สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ฤาเป็นความผิดของระบบ/ช่องว่างของความคิด

ข่าวประจำวันส่วนใหญ่เป็นความผิดอาญา ถ้าไม่ใช่ทางเพศก็ประทุษร้ายร่างกาย ทำให้น่าคิดว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้น่าจะผิดมานานแล้ว ตั้งแต่ผู้วางแผนรากฐานระบบการศึกษา จนถึงช่องว่างของความคิด ระหว่างพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ เพื่อนฝูง จนถึงผู้รับเคราะห์กระทำความผิดนั้นโดยไม่รู้ตัวว่าป่วยทางจิตเพราะสาเหตุของระบบการศึกษาที่มีมานานแล้ว หรือเพราะขาดความคิดที่ถูกต้องถ่ายทอดมาจากผู้อื่น

เปรียบเทียบระบบการศึกษาของอเมริกากับเมืองไทย ผู้เขียนเรียนหนังสือตั้งแต่อนุบาลจนจบมัธยม 8 ที่โรงเรียนเดียว ชื่อสตรีผดุงศิษย์พิทยา สอนศีลธรรมตลอดทุกชั้น แถมตามคุณแม่ไปฟังเทศน์ของศาสนาพุทธก็ได้แต่สัจธรรมที่เป็นหลักในการดำรงชีวิต ภาษาอังกฤษก็ได้ฝึกจากฝรั่งที่มาสอนศาสนาคริสต์ตามบ้าน เรียกว่าอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวตลอด โอกาสที่จะคบเพื่อนพาไปหาผิดนั้นยากมาก เปรียบเทียบกับข่าวอาชญากรรมในปัจจุบัน ที่เด็กหญิงในวัย 12 ขวบสามารถก่ออาชญากรรมแทงเพื่อนหญิงถึง 19 แผล สามารถเล่าเหตุการณ์ให้ศาลฟังโดยไม่รู้สึกผิดอันใด ฝ่ายแม่ซึ่งพบรูปวาดที่เด็กหญิงมีจินตนาการว่าอยากตาย ช่วยฉันที ฉันเห็นร่างผู้ชายมาบอกให้ฆ่าเพื่อน ถ้าไม่ทำเขาอาจมาทำร้ายฉันภายหลัง แม่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดลูกสาวพอสมควร ครั้นผู้พิพากษาพิจารณาโทษอย่างผู้ใหญ่ให้จำคุก 26 ปี ฝ่ายแม่บอกว่าไม่เห็นด้วยที่พิจารณาอย่างผู้ใหญ่ เพราะยังเป็นเด็ก แต่หารู้ไม่ว่า เกิดช่องว่างระหว่างความคิดของแม่กับเด็กหญิงนานแล้ว เพราะแม่ไม่เคยติดตามความคิดของลูกสาว ไม่เคยให้คำแนะนำที่อบอุ่น ไม่เคยใกล้ชิดกับพฤติกรรมระหว่างที่ลูกสาวเติบโต แม่ไปอยู่ที่ไหนทำไมถึงโง่ปานนั้น ไม่ทันความทุกข์ของเด็กบ้างเลยหรือ แล้วจะให้พิพากษาอย่างเด็ก เมื่อเด็กโตในคุกออกมาก็ยังมีความคิดอย่างเดิมสมัยที่เข้าคุกตอนเป็นเด็ก ระบบการศึกษาได้ขาดช่วงไปตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่บ้าน ในคุกก็ไม่ได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ให้ทันกับโลก ออกจากคุกทำงานหารับประทานอย่างไร ก็ต้องก่ออาชญากรรมเร็วขึ้นอีกเพื่อความอยู่รอดของชีวิตตัวเอง อาชญากรรมก็รุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะได้รับการเสี้ยมสอนในคุกจากมืออาชญากรรมอาชีพที่ติดคุกอยู่ เรื่องก็สะสมเรื่อยมาเป็นทวีคูณ เพียงเพราะระบบการศึกษากำหนดให้เรียนเพศศึกษาตั้งแต่มัธยมเรื่อยมา เติบโตด้วยการพัฒนาความอยากทางเพศ ไม่มีทางออกใดก็ประกอบอาชญากรรมเพื่อให้สมอยาก ความผิดจึงอยู่ที่ระบบการศึกษาและช่องว่างระหว่างภายในครอบครัว

ถ้าลองวิจัยอาชญากรรมทุกครั้ง ข่าวไม่เคยบอกระดับการศึกษาของผู้ผิด แต่ก็สงสัยว่าครอบครัวเป็นอย่างไร ใกล้ชิดกันหรือไม่ ยกตัวอย่างเด็กหญิงอายุ 12 ที่แทงเพื่อนถึง 19 แผล ผู้พิพากษาบอกว่ามีการไตร่ตรองไว้ก่อน ก็แน่นอนว่าเด็กเป็นทุกข์อยู่นานมาแล้ว ช่องว่างของผู้เป็นแม่กับเด็ก กับการไปโรงเรียนไม่ได้ช่วยป้องกันอาชญากรรมล่วงหน้า หรืออย่างเด็กชายอายุ 17 ที่ซื้อปืนมากราดยิงนักเรียนและผู้ฝึกกีฬาตายเป็นสิบคน เขาไม่ได้ผิดตรงที่ประกอบอาชญากรรมอย่างเดียว แต่สะท้อนว่า โรงเรียนผิด ผู้บริหารการศึกษาผิดที่ไล่เด็กออกจากโรงเรียน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กมีความประพฤติไม่เหมาะสม โรงเรียนควรมองให้ลึกว่า เพราะอะไรเด็กจึงมีความประพฤติอย่างนั้น ให้การช่วยเหลือโดยนักจิตวิทยาให้การอบรม ประสานงานกับผู้ปกครองทางบ้าน ดูแลสองส่องพฤติกรรมก่อนเกิดเหตุร้ายแรง ที่ผิดก็คือระบบการศึกษาไม่ได้บริการพอสมควรกับบุคคล เงินภาษีของประชาชนถูกใช้ไปอย่างฉาบฉวย ไม่ได้มองให้ลึกซึ้งถึงระบบการศึกษาว่าโรงเรียนคือสถานที่ให้ความช่วยเหลือ ให้การศึกษาต่อเด็กที่ขาดด้านนี้ ไม่ใช่ไล่ออก ปล่อยให้เด็กขาดระบบที่ควรเป็นที่พึ่ง ปล่อยเดี่ยวให้ไปคิดเอาเอง การฆ่าคือทางออกที่เด็กชดเชยอารมณ์แห่งความผิดหวัง หมดที่พึ่ง ด้วยการประกอบอาชญากรรม ที่เรียกเสียสวยหรูว่าฆ่าล้างแค้น

มองให้ลึก โรงเรียนคือสถานที่แห่งสุดท้ายที่เด็กจะหาที่ปรึกษาทางจิตเพื่อทางออกที่นุ่มนวล จริงอยู่โรงเรียนมีนักจิตวิทยา เขาทำอะไรบ้าง ใกล้ชิดกับเด็กที่มีปัญหาแค่ไหน หรือจะรับเรื่องเพียงเมื่อมีคนขอเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เห็นปัญหาของจิตใจเด็กหรือไม่ ไม่ใช่ว่า “เด็กคนนี้ความประพฤติไม่ดีสมควรให้ไล่ออก” แล้วเด็กที่กำลังประสบปัญหาต้องการที่พึ่ง ต้องการคำแนะนำ จะไปหาที่พึ่งที่ไหน นอกจากโรงเรียนที่เขารู้จัก นอกจากบ้านที่ไม่มีพ่อ แม่ก็ไม่รู้อยู่ไหน

นี่คือปัญหาของระบบการศึกษา และช่องว่างในครอบครัวที่เป็นข่าวอาชญากรรมอยู่ทุกวันนี้

ผู้เขียนพยายามคิดว่า การสอนวิชาเร็คคี้และบำบัดด้วยจักระ จะช่วยให้นักเรียนนำไปบำบัดผู้ต้องการความช่วยเหลือเหล่านี้ แต่รัฐบาลก็ยังคิดแบบธุรกิจอยู่ดี คือถ้าได้รายรับจากนักเรียนไม่พอกับรายจ่ายจ้างครูก็ไม่เปิดชั้นเรียน ไม่เป็นไรสำหรับผู้สอน แต่สำหรับคนที่อาจจะไม่ประกอบอาชญากรรมมีความหมายมาก สามารถประหยัดเงินภาษีของรัฐ ประหยัดเวลาของตำรวจ ประหยัดเวลาของผู้สอบสวน ประหยัดเวลาศาล และประหยัดเวลาของผู้เดินทางรถติดจากอาชญากรรมไปเท่าไหร่ ชั้นเรียนนี้จะเปิดอีกครั้งวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. นี้ ถ้าจำนวนนักเรียนคุ้มค่าใช้จ่ายของโรงเรียนที่เบอร์แบงค์ อดัลท์สคูล ไม่เคยมีนักเรียนคนไทยเลย ทั้งๆ ที่ผู้เขียนเรียนวิธีการบำบัดด้วยจักระมาจากเมืองไทย อาจจะเป็นเพราะว่าคนไทยที่มาอยู่อเมริกาวุ่นวายกับชีวิตพอสมควร

วิชาเร็คคี้ คือการใช้พลังสมาธิจากจิตของผู้บำบัดผ่านคลื่นของพลังคอสมิครอบตัวไปยังผู้รับการบำบัด ตามตำแหน่งของจักระ หรือศูนย์รวมอวัยวะในร่างกายของผู้รับ ชั้นเรียนเปิดทุกวันเสาร์ เวลาบ่ายโมงถึงสามโมง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ติดต่อโรงเรียนได้ที่ Burbank Adult School เบอร์โทรศัพท์ (818)558-4611 เลขที่ 3811 West Allen Ave., Burbank, CA 91505

ผู้เขียนต้องการระบายอุปกรณ์สำหรับห้องทำผิวนวดหน้าจากโรงเก็บ ประกอบด้วย เตียงไฮโดรลิค อุปกรณ์ปัดฝ้า เครื่องอบผ้าขนหนู อุปกรณ์พ่นไอน้ำ ผู้ใดสนใจพบผู้เขียนได้ที่ชั้นเรียน