สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
จิตดีมีสุขรักษาโรคได้

ดูอย่างมหาธีร์อายุ 92 ปี เป็นฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียอีก น่าคิดว่าบุคคลอายุปูนนี้ต้องมีจิตใสคิดทำการงานได้ผลพอที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารงานระดับประเทศได้ สมัยก่อนรัฐบาลอเมริกันคิดว่าอายุ 60 ควรเกษียณจากการทำงาน ตอนนี้ต่ออายุการทำงานได้ถึง 70 ปี ต่อไปจะต่อให้อีกไหม ถ้าพบว่าคนปูนเก้าสิบยังบริหารประเทศได้ อันที่จริง ถ้าเราเตรียมร่างกาย เตรียมสุขภาพจิตไว้ให้เหมาะ ก็น่าคิดว่ามีหวัง จะเตรียมอย่างไร

เริ่มที่จิต ถ้าคิดดีก็เป็นสุข ความสุขผลิตในร่างกายเรานี่แหละ โดยต่อมพิจุอิทารีอยู่ด้านล่างของสมอง ผลิตสารแห่งความสุขเรียกว่า เอนโดฟิน (Endorphin) ผลิตเมื่อมีการออกกำลังกาย จิตสำรวมเป็นสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความสำรวมจิตเป็นสุข ปราศจากการรบกวนด้วยประการทั้งปวง เช่น ความปวด ความริษยาอาฆาตคิดร้าย ต้องการทำลายผู้อื่น เช่น เมื่อรู้ว่าคนอื่นหายปวดเพราะกินชาจากสมุนไพร ก็ถอนต้นสมุนไพรทำลายเสียเพราะไม่อยากให้ผู้อื่นได้ดีหายปวด โดยรู้ไม่ถึงว่าจิตมีความสัมพันธ์กับร่างกายและวิญญาณ ผลร้ายได้กระทบตัวเองโดยทุกส่วนของชีวิตไม่เฉพาะในภพนี้รวมถึงภพหน้าด้วย เพราะติดตามไปกับวิญญาณ มนุษย์มีกระแสไฟฟ้าที่เราเรียกว่าออร่า อย่าประมาทว่า คิดร้ายต่อผู้อื่นตอนนี้แล้วตัวเองจะพอใจมีความสุขได้ เพราะความคิดริษยาได้ส่งกระแสไฟฟ้าไปยังวิญญาณระหว่างเซลล์ก่อให้เกิดผลร้ายต่อวงจรไฟฟ้าของวิญญาณแล้ว ผลร้ายได้เกิดขึ้นต่อระบบร่างกายไม่เฉพาะตอนนี้ติดวิญญาณไปถึงตอนหน้าแล้ว ก่อให้เกิดการบกพร่องในตัวเองโดยวงจรไฟฟ้าแห่งความคิดร้ายนั้น เป็นตัวทำลายในวงจรของตัวเองไม่มีความสุข ไม่มีเอนโดฟิน ร่างกายก็เสื่อมไปทุกส่วน เริ่มจากสมองส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายในทางทำลายมากกว่าการผลิตตัวส่งเสริมการสร้างร่างกาย ชีวิตนั้นมีความพยายามดำรงชีวิตอยู่เสมอ จะเห็นได้จากสมุนไพร ถึงแม้จะถูกทำลายจนสิ้นซาก แต่เมื่อได้รับปุ๋ยก็เจริญงอกงามเป็นชีวิตใหม่ได้ เพราะได้รับวงจรส่งเสริมชีวิต ตัวอย่างมีอยู่แล้วจากคนอายุ 92 ปี ยังสามารถทำงานบริหารประเทศได้

ย้อนกลับมาเรื่องการผลิตเอนโดฟินจากต่อมพิจุอิทารี นอกจากจะสร้างความสุขโดยทั่วไปแห่งจิตแล้วยังส่งผลให้ร่างกายอีก 10 ระบบทำงานแข็งแรงไปด้วยกัน ที่สำคัญที่สุดที่เราได้รับคือ ฮอร์โมนสร้างความสุขนี้เข้าสู่จักระหรือศูนย์รวมอวัยวะที่เราได้ประโยชน์ด้วยการบำบัดผ่านมือไปยังจักระต่างๆ ส่งผลในทางรักษาระบบของร่างกายโดยทางอ้อมด้วย และไม่แต่เป็นการบำบัดตัวต่อตัวเท่านั้น เราสามารถส่งการรักษาไปทางกระแสงจิตโดยสมาธิด้วย หากเราฝึกการรวมสมาธิได้แน่วแน่เพียงพอ เริ่มจากการเรียนรู้วิชาเร็คคี้ คือการฝึกสมาธิแล้วส่งผ่านไปตามเส้นทางฮาร่า และ คุนดาลินี เพื่อให้บรรลุถึงบ่อเกิดแห่งการไม่สบายนั้นในตัวบุคคลที่อยู่ตรงหน้าหรือไกลออกไป ในวิชาที่รวบรวมไว้ในหนังสือชื่อ การบำบัดด้วยเร็คคี้และจักระ (Healing with Reiki and Chakra) ซึ่งผู้เขียนจัดทำขึ้นประกอบการสอนวิชานี้ที่ Burbank Adult School แต่ตอนนี้กำลังคิดว่าจะปรับปรุงหนังสือเล่มนี้ให้ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น และไม่คิดว่าจะจำหน่ายเพราะการฝึกวิชานี้ต้องประกอบด้วยภาคปฏิบัติจึงจะได้ผลตามความมุ่งหมายของวิชาการ ซึ่งคิดค้นไว้โดยพระเถระชื่อ ดาสิรา นราดา มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยปี ค.ศ. 1846-1924 และใช้บำบัดได้ผล ผู้เขียนรู้สึกทึ่งในวิชาการ และได้เรียนเพิ่มจากอาจารย์คุณย่าเยาวเรศ บุนนาค ที่เมืองไทยเมื่อปี ค.ศ. 2010

