้วให้ส่งความสุขไปสู่สมอง สมองผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขไปสู่หัวใจ หายเจ็บหัวใจได้จากฮอร์โมนแห่งความสุขที่สมองผลิตขึ้น

อีกทางหนึ่ง ก็คือการกินอาหารที่สามารถแก้อาการต่างๆได้ เช่น

ปวดหัว กินปลา ได้โปรตีนเพื่อแก้อาการปวดหัว

ความจำเสื่อม กินหอยนางรม แร่สังกะสีในหอยนางรมช่วยประสาทความจำ หรือกินเม็ดแป๊ะก๊วย

นอนไม่หลับ กินน้ำผึ้ง ทำหน้าที่กล่อมประสาทให้หลับง่ายขึ้น

กระดูกเสื่อม เลี่ยงการกินสัตว์มีปีก กินปลาแซลมอน ทูน่า แมคเคอเรล ซาร์ดีน

กระดูกแตกหักหรือเปราะบาง กินสับปะรด ซึ่งประกอบด้วยแมงกานีส ช่วยบรรเทา

มะเร็งปอด กินส้ม ผักเขียว ซึ่งประกอบด้วยเบต้าคาโรทีนจะช่วยได้

แผลในกระเพาะ กินกะหล่ำปลีช่วยแก้อาการอักเสบ อย่ากินกะหล่ำปลีดิบ เมื่อผสมกับน้ำย่อยในกระเพาะอาหารอาจมีสภาพดุจดังไซยาไนด์ ซึ่งเป็นยาพิษถึงตาย

ท้องร่วงท้องเดิน กินแอปเปิล โดยปอกเปลือกทิ้งไว้ให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเพื่อแก้อาการนี้

ความดันโลหิตสูง ใช้น้ำมันมะกอก กินแซลเลอรี่ ทั้งสองอย่างมีสรรพคุณลดความดันโลหิต

น้ำตาลในเลือดผิดปกติ กินบร็อคโคลี่ซึ่งมีโครเมี่ยม เช่นเดียวกับในถั่วลิสง จะแก้ปัญหานี้ได้