สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
พร้อมหรือยังสำหรับปีใหม่ชีวิตใหม่

วันคริสต์มาสเป็นการฉลองวันประสูติของพระกุมารเยซู แปลว่าพระผู้ช่วยให้รอด หรือ พระคริสตเจ้าบังเกิดที่เมืองดาวิด ชื่อเก่าของเมืองเบทเลเฮม ประเทศอิสราเอล ห่างจากเยรูซาเลม 9 ก.ม. ห่างจากนาซาเรทประมาณ 110 ก.ม. ทั้งหมดนี้อยู่ตะวันออกกลาง ที่เราเรียกว่า Middle East รอบล้อมด้วยประเทศเลบานอน ซีเรีย จอร์แดน อิสราเอล อียิปต์ ไม่ใช่รัฐแถบตะวันออกกลางของสหรัฐอเมริกาที่เจอทั้งพายุและน้ำท่วมเมื่อเร็วๆนี้ วันคริสต์มาสเราเพิ่มความสุขด้วยการประดับบ้าน มีต้นคริสต์มาสสีเขียวติดโบว์และประดับด้วยไฟระยิบสวยงาม ผู้เขียนประดับโต๊ะอาหารด้วยตุ๊กตาแซนตาครอสสีแดง นั่งหน้าช่อดอกไม้สีชมพูอีกมือหนึ่ง วางบนกล่องของขวัญสีทองผูกโบว์แดง มีช่อดอกไม้สีชมพูดและสีขาวอยู่ข้างแซนต้า ยังนึกไม่ออก ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ด้านหลังแซนต้ามีกิ่งต้นคริสต์มาส เพราะสั่งซื้อต้นคริสต์มาสที่เขาประดับไฟให้เสร็จยังไม่ส่งมาถึง คงเจอภาวะอากาศและคนหยุดงาน เลยประดับแค่กิ่งคริสต์มาสสีเขียวไปก่อนให้ครบตามธรรมเนียมแดงเขียว เป็นสัญลักษณ์ว่าแซนต้ากำลังให้ดอกไม้และของขวัญประจำปีแก่ทุกคน ส่วนพริกหยวกเล็กๆ สีส้มกับสีแดงที่กะว่าจะประดับต้นคริสต์มาสตอนนี้ไปฉลองอยู่ในจานผัดไทยจะได้ครบเครื่องการกินฉลองคริสต์มาสเข้าปากด้วย ผู้เขียนทำกับข้าวไม่เป็น ทำเป็นแต่ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ซึ่งง่ายมาก สเปรย์กระทะด้วยน้ำมันพืชโคล่าออยล์แล้วใส่เส้นผัดไทยที่ตัดให้ความยาวพอเหมาะกับการกินสะดวก แล้วเติมน้ำกลั่นลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยวเพื่อรอให้เส้นนิ่ม ก่อนที่จะสเปรย์น้ำมันพืชลงข้างกระทะ แล้วต่อยไข่ลงไปที่ริมกระทะ พอไข่แดงเริ่มสุกก็คลุกเส้นก๋วยเตี๋ยว แล้วเหยาะซอสผัดไทยกับซีอิ้วเห็ดหอม คลุกไปมาให้เคล้ากันพอสุกก็โรยต้นหอมเขียวหั่นเล็กๆกับพริกหยวกสีส้มและสีแดงเพื่อเป็นผัดไทยในวาระฉลองวันแห่งคริสต์มาส เวลากินก็ได้บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง ถ้าใส่เชิ้ตแดงกับกระโปรงลายเขียวยิ่งครบชุดฉลองคริสต์มาสเลย เพราะไม่แต่เราจะฉลองวาระนี้เท่านั้น ต้น Poinsettia ก็ฉลองด้วยการออกดอกตรงยอดเป็นสีแดงแทนใบสีเขียว เฉพาะเดือนนี้ที่เป็นวาระแห่งการฉลองวันคริสต์มาสเท่านั้น ทั้งปีไม่เคยมีใบสีแดงมีแต่ใบสีเขียว นางฟ้าคงมาอวยพรฉลองวันแห่งความสุขให้เราด้วย เพราะมีนางฟ้าให้เลือกจากดิคชั่นนารีรวบรวมชื่อนางฟ้าให้เลือกตามใจชอบ ชื่อว่า A Dictionary of Angels แล้วแต่ใครจะเลือกนางฟ้าชื่ออะไรเรียกว่า endless delight to all seekers of wisdom and pleasure มาประสาทพรอะไรบ้างที่เราต้องการ ให้แก่ผู้แสวงหาพรนั้นๆ เลือกนางฟ้าได้ตามใจชอบ สมกับเป็นวาระแห่งการเฉลิมฉลองก่อนสิ้นปี