ที่สรุปมานี้ เพื่อเป็นการยกย่องวิชาการที่อยู่ใกล้ตัวเราเอง สามารถบำบัดโรคด้วยตัวเอง และยังช่วยบำบัดผู้อื่นได้ หากฝึกตามหลักวิชาการสมาธิ มีจิตบริสุทธิ์ และส่งพลังผ่านโดยมือ หรือกระแสจิตรวบรวมโดยสมอง ไปยังจุดหมายปลายทาง ผ่านคลื่นรอบตัวเราเรียกว่าพลังคอสมิค โดยหลักวิทยาศาสตร์ของ Quantum Physics หรือความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและความเร็ว ซึ่งมีประจักษ์พยานแล้วว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธสามารถระลึกชาติย้อนหลังได้นับร้อยชาติหลังจากที่บำเพ็ญสมาธิเป็นเวลา 6 ปี ทรงระลึกได้ถึงชื่อบุคคลและชื่ออาหาร

และเป็นผลสรุปอีกประการหนึ่งว่า ขอให้รักษาจิตให้บริสุทธิ์ ไม่ประสงค์ร้ายต่อบุคคลหรือสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ และพืช เพราะจิตร้ายจะทำลายร่างกายตนเอง แต่ไม่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตอื่นได้ เห็นได้จากพืชสมุนไพรที่ถูกทำลายย่อยยับ ยังสามารถงอกชีวิตใหม่ได้ ด้วยจิตบริสุทธิ์และดิน น้ำ ลม ไฟ คือ แสงแดดช่วยเชิดชูชีวิตให้งอกใหม่ได้ เป็นที่ละอายต่อจิตร้าย ซึ่งนับวันจะทำลายตนเองก่อนด้วยหลักวิทยาศาสตร์ดังกล่าวข้างต้น ตามศาสตร์ที่ว่า Mind – Body – Spirit are hermetically sealed. หรืออีกนัยหนึ่ง จิตดี พาให้ร่างกายเจริญ และวิญญาณบริสุทธิ์ สามารถรักษาโรคแห่งร่างกายและจิตใจของตนเองและผู้อื่นได้

เรื่องนี้ควรเอวังด้วยประการฉะนี้ แต่อยากเพิ่มเติมว่า พลังคอสมิคที่เราส่งพลังจิตผ่านคลื่นที่ว่านี้ไปรักษาผู้ที่อยู่ไกลได้อย่างไร พลังคอสมิคเป็นคลื่นรอบตัวเรา มาจากดวงดาวต่างๆ ที่มีสีต่างๆ กัน เช่น พระจันทร์ สีเหลือง ดาวอังคารสีแดง ดาวพุธสีเขียว ดาวพฤหัสสีส้มหรือแสด ดาวศุกร์สีฟ้า ดาวเสาร์สีม่วง ด้วยเหตุนี้ เราก็ใช้ตัวแทนเป็นหินที่มีสีสอดคล้องกันกับพลังนั้นในการบำบัดรักษา โดยนำหินสีที่ตรงกับการบำบัดแช่น้ำตากแสงอาทิตย์เป็นเวลา 8 ชั่วโมงแล้วดื่มน้ำนั้นเพื่อผลทางการบำบัดภายในเสริมอีกทางหนึ่ง

พลังคอสมิคมีความถี่สูงกว่าพลังแสงอาทิตย์เป็น 10 เท่า ความหมายแต่ละสีมีคุณค่าต่างกัน พลังคอสมิคมีคุณค่า 12 ประการคือ

1.มีตัวยาใช้รักษาได้

2.ทะลุทะลวงได้ทุกสิ่ง

3.รวมกันเป็นพลังดิน

4.มีพลังเหนือพลังอื่นๆ สามารถผสมกับพลังแสงอาทิตย์ได้

5.มีขั้วบวก ขั้วลบ สามารถสะท้อนกลับได้

6.สามารถพุ่งจากร่างกายได้โดยรอบ เช่น มือ หน้าผาก กระหม่อม ไม่มีจักระเป็นใหญ่

7.สามารถนำไปแหล่งอื่นได้โดยใช้สายไหม

8.สามารถเก็บรักษาได้ในน้ำ

9.สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในดิน น้ำ ลม ไฟ

10.สามารถควบคุมได้ด้วยอำนาจสมาธิ

11.สามารถใช้กับการทำงานหรือก่อให้เกิดการควบคุมระบบประสาท

12.สามารถใช้ได้ในทางสร้างสรรค์คุณงามความดี

ร่างกายของมนุษย์สร้างด้วยของเหลง ของแข็ง และแก๊ส จึงสามารถทำงานกับระบบคลื่นเพื่อรักษาโรคได้ มนุษย์มีกระแสไฟฟ้าเรียกว่า Aura ที่เราสามารถเห็นได้ในที่มืด ผู้ที่มีสมาธิแก่กล้ามีจิตบริสุทธิ์มีออร่าเห็นได้เป็นสีทอง คนที่จิตร้ายจะเห็นออร่ามัวหมองหรือไม่มีออร่า คือ มืด