เรื่องความเป็นมาของต้นคริสต์มาส ย้อนหลังไปศตวรรษที่ 8 เมื่อมิชชั่นนารีขาวอังกฤษเดินทางไปเยอรมันเพื่อประกาศเรื่องพระเจ้า ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกประหารเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ค ท่านก็ช่วยเด็กไว้และโค่นต้นโอ๊คทิ้ง ก็ได้พบต้นสนเล็กๆต้นหนึ่งขึ้นอยู่ใต้ต้นโอ๊ค ท่านจึงขุดเอาให้คนเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตและตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมันได้ตัดต้นสนไปตั้งไว้ในบ้านเรือนในเดือนธันวาคม ปี 1540 หลังจากนั้น ในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงแพร่หลายไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก

นอกจากนั้น เทศกาลคริสต์มาสยังเป็นเทศกาลแห่งเสียงเพลง บทเพลงคริสต์มาสส่วนใหญ่แต่งขึ้นในยุคของพระราชินีวิคโตเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) และได้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน ตัวผู้เขียนเองไม่เคยเห็นการแสดงคอนเสิร์ตที่ประกอบด้วยผู้เล่นดนตรีนับหมื่น ทั่วอาคารหอประชุมเป็นวงกลม แต่ละส่วนจะมีสตรีแต่งกายด้วยสีฟ้าบ้าง สีอื่นบ้าง แล้วแต่ Section ของห้องประชุม สีไม่เหมือนกัน ร้องเพลงคริสต์มาสประสานเสียงกับบุรุษแต่งสูทสีเข้ม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้เขียนได้ดูการแสดงของวงดนตรีออเคสตร้าที่แสดงด้วยคนมากขนาดนั้น เรียกว่าใหญ่มหึมาเต็มโบสถ์วงกลม ที่มีทั้งเครื่องเป่า เครื่องฉิ่งฉาบและกลอง เครื่องดีดพิณ เปียโน ออร์แกน เรียกว่าครบทุกเสียงที่จะบรรเลงเพลงแห่งคริสต์มาส นับว่าโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นและได้ยิน นับเป็นวาระแห่งประวัติศาสตร์ และมีโอกาสได้เข้าใจวาระอันสำคัญนี้

ส่วนประวัติความเป็นมาแห่งซานตาครอส ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นที่สุดในวาระคริสต์มาส มาจากเด็กๆที่เขียนจดหมายแจ้งความประสงค์ต้องการของขวัญไปยังบุรุษสูงวัย ร่างอ้วน สวมชุดแดง หนวดเครารุงรัง บุคคลผู้นี้เด็กๆ เชื่อมั่นว่าจะดลบันดาลความฝันของตนให้เป็นจริงได้ ตามประวัติเล่าว่า เซนต์นิโคลัส แห่งเมืองมีรา สมัยศตวรรษที่ 4 คือผู้ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นแซนตาครอสคนแรก เพราะวันหนึ่งท่านขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่งและทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นลงไปในถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงในคืนก่อนวันคริสต์มาส เรื่องราวของแซนตาครอสถูกเล่าจนกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และถือเป็นบุคคลสำคัญในเทศกาลวันคริสต์มาสแต่ละปี

ส่วนกำเนิดของพระเยซูคริสตเจ้านั้น พระธรรมแมทธิวบทที่ 1:21 ได้บันทึกเรื่องราวการกำเนิดของพระเยซูดังนี้ มีผู้มาบอกแก่มารีหญิงพรหมจารีว่า “เธอจะประสูติบุตรชาย และเขาจะเรียกนามของท่านว่า เยซู พระผู้ช่วยให้รอด” พระกุมารเยซู คือบุคคลสำคัญในเรื่องราววันคริสตมาส เพราะถ้าปราศจากพระองค์แล้ว ก็จะไม่มีวันคริสต์มาส

เหตุที่ใช้วันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันฉลองคริสต์มาส ถือต้นกำเนิดมาจากวันเทศกาลเลี้ยงปีใหม่ของชาวโรมัน ซึ่งเริ่มจากวันที่ 17 ธันวาคม ถึง ต้นมกราคม เป็นงานเลี้ยง 12 วัน และในเวลาเดียวกันเพลงคริสต์มาสของคริสเตียนก็ดังกระหึ่ม มีทั้งจังหวะที่เคร่งขรึม และจังหวะที่สนุกสนาน ในวันที่ 25 ธันวาคม ชาวโรมันใช้เป็นวันฉลองเทศกาลบูชาพระอาทิตย์ที่เริ่มส่องแสงยาวนานขึ้น แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือเขาไม่จำเป็นที่จะบูชาพระอาทิตย์อีกต่อไป เพราะเหตุที่เขาได้พบกับผู้ที่สร้างพระอาทิตย์ คือพระเจ้าที่ส่งพระเยซูมากำเนิดในโลกนี้ ชนชาติที่ได้พบความจริงเกี่ยวกับเรื่องราววันคริสต์มาสก็ทำให้การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสมีรสชาติมากขึ้น เพราะรู้ถึงความสำคัญและความหมาย

จึงเกิดธรรมเนียมการมอบของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส และปีใหม่ ปีนี้ ผู้เขียนได้รับของขวัญที่ใช้สอยได้ถูกปาก เช่นหมูหยองที่โรยหน้าข้าวและบีบี้แมวแสนรู้ประจำตัวชอบกินเมื่อเห็นผู้เขียนเข้านั่งโต๊ะอาหาร นอกจากนั้นมีผักกาดดองกระป๋องสามรส ที่ตัวเองคงไม่คิดที่จะซื้อแต่กลับเป็นของแกล้มชูรสอาหารได้ยอดเยี่ยม เวลากินผัดไทยหรือม้วนห่อกับแผ่นโรตีทาน้ำพริกเผาโรยหน้าด้วยหมูแดงเมื่อเติมผักกาดดองหั่นชิ้นเล็กๆแล้วอร่อยขึ้นมาก เรียกว่าของขวัญปีนี้เปิดศักราชการกินต่างไปจากเดิม อย่างเช่นหัวไชโป๊แห้งที่สามารถทอดใส่ไข่กินกับข้าวต้ม หรือเติมในก๋วยเตี๋ยวผัดไทยเพื่อเพิ่มรส นอกจากนี้มีข้าวสารขาวซึ่งผู้เขียนเลิกกินข้าวน้ำตาลเพราะนุ่มปากเคี้ยวง่ายกว่าเนื่องจากฟันเป็นรูแล้วตามวัย แถมมีไข่ให้อีกหนึ่งโหล เป็นของจำเป็นต้องมีติดตู้เย็นไว้เสมอสำหรับปรุงอาหารสารพัดอย่าง เรียกว่า คนจัดของขวัญปีนี้ถูกใจโก๋จริงๆ

ความรู้ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้ ได้รับเอกสารจากโบสถ์คริสตจักรพระกิตติคุณที่ติดตามคนดูแลไปเป็นครั้งแรก เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า เจ้าแมวบีบี้แสนรู้ปลุกผู้เขียนตั้งแต่ 6 โมงเช้า ราวกับรู้ว่าแม่มีนัดแต่เช้าที่โบสถ์เขาแจกเอกสารเรื่องราวความเป็นมาของวันคริสต์มาส จึงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวเทศกาลสำคัญแห่งปีมาเล่าสู่กันฟังได้ ภาพหน้าปกถือเป็นภาพสัญลักษณ์แห่งศาสนาคริสต์ เป็นภาพมารีกำลังอุ้มพระกุมารเยซูในอ้อมแขน รอบล้อมด้วยแม่แกะลูกแกะสีขาว 3 ตัว ที่หน้าต่างมีอูฐและโคมองดูทารกด้วยความปราโมทย์ คนเขียนภาพใส่อารมณ์ในใบหน้าสัตว์ได้เยี่ยมยอด เป็นวาระการประสูติพระเยซู ผู้มีชีวิตอยู่ในโลก 33 ปีเศษ ได้ตายไป และได้เป็นขึ้นมาจากความตาย และกลับสู่สวรรค์และทรงชีวิตอยู่ พระเยซูทรงเป็นของขวัญล้ำค่าและประเสริฐสุดที่พระเจ้าได้ทรงประทานให้แก่มนุษย์ เพราะความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ถ้าไม่ได้เอกสารนี้ ก็คงไม่มีความเข้าใจพอที่จะถ่ายทอดความสำคัญของศาสนาคริสต์สู่ผู้อ่านได้ จึงขอให้ทุกท่านมีความสุข ดำรงชีวิตใหม่ในปีใหม่นี้อย่างเจริญก้าวหน้าสมประสงค